
ในขณะที่หลายคนตัดสิทธิ์ตัวเองด้วยเพศสภาพที่เลือกเกิดไม่ได้ แต่ปอย ตรีชฎา มาลยาภรณ์ ผู้เคยได้รับรางวัล Spotlight จาก OK! กลับไม่เลือกเส้นทางนั้นและเลือกนำสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นจุดด้อยกลับมาเป็นพลังบวกในการขับเคลื่อนชีวิตที่ยิ่งใหญ่กับตนเอง ความอดทนและมุ่งมั่น ทำให้วันนี้ปอยเป็นนักแสดงอาชีพที่ไปได้สวยในตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน, ฮ่องกง และเธอยังทำธุรกิจจากสิ่งที่รักที่ปลุกปั้นมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี นอกจากความก้าวหน้าในอาชีพการงานของปอยอันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว ความคิดภายในของปอยก็เปลี่ยนไปด้วย วันนี้ความสุขและความพอใจในชีวิตใม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวปอยอีกต่อไป เพราะเธอค้นพบว่าความจริงคิอสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต
หลายปีที่ผ่านมาชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ถ้าเป็นเรื่องของการทำงาน ปอยว่าทุกคนเห็นอยู่แล้วว่าชีวิตปอยเปลี่ยนไปอย่างไร เช่นไปทำงานที่ต่างประเทศ ทำธุรกิจของตัวเอง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในอีกมุมหนึ่ง คือความคิดค่ะ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ปอยเคยใช้ทั้งชีวิตที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่พอเริ่มมองอย่างเข้าใจ เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือสิ่งที่จริงที่สุด การที่ยอมรับความจริงทำให้ชีวิตมีความสุขมาก ทำให้ตอนนี้เวลาเจอใครเราจะจริงใจไปเลย ไม่ต้องระวังตัวเหมือนเมื่อก่อนหรือเลือกทำงานที่เคารพตัวเอง ปฏิเสธการพิสูจน์อะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ตัวเรา แบบนี้ชีวิตก็มีความสุขขึ้น สงบขึ้นค่ะ
ปอยเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจและจริงจังกับการทำงานมาก ใครคือแรงบันดาลใจทำให้เราใช้ชีวิตในรูปแบบนี้
ปอยต้องขอบคุณเพศสภาพของปอยที่เป็นตัวผลักดันให้รู้สึกว่า ‘ต้องทำ’ ในมุมมองของคนไทยและต่างประเทศเมื่อพูดถึงเพศที่สาม จะก็มีการเหมารวมว่าเราจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ปอยเคยพูดเสมอว่าปอยเปลี่ยนไม่ได้หรอกในเรื่องของพันธุกรรม แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนได้คือการใช้ชีวิตว่าจะใช้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่พูดได้เลยคือปอยไม่รู้สึกว่าความสวยของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญเท่ากับจิตใจที่อยู่ข้างใน ซึ่งถ้าจิตใจเราดี เราคือคนที่มีความสุข หลายคนที่รูปกายภายนอกอาจจะไม่ได้ดูดีในสายตาคนอื่น แต่ถ้าบุคลิกภาพ ความคิดของเขาดีมันชนะทุกอย่างไป ปอยจึงกลับมาเปลี่ยนตัวเอง
ทราบว่าปอยเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลย เล่าถึงเรื่องนี้หน่อยว่าคุณบริหารจัดการตัวเองอย่างไรบ้าง
ตอนที่ปอยทำงานที่ต่างประเทศ เราได้เห็นนักแสดงหลายๆ ไม่ห่วงสวย ห่วงหล่อ แต่เขาก็เป็นตำนานและพัฒนาตัวเองในสิ่งที่เขาทำตลอด ซึ่งมันก็สะท้อนกลับมาที่มุมมองของเราว่าอาชีพที่เราทำคือเป็นนักแสดง ทำธุรกิจ ดังนั้นถ้าจะจริงจังกับ 2 อย่างนี้ เราก็ต้องไปให้ถึงที่สุด โดยการเรียน และฝึกตัวเองอยู่เสมอ
ในเรื่องการแสดงจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การนำเสนอ ปอยต้องแตกแขนงคือเรียนการแสดง เรียนออกเสียง เรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม, เรียนภาษาจีนเพิ่ม,เรียนบุคลิกภาพเพิ่มและต้องเรียนตลอดเวลา ส่วนที่ 2 คือการบริหารจัดการ การที่เราจะเป็นดาราหรือทำงานในวงการบันเทิง นอกจากในเรื่องการแสดงอีกอย่างที่สำคัญคือการบริหารจัดการ การเซ็ตอัพทีม เพราะถ้าทำคนเดียวไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ต้องมีทีมงานที่คิดและเข้าใจในงานของเรา ปอยเริ่มทำเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอด
ส่วนการทำธุรกิจ ปอยก็เรียนรู้เรื่องวิชาการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา เพราะผลิตภัณฑ์ของเราเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ก็เลยต้องศึกษาเหมือนเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในโลกนี้มาเพื่อนเสิร์ฟตัวเองและคนที่เป็นลูกค้า บริษัทของเปิดมา 6 ปี เรามีการพัฒนาทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เบื้องหน้าคือพัฒนาผลิตภัณฑ์ เบื้องหลังคือการจัดการองค์กร มีเรื่องราวมากมายที่เราจะต้องปรับตัวทำให้โตขึ้นตลอดเวลา
ที่ผ่านมา คนชื่นชมปอยก็มีมากแต่ขณะเดียวกันคำวิจารณืหนักก็มีเยอะเหมือนกัน สิ่งที่เกิดขึ้นให้แง่คิดกับเราอย่างไรบ้าง
หลายๆ ครั้งที่ฟังคำวิจารณ์ ปอยไม่แฮปปี้เลยและทุกข์ทันทีแต่พอเลยช่วงเวลาที่ทุกข์ไป ยิ่งฟื้นเร็วเท่าไหร่แล้วใช้สติกำกับถามตัวเองว่าสิ่งที่เขาพูดใช่หรือไม่ ถ้าบางครั้งเขาวิจารณ์เราถูกถึงแม้ว่าจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ตามเราก็ขอบคุณ ถือว่าเขาเป็นอาจารย์ แล้วการที่ปอยมีการเปลี่ยนแปลงก็เกิดมาจากคนที่วิจารณ์เหล่านี้ทั้งนั้น
เมื่อก่อนมีคนมาวิจารณ์ว่าปอยแอ๊ปเสียง ทีแรกฟังแล้วก็โกรธ แต่ตอนหลังพอเริ่มพัฒนาฝึกการพูดของตัวเองโดยไม่แอ๊ปเสียงได้ เราก็ต้องขอบคุณคนเหล่านั้นที่วิจารณ์เรา หรือแม้แต่กระทั่งประโยคที่ทำร้ายจิตใจเราถ้าเลือกดีๆ ก็มีสิ่งที่เราเลือกจะพัฒนาตัวเองได้ เช่น ปอยพูดเร็วไปนะ ทำไมปอยตอบคำถามแบบนั้น การท้วงแบบนี้ปอยรู้สึกว่าดี แต่ถามว่าจริงไหมที่เราฟังคำวิจารณ์ทุกครั้งแล้วจะสามารถปล่อยวางได้ บอกเลยค่ะถึงทุกวันนี้ปอยก็ยังทำไม่ได้
คุณผ่านคำวิจารณ์ที่ทำร้ายจิตใจคุณไปได้อย่างไร
สิ่งสำคัญคือลดอีโก้ตัวเองค่ะ เรื่องนี้ทำยากแต่ทำได้ และจากที่ปอยศึกษาคือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายคนมีอีโก้น้อยมาก แล้วพวกเขาก็ล้วนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นคือสิ่งที่เราสังเกตแล้วนำกลับมาใช้และอีกสิ่งหนึ่งที่ปอยจะไม่ทำเลยคือการทักคน ไหว้คนแบบไม่มองตา เพราะจะทำให้คนที่เราทักรู้สึกไม่ดี ทั้งๆ ที่เราเองก็ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีเหมือนกัน เพียงแต่เวลานั้นอาจจะเขิน ไม่ชิน เลยไม่รู้จกโฟกัสตรงไหน เมื่อก่อนปอยก็เป็นนะคะแต่เราก็เปลี่ยนตัวเองและไม่ทำอีก
การทำงานทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ได้มอบประสบการณ์อะไรให้กับคุณบ้าง และมีวิธีการทำงานที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
สำหรับเมืองไทย ปอยรู้สึกว่าอุตสาหกรรมบันเทิงยังมีการใช้เงินทุนที่ไม่สูงมาก ทำให้การทำงานแต่ละแขนงยังล้าและเหนื่อย เพราะว่าการทำงานโปรดักชั่นทุกคนใช้แรงเท่ากัน และมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่จุกจิกเยอะมาก ในต่างประเทศอุตสาหกรรมตรงนี้เขามีภาครัฐให้การสนับสนุน ทำให้ทุกอย่างก้าวไปอย่างลื่นไหล ในการทำงานเขาจะมีความเป๊ะ เขาจะรู้อยู่แล้วว่า ประสิทธิภาพในการทำงานของคนมีอายุกี่ชั่วโมงต่อวัน เพราะว่าเขาต้องการให้งานออกมาดีที่สุด ปอยว่าการเซฟนักแสดงเป็นแค่ผลพลอยได้ แต่จุดประสงค์คือเขาอยากได้เงินคืนกลับมาจากที่สิ่งที่ลงทุนคือคนจะต้องเอ็นจอยกับโปรดักชั่นที่ผลิตออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ปอยชื่นชมคนไทยเลยคือเราเต็มที่กับสิ่งที่ทำเสมอ เรามีมารยาท มีความน่ารัก ใจดี มีความยืดหยุ่น ทรัพยากรบุคคลบ้านเราดีมากค่ะ ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดีก็คงทำให้ทุกอย่างเติบโตได้มากกว่านี้
สำหรับการโกอินเตอร์ ปอยอยากไปให้ถึงจุดไหน
มีหลายอย่างที่ปอยอยากจะทำในต่างประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่ปอยอยากไปให้ถึงคือการพัฒนาฝีมือทางการแสดงของตัวเองให้ไปถึงที่สุดคือ ปอยต้องพูดภาษาจีนทั้งภาษาจีนกลางและภาษาจีนกวางตุ้งให้คล่องที่สุด และต้องพูดภาษาอังกฤษได้อย่างดีที่สุดด้วยค่ะ
ปอยมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในวันนี้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ธุรกิจ แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง
ทุกๆ อย่างในชีวิตของปอยมีค่ามาก ปอยขอบคุณทุกครั้งที่นึกได้ เพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย เราต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก รู้เลยว่าในอนาคตก็ต้องผ่านอะไรอีกหลายอย่างเหมือนกัน แม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นความลำบากในอดีตล้วนมีค่า เพราะถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้นเราก็จะไม่มีวันนี้ มันทำให้เราอดทนได้ขนาดนี้ ซึ่งในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรอีก แต่ความตกใจของเรามันอาจจะเกิดขึ้นและจบเร็วกว่าตอนแรกๆ เชื่อเถอะว่าการเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่เข้ามาทำให้เราแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments