
แสดงหนังครั้งแรกก็ได้บทสุดหินซะแล้วสำหรับลิลลี่- อภิชญา ทองคำ ที่ต้องมารับบทเบลลูกสาวสุดที่รักของบุ๋มแสดงโดยบี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน…ที่ระลึก’ (The Promise) นอกจากจะต้องเล่นบทดราม่าน้ำตารินแบบสุดๆ แล้ว ยังต้องวัดความอึดด้วยการวิ่งขึ้นลงตึก 47 ชั้นตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ 11 วันที่บางกอกโกสต์ทาวเวอร์อีกต่างหาก เราลองมาอ่านบทสัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องแรกของสาวน้อยคนนี้กันค่ะ
หนังเรื่องแรกและการร่วมงานกับเมนเทอร์สุดที่รัก
ตอนไปแคสติ้งหนังเรื่องนี้ หนูรู้แค่ว่าเรื่องนี้เป็นหนังผี แต่ไม่รู้ว่าจะได้เล่นกับพี่บีด้วย พอไปเจอกันที่เวิร์กช้อปของครูเงาะ (รสสุคนธ์ กองเกตุ) เราต่างก็เซอร์ไพรส์ แล้วก็กอดกัน ดีใจค่ะ โอ๊ย แม่ในทีม (ยิ้ม) ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เล่นหนังด้วยกัน หนูรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เล่นกับพี่บี เพราะถ้าเล่นกับคนอื่นอาจจะเกร็งกว่านี้ การได้อยู่ทีมพี่บีมาก่อนทำให้เราทำอะไรได้เต็มที่ขึ้น เวลาที่เจอซีนอารมณ์ หรือซีนที่ต้องร้องไห้ พี่บีก็จะเข้ามากอด พี่บีส่งอารมณ์มาเต็มที่มาก เพื่อที่จะให้หนูส่งกลับไปหาเขาได้เต็มที่เหมือนกัน เขามีส่วนคล้ายตอนเป็นเมนเทอร์ในการายการ The Face Thailand นิดหนึ่ง เป็นเหมือนคุณครู ช่วยสอนอย่างโน้น อย่างนี้ ช่วยเติมเทคนิกให้
ฉากสุดหินและการก้าวผ่านความกลัวของตัวเอง
ฉากที่หินที่สุดของหนูคือตอนที่หนูต้องนั่งบนที่สูง ทั้งๆ ที่หนูเป็นคนกลัวความสูงมากๆ ตอนนั้นหายใจไม่ทั่วท้องเลย แล้วก็เวียนหัวเหมือนจะเป็นลมด้วย พี่ๆ ทีมงานก็มีเซฟให้นะคะ แต่เราก็รู้สึกว่ายังไม่ปลอดภัยอยู่ดี ตอนนั้นในใจมันโหวงเหวงไปหมด แล้วอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ออกมาเอง ทั้งๆ ที่ในบทไม่มีซีนร้องไห้ พี่จิม (โสภณ ศักดาพิศิษฐ์) ผู้กำกับเลยถ่ายเก็บไว้ด้วย ฉากนี้ใช้เวลาในการถ่ายนานมาก และใช้เวลาเตรียมใจนานมากเหมือนกัน พอพี่จิมสั่งคัทปุ๊ป หนูเหมือนยกภูเขาออกจากอก นอกจากนี้หนูยังเป็นคนกลัวผีด้วย แต่เราก็รับเล่นหนังผีเนอะ (หัวเราะ) ตอนแสดงก็พยายามนึกถึงเรื่องโลกสวยเข้าไว้ สำหรับเรื่องความมืดนี่ก็กลัวเหมือนกัน ซึ่งก็สามารถผ่านฉากนั้นไปได้โดยที่ให้พี่คนหนึ่งมาแอบอยู่มุมหนึ่ง แล้วเราก็ค่อยแสดง มันทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อน สบายใจขึ้นค่ะ
อินจัดจนต้องหามส่งโรงพยาบาล
มีฉากหนึ่งที่หนูต้องกลั้นหายใจเพื่อให้สมจริง หนูก็ทำอยู่อย่างนั้น ใจเราน่ะ รอให้ผู้กำกับสั่งคัท หนูคัทตัวเองไม่เป็นเพราะมัวแต่กังวลว่ามันอาจจะยังดีไม่พอ อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการหายใจไม่ทัน และบางจังหวะก็หายใจเร็วเกินไป ทำให้อ๊อกซิเจนเข้าไปในร่างกายเยอะ เลยเกิดอาการเกร็ง ช็อก ทีมงานต้องรีบส่งหนูไปโรงพยาบาล คุณหมอก็บอกว่าเกิดจากความเครียด และตกใจ
ช่วงเวลา 11 วันกับการเดินขึ้นตึกสูง 47 ชั้น
วันแรกที่เดินขึ้นไปถ่ายที่บางกอกโกสต์ทาวเวอร์ ตรงกับวันเกิดหนูพอดี ตอนนั้นแวะทุกชั้น สูดอากาศก่อน เหนื่อยค่ะ ใช้เวลาขึ้นในวันแรกประมาณ 45-50 นาที พี่ๆ ทีมงานก็น่ารักมากค่ะ เพราะจะมีกิมมิคเป็นป้ายให้กำลังใจพวกเราเขียนติดไว้ตลอด อย่างตอนที่มาถึงชั้น 30 ก็จะมีป้ายเขียนว่า อีก 17 ชั้น สู้ๆ พอถึงชั้น 47 ก็มีป้ายเขียนว่า ยินดีด้วย คุณเป็นผู้ทำลายสถิติชั้น 47 แล้ว รับถ้วย (หัวเราะ) พอถ่ายไปเรื่อยๆ ก็เลยพยายามหาเทคนิกที่จะทำให้ตัวเองสนุกกับการขึ้นตึก 47 ชั้น อย่างพี่บีมาสายออกกำลังกาย เตรียมรองเท้า เตรียมชุด มาวิ่งขึ้นตึก อย่างหนูจะเป็นสายตุนค่ะ กินอย่างเดียว กินให้แน่น แล้วสุดท้ายก็จะเหนื่อยง่าย (หัวเราะ) วันต่อๆ มาก็เลยเตรียมเพลงของบียอนเซ่มาฟัง ก็สนุก เพลินๆ ดี หลังๆ มานี่ มีวันที่วิ่งขึ้นไปใช้เวลา 18 นาทีด้วยค่ะ เราถ่ายทำตรงนี้ทั้งหมด 11 วันติดกันเลย
ถ่ายหนังไปด้วย เรียนไปด้วย
ใช้เวลาในการถ่ายหนังเรื่องนี้ประมาณ 2 เดือนค่ะ มีวันหนึ่งหนูต้องไปทำงาน ก็ฝากเพื่อนจดการบ้าน จดแนวข้อสอบ แล้วก็ไปถามการบ้านจากครูบ้าง ตอนนี้หนูเรียนอยู่ ม.4 สาธิตประสานมิตร เอกอังกฤษ-อาเซียน เรียนภาษาพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย ลิลลี่เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ สนุกมาก กิจกรรมเยอะ ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วคงเรียนต่อมหาวิทยาลัยทางด้านนิเทศศาสตร์ค่ะ
ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในคอลัมน์ The One to Watch นิตยสาร OK! ฉบับเดือนกันยายนวางแผงแล้ววันนี้ค่ะ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : http://www.okmagazine-thai.com/
Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments