
พบกับความแปลกใหม่ที่ ลัตเตอลิเยร์ เดอ โจเอล โรบูชอง L’Atelier de Joel Robuchon ร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีดาวมิชลินสตาร์มากันรันตีด้วยจำนวนที่มากที่สุดในโลก โดยเชฟโอลิวิเยร์ ลิมูแซง เชฟประจำสาขาที่กรุงเทพฯ พร้อมสร้างสรรค์เมนูใหม่ในคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่คุณพลาดไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมตามสไตล์ที่เชฟถนัด แต่ที่ลัตเตอลิเยร์ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวงของไทย มากถึง 40% มาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ ให้เข้ากับฤดูกาลของไทย ทั้งกุ้งเครย์ฟิชที่ส่งถึงร้านกันแบบเป็นๆ ไก่เบรส พีช อโวคาโด ผักชีสด และผักชนิดอื่นๆ ตามฤดูกาลอีกมาย เพราะเชฟเน้นที่ความสด รสชาติ และรสสัมผัสที่ยอดเยี่ยมของหารเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะคัดวัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวงแล้ว ลัตเตอลิเยร์ยังนำเข้าวัตถุดิบเกรดเยี่ยมจากฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาครีเอทเมนูสุดพรีเมี่ยมให้ชาวไทยได้ชิมกันอย่างเต็มที่
แน่นอนว่าเชฟระดับมิชลินสตาร์อย่างเชฟลีมูแซง ต้องเตรียมซิกเนเจอร์เอาไว้ให้ได้ลิ้มลองกันแน่นอน แถมจานนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากโครงการหลวงของไทยด้วยนั่นก็คือ “ปอเปี๊ยะปูอลาสก้าและอโวคาโด ผักสด และส้มโอ” และอีกจานหนึ่งที่โดดเด่นก็ต้องยกให้ “L’ecrevisse” ซึ่งมีวัตถุดิบคุณภาพอย่าง กุ้งเครย์ฟิชจากโครงการหลวงย่าง ผักสด แคร์รอท ซุคคินี่ แตงกวา ทาร์รากอน และกลิ่นหอมๆ จาก ไวน์หวาน
ซึ่งในตอนนี้ก็ยิงพิเศษมากขึ้นไปอีก เพราะเชฟลิมูแซงครีเอทอาหารจานใหม่ ที่พร้อมเสิร์ฟให้ชาวไทยได้ชิมกันแล้วอย่าง L’ecrevisse, L’asperge blanche, และ Le bar en tartare แต่ไม่ได้พิเศษแค่เฉพาะ Main course เพราะลัตเตอลิเยร์เตรียมของหวานเอาไว้ให้เลือกอีกเพียบ แถมยังเสิร์ฟมาบนรถเข็นอีกด้วย ซึ่งเชฟก็แอบกระซิบมาด้วย ว่าเมนูที่ไม่ควรพลาดสำหรับอาหารกลางวันและอาหารค่ำ คือ Le kampachi และ Le poulet fermier และสำหรับดินเนอร์สุดพิเศษก็ต้องเป็น Le King crab, L’artichaut, L’ecrevisse, และ L’agneau de lait
แม้ว่าเชฟจะถนัดในการปรุงอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิก แต่เมนูต่างๆ ก็ถูกปรับให้เหมาะกับประเทศไทย และให้ถูกปากนักชิมชาวไทยด้วย เชฟลีมูแซงกล่าวว่า “ผมเน้นที่การให้ความพึงพอใจ ไม่ใช่แต่เพียงลูกค้าเท่านั้น แต่เพื่อลูกทีมของผมด้วย และหวังว่าพวกเขาจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าต่อไป”
“เพราะที่ ลัตเตอลิเยร์ อาหารดีๆ ต้องมีไวน์เคียงคู่”
นอกจากลัตเตอลิเยร์จะมีอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพดีให้เลือกหลากหลายแล้ว ก็ยังเอาใจนักดื่มด้วยไวน์หลากหลายชนิดในราคาระหว่าง 1,200 ถึง 680,000 บาท ต่อขวด ซึ่งถ้าใครอยากสั่งเป็นแก้วก็สามารถทำได้เช่นกันในราคาระหว่าง 400 ถึง 1,000 บาท
หรือใครอยากนำไวน์ที่ชื่นชอบมาดื่มพร้อมอาหารมื้อพิเศษนี้ ลัตเตอลิเยร์ก็พร้อมบริการ โดยมีค่าเปิดขวดอยู่ที่ 1,500 บาท แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกไวน์ตัวไหนมาทานคู่กับอาหารดีล่ะก็ ไม่ต้องกังวล เพราะลัตเตอลิเยร์ มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมบริการ และแนะนำให้ลูกค้าทุกคนอย่างเป็นกันเองแน่นอน
หากใครอยากจะไปลิ้มลองอาหารคุณภาพเยี่ยม จากเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่ ลัตเตอลิเยร์ เดอ โจเอล โรบูชอง ก็สามารถเข้าไปสัมผัสความอร่อยกันได้ที่ ชั้น 5 ตึก Mahanakorn Cube ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (BTS ช่องนนทรี)
โดยร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:30AM – 2:30PM และ 6:30PM – 10:30PM หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.robuchon-bangkok/.com หรือทางเฟสบุ๊ค www.facebook.com/atelier.bkk/ หรือโทร. +662-001-9698
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments