ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง นอกจากจะทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักแล้ว วงการนี้ยังสอนเธอให้รู้จักจัดระเบียบการใช้ชีวิต และมีมุมมองความคิดที่เติบโตกว่าคนในวัยเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เพิ่งทราบว่าวงการบันเทิงไม่ใช่งานที่เธอใฝ่ฝัน แต่เป็นเพราะคุณแม่คอยผลักดันให้ลูกสาวคนเล็กของบ้านลองทำนู่น ทำนี่ตลอด ทั้งเรียนเดินแบบเพื่อสร้างบุคลิกภาพ เล่นเรือใบ หรือแม้แต่เข้าประกวดในเวทีต่างๆ รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรม Hormones The Next Gen เพื่อค้นหานักแสดงของค่ายหนังจีดีเอช ที่ทำให้ต้าเหนิงก้าวเข้าสู่วงการ
สำหรับผลงานเรื่องล่าสุด Shoot ! I Love you โปรเจ็กต์สุดท้ายของ Project S The Series ที่เพิ่งลาจอไป ต้าเหนิงรับบทเฟม นักยิงธนูสาวมาดเท่ ที่มีทั้งความุ่งมั่นและรักในความสมบูรณ์แบบซึ่งเป็นอีกผลงานที่ท้าความสามารถอีกเรื่องเพราะนอกจากจะต้องเข้าถึงตัวละครในแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเธอยังต้องฝึกยิงธนูอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นต้าเหนิงก็ยังเอ็นจอยกับสิ่งที่กำลังทำและตื่นเต้นกับการแสดงเรื่องนี้เหมือนกับงานทุกชิ้นที่ผ่านมาของเธอ
ข้อดีของการที่เข้ามาในวงการอย่างไม่คาดหวังของต้าเหนิงคือะไร
กลายเป็นว่าไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามา หนูพร้อมที่จะรับตลอด หนูเป็นคนที่ไม่ชอบคาดหวังเพราะกลัวจะผิดหวัง หนูไม่ได้จินตนาการว่าเราต้องไปให้ไกลแค่ไหนในวงการ แค่มีอะไรที่เข้ามาก็ลองทำ ทำไปเรื่อยๆ และจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งกับทุกงานที่ไม่เคยทำ หรือทุกครั้งที่เริ่มอะไรใหม่ๆ แต่บางเรื่องที่ถึงแม้จะเคยทำมาแล้วแต่เราก็ยังตื่นเต้นที่จะได้ทำเสมอ อย่างเช่นการดินแบบ ถึงแม้ว่าจะเดินมาเยอะแล้ว วันนี้ก็ยังตื่นเต้นอยู่
รู้สึกอย่างไรกับการที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบและยกให้เป็นแฟชั่นนิสต้าที่มาแรง
รู้สึกดีที่มีคนชอบในสิ่งที่เราเป็นค่ะ แล้วก็จะเขินนิดๆ เวลามีคนเดินเข้ามาบอกว่าชอบเราแต่งตัวมาก(คิดว่าตัวเองเป็นคนแต่งตัวแบบไหน) ไม่ได้กำหนดชัดเจนลงไปว่าจะต้องเป็นสไตล์ไหน บางทีก็จับมันมามิกซ์แอนด์แมชต์กัน อยากใส่อะไรก็ใส่ค่ะ หนูไม่ได้ยึดติดกับตัวเองว่าต้องเป็นลุคใดลุคหนึ่ง ถ้าชอบก็ OK! ทั้งนั้น
มีสไตล์ อินฟลูเอนเซอร์ คนไหนที่ชื่นชอบมากๆ บ้าง
หนูจะมีแอคเคานต์หนึ่งในอินสตาแกรมที่ตามแฟชั่นอย่างเดียว ในนั้นหนูจะฟอลโล่วดีไซเนอร์ เอดิเตอร์และนางแบบ แต่นางแบบที่หนูชอบมากเลยคือ เคนดอลล์ เจนเนอร์ กับจีจี้ ฮาดิด รู้สึกว่าทั้งคู่แต่งตัวดี เขารู้ว่าตัวเองเหมาะกับเสื้อผ้าแบบไหน แต่งตัวอย่างไรถึงจะสวย เบฮาติ พรินซลู ก็ชอบนะคะ เป็นคนที่ยิ้มแล้วสวยมากค่ะ
ต้าเหนิงไปแฟชั่นวีคที่เกาหลีมาหลายรอบแล้ว เคยมีฝันไหมว่าอยากไปแฟชั่นวีคที่ไหนอีก
อยากดูแฟชั่นวีคที่โคเปนเฮเกนค่ะ ชอบกลิ่นอายของเมืองนี้ เวลาผู้คนเขาแต่งตัวมันดูกลืนไปกับสีของเมือง และสีชัดดี แต่จริงๆ แล้วหนูไม่อยากไปนั่งดูโชว์ขนาดนั้น แต่อยากไปหลังเวทีมากกว่า ได้เห็นเบื้องหลังในการทำงานต่างๆ อย่างเช่น การแต่งตัว เพราะเราจะได้เห็นอารมณ์ของพวกเขาจริงๆ เพราะถ้าในโชว์เราสามารถดูวีดีโอได้ (ชื่นชอบแฟชั่นขนาดนี้ เคยได้ลองทำงานเบื้องหลังที่เกี่ยวกับงานด้านนี้บ้างไหม) หนูเคยไปดูพี่ลูกนัท-สิริวงษ์ สุขเกษมสิน ทำงานที่สตูดิโอ อยากรู้ว่าเขาทำงานกันยังไง สนุกดีค่ะ แต่คิดว่าถ้าไปทำจริงๆ คงไม่สนุกร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะงานตรงนี้มีรายละเอียดหลายอย่าง
ตอนนี้ได้ลองทำอะไรหลายอย่างแล้ว พบหรือยังว่าแพสชั่นของต้าเหนิงในวันนี้คืออะไร
ตอนนี้หนูยังไม่รู้ว่าแพสชั่นของหนูคืออะไรอยู่ดี แต่รู้สึกว่าอยากทำทุกงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วทำให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ อย่างที่บอกคือตอนนี้มีอะไรให้ลองทำ ก็จะทำ เพราะหนูเป็นคนที่สนุกกับการทำงานตลอดอยู่แล้ว
FIVE THINGS TO KNOW HER BETTER
5 ข้อที่จะทำให้คุณรู้สึกต้าเหนิงมากขึ้น
1.ต้าเหนิงรู้สึกว่าความหมวยคือเอกลักษณ์ที่ทำให้เธอแตกต่างจากคนอื่น อีกอย่างชื่อเล่นของสาวคนนี้ยังเป็นชื่อจีนแปลว่าคนมีความสามารถที่ยิ่งใหญ่
2.ข้อดีและข้อเสียของต้าเหนิงคือการเป็นคนหน้านิ่ง เพราะทำให้คนไม่กล้าเข้ามายุ่ง “เจเจเคยบอกว่า รู้ไหมว่าคนอื่นกลัวหนูตอนทำหน้านิ่งๆ แต่จริงๆ คาแรกเตอร์นี้เหมือนเป็นโปรแกรมที่เซ็ทไว้เผื่อเจอคนที่ไม่รู้จัก การนิ่งทำให้เขาไม่รู้ว่าเรารู้สึกอะไรอยู่ สำหรับหนูก็จะรอดูอีกฝ่ายก่อนว่าเขาเป็นคนยังไง ถึงจะเริ่มรู้จักกับเขา”
3.ครอบครัวเป็นเหมือนที่รักและที่พักใจของสาวน้อยหน้าหมวยคนนี้ นอกจากจะคอยผลักดันให้ลองทำกิจกรรมต่างๆ ยังเป็นกำลังใจในช่วงเวลาที่เธอรู้สึกแย่ อย่างเช่นเวลาโดนคอมเมนต์แรงๆ จากโซเชี่ยลมีเดีย ”ครอบครัวเรามีข้อตกลงกันอย่างหนึ่งคือเราจะไม่โกหกกัน เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะมะม้า เราจะรู้สึกว่าการโกหกเป็นสิ่งที่ผิดมากค่ะ”
4.นอกจากจะมีความสามารถในการแสดง ตอนเด็กๆ ต้าเหนิงยังเล่นเรือใบได้อีกด้วย “กิจกรรมนี้เริ่มจากปะป๊า มะม้า เหมือนกัน เขาอยากให้ลูกได้ลองทำกิจกรรม ส่วนตัวหนูรู้สึกว่า เป็นกีฬานี้ให้ความรู้สึกอิสระ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง เราต้องบังคับเรือด้วยตัวเองให้ไปทางไหน ยังไง พอดีตอนเด็กๆ หนูเรียนที่ชลบุรี เลยชินกับทะเลไม่ค่อยกลัวคลื่นลมค่ะ”
5.ในมุมต่างๆ ของการใช้ชีวิต ต้าเหนิงให้ความสำคัญกับการนอนที่สุด เพราะถ้าอดนอน นอกจากจะอ่อนเพลีย ยังทำให้อาการภูมิแพ้ของเธอกำเริบได้ง่ายๆ เธอเคยไปทำเทสต์เพื่อดูว่าตัวเองแพ้อะไรบ้าง ปรากฏว่าแพ้หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอากาศ ไรฝุ่น เหงื่อตัวเอง ฯลฯ “ถ้านอนน้อยหน้าจะลอก จมูกแห้ง ภูมิแพ้ขึ้น หายใจไม่ออก เลยต้องนอนอย่างน้อยวันละ 6-7 ชั่วโมง หรือถ้านอนน้อยกว่านั้นก็จะหาเวลานอนในรถเวลาเดินทางค่ะ”
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
