
ได้ชื่อว่าเป็นไอดอลยุคบุกเบิกที่ไปสร้างชื่อเสียงในเกาหลีก็คงไม่ผิด สำหรับ ‘คุณ-นิชคุณ หรเวชกุล’ หนึ่งใน Broach คนสำคัญของรายการ The Brothers Thailand ที่จะมาคอยรับหน้าที่ดูแลเด็กๆ ในเรื่องการแสดงบนเวที ซึ่งเจ้าตัวมุ่งมั่นที่อยากจะนำประสบการณ์บนเส้นทางบันเทิงที่มีมากกว่า 10 ปี มาแชร์ให้เหล่าน้องชายได้ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกของไอดอลที่ไม่ว่าใครก็อยากเข้าใกล้ ผ่านมุมมองที่ไม่ได้มีแต่ด้านสวยงามอย่างเดียว และรายละเอียดเล็กๆ แต่สำคัญที่ไม่สามารถหาได้ในบทเรียนไหน
คุณเคยบอกไว้ว่าปีนี้คงได้เจอกันบ่อยๆ ดูเหมือนจะจริงใช่ไหม
ใช่ครับ ช่วงนี้กลับมาเมืองไทยบ่อย มีถ่ายหนังไปแล้วเรื่องหนึ่งเป็นหนังผี คือจะได้เห็นผมในอีกมุมมองที่ไม่ใช่แบบแฟนผู้แสนดี เพราะเรื่องนี้จะค่อนข้างดาร์กหน่อย และมีซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งคือ My Bubble Tea เกี่ยวกับชานมไข่มุกที่มีเวทมนตร์ รวมถึงรายการ The Brothers Thailand ด้วย
งานซีรีส์ หนัง หรือเพลง สำหรับคุณคงไม่เซอร์ไพรส์เท่าไร อยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงตอบตกลงเข้าร่วมรายการ The Brothers Thailand
เขามาคุยเรื่องโปรเจ็กต์นี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้วว่าอยากทำรายการเรียลิตี้เกี่ยวกับการสร้างบอยแบนด์ ตอนแรกผมก็รู้สึกว่ารายการอย่างนี้มีเยอะแล้ว อีกทั้งไม่ค่อยชอบที่มันดราม่าเกินไป แต่เขาบอกว่าจะไม่มีการคัดออก คือจะเลือกคนมาแล้วก็ดำเนินการต่อไปเลย โดยไม่ได้ให้ผมไปเป็นคนติวเด็ก แต่ให้ไปช่วยแชร์ประสบการณ์ที่เคยมีมาในวงการบันเทิง เขาอยากสร้างไอดอลที่มีคุณภาพ ทั้งด้านความสามารถและความเป็นสุภาพบุรุษ แล้วบอกว่าจะไม่มีสคริป ไม่มีดราม่าให้ Broach มาทะเลาะกัน คุณจึง OK! เพราะคิดว่าน่าจะช่วยแชร์อะไรให้น้องๆ ได้เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องระบบการทำงานของเกาหลี รวมถึงประเทศอื่นๆ อย่างจีนและญี่ปุ่น ซึ่งผมจะถนัดเรื่องการแสดงบนเวทีมากกว่าพี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พี่อนันดา เอเวอริงแฮม และมาริโอ้ เมาเร่อ
สมมติมีน้องชายอยู่ในวงการบันเทิงจริงๆ มีเรื่องอะไรที่คิดว่าต้องบอกเขาไหม
ก่อนอื่นต้องรู้จักให้เกียรติผู้หญิงที่ทำงานด้วย นี่คือเรื่องสำคัญครับ เพราะบางทีเขาอาจไม่ได้คิดอะไรว่าจะไปแต๊ะอั๋ง แต่การไปจับตัว ไม่ว่าจะเป็นทีมงานหรือนักแสดงด้วยกัน มันไม่ได้…ต้องคอยระวัง นอกจากจะสนิทกันจริงๆ แล้วมันยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นรายละเอียดมากๆ คือเรื่องพวกนี้ไม่มีใครสอนได้ ไปเรียนที่ไหนก็ไม่มี อย่างการร้องเพลง เต้น หรือแสดง ยังไปฝึกซ้อมหรือเรียนกับครูให้เก่งได้ แต่เรื่องพวกนี้คือพื้นฐานที่อยู่ภายในจิตใต้สำนึกของคน ซึ่งต้องถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ใช่ว่าฉันต้องไปช่วยคนอื่นถือของ เพราะมีคนมองอยู่ แต่มันต้องเป็นสิ่งที่เราทำจนเป็นชีวิตประจำวัน
ตามมุมมองของคุณคิดว่าคนที่จะอยู่ในวงการบันเทิงได้ ควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นดาราหรือศิลปินคือความซื่อสัตย์! ต้องไม่โกหก ถ้าไม่เก่ง ก็บอกว่าไม่เก่ง เพราะผมรู้ตัวว่าไม่ใช่คนที่ร้องเพลงหรือเต้นเก่งที่สุด มันจึงทำให้ผมสามารถพัฒนาตัวเองได้ เพราะผมไม่โกหกตัวเอง แล้วอย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วหลายครั้งว่าถ้าไม่มีเรื่องดีๆ ให้พูด ก็ไม่ต้องพูด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองหรือคนอื่น เพราะคนฟังแล้ว อาจไปทำตาม รวมถึงเรื่องที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดว่าจะทำ อย่างบางเรื่องผมคิดว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แต่รู้ว่าถึงอย่างไรก็ห้ามตัวเองไม่ได้อยู่ดี ผมก็จะไม่พูด คือพูดแค่จะพยายามไม่ทำแค่นั้นพอ
มีคนบอกว่าเดี๋ยวนี้ใครก็เป็นไอดอลได้ แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียว ในฐานะที่ใช้ชีวิตผูกติดกับคำว่าไอดอลมานาน คิดอย่างไรกับคำพูดนี้
จริงๆ ผมไม่ชอบคำว่าไอดอลเท่าไรนะ เพราะคนชอบคิดว่าไอดอลต้องเด็ก เพอร์เฟกต์ หล่อ น่ารัก หรืออะไรก็ตาม ทั้งหมดคือสรรพนามที่เขาใช้เรียกคนที่ออกมาร้องเพลงเป็นกลุ่มและหน้าตาดี ผมจึงไม่ค่อยชอบคำนี้ มีเด็กคนหนึ่งถามผมว่าพี่คุณครับ ไอดอล ศิลปิน และดาราต่างกันอย่างไร ผมตอบเขาไปว่า 2PM ก็คือไอดอล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ออกมาร้องเพลงด้วยกัน ดาราก็คือคนที่มีคนรู้จักและเป็นที่จับตามองของคนทั่วไป ส่วนศิลปินก็คือคนที่มีความสามารถจริงๆ และตัดสินใจได้เองว่าเขาจะทำอะไร ซึ่งผมว่าตอนนี้ใครก็เป็นดาราได้แล้ว แค่มีกล้องอยู่ตรงหน้า แต่สิ่งที่ผมอยากได้จากรายการ The Brothers Thailand คืออยากให้น้องๆ รู้ว่าการเป็นดารา มันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย เราต้องแลกอะไรหลายอย่าง อาทิ ชีวิตส่วนตัว เพื่อจะให้อยู่ในวงการบันเทิงนี้ได้นาน มันไม่ใช่แค่อยากดัง แล้วมาเป็นดารา แต่ต้องรู้ว่าการที่เราอยู่หน้ากล้องจะมีคนเรียนรู้จากเรา โดยเฉพาะพวกเด็กๆ ที่มองเราจากทีวีและอาจคิดว่าคนนี้ดูดี อยากเป็นเหมือนเขา โดยที่เราเองไม่รู้ตัวว่าจะไปมีผลกระทบกับชีวิตใครบ้าง ดังนั้นอย่างที่บอกว่ามันต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานที่อยู่ภายในจิตใต้สำนึก
ขอถามสิ่งที่แฟนคลับอยากรู้ได้ไหมว่าจะมีโอกาสได้เห็นวง 2PM คัมแบ็กเมื่อไร
เราก็คุยกันแล้วว่าปีหน้าครับ เพราะจุนโฮและชานซองจะออกจากกรมต้นปีหน้า ตอนนี้ก็เตรียมแผนงานกันเรียบร้อยแล้ว พอพวกเขาออกจากกรมปุ๊บ ก็ซ้อมกันเลย คือไม่อยากให้แฟนๆ ต้องเป็นห่วงว่าจะยุบหรือแยกวงไหม…ไม่มีครับ เราแค่รอเวลาแค่นั้นเอง ซึ่งสมาชิกในวงแต่ละคนก็ตั้งหน้าตั้งรอกันมาก อย่างคนที่ออกจากกรมมาก่อนแล้ว อาจเตรียมอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองไปก่อน แต่ในใจทุกคนคือพร้อมรอ 2PM คัมแบ็กอย่างเดียว
ติดตามบทสัมภาษณ์ นิชคุณ หรเวชกุล ฉบับเต็มได้ใน OK! Magazine Issue 324-325 ฉบับเดือนเมษายน-พฤษภาคม เริ่มวางแผงวันที่ 4 พฤษภาคมนี้
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand