
ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง แข-งามแข อมาตยกุล จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากสาวพลัสไซส์ผู้มีน้ำหนัก 75 กิโลกรัม กลายเป็นสาวหุ่นเป๊ะหน้าสวย มีหนุ่มมาแจกขนมจีบแบบหัวกระไดไม่แห้ง แถมยังมีงานโฆษณาจากแบรนด์ดังเข้ามามากมาย ทั้งเมจิ ไฮโปรตีน, โดฟ รวมถึงวีดีโอของ Tresemme ที่ใช้บนรถไฟฟ้า ฯลฯ เรียกว่าน้ำหนักเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว
พฤติกรรมการกินแบบเด็กอ้วน
งามแขเล่าถึงที่มาของการเป็นสาวพลัสไซส์ว่า “ตอนเด็กๆ แขอ้วนอยู่แล้ว พอเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เริ่มทำกิจกรรม ไปแฮงเอาต์กับเพื่อน กลายเป็นว่ากินเยอะกว่าเดิม ตอนอยู่ปี 1 เทอม 2 แขได้เล่นละครโรงเล็กในเทศกาลละครของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ รับบทเป็นคนอ้วน พอแสดงเสร็จ 4 ทุ่มก็ไปกินสเต็กสามย่าน ทั้งๆ ที่กินมื้อเย็นแล้ว เป็นอย่างนี้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก 65 กิโลกรัมเป็น 75 กิโลกรัม ตอนนั้นกินทุกอย่างที่อ้วน เช่น สเต็ก, เค้ก, ชาไข่มุกวันละ 2 แก้ว เป็นไซส์ปกติ แต่หวาน 100 เปอร์เซ็นต์ ท็อปปิ้ง 3 อย่าง ฯลฯ เคยกินฮันนี่โทสต์ที่มีกล้วย สตรอว์เบอร์รี่ ไอศกรีม 2 ลูก แล้วตามด้วยโกโก้คนเดียวหมด ในขณะที่ทุกคนสั่งมาแชร์กันกิน”
จุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาดูแลตัวเอง
นอกจากการโดนเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยล้อเลียนว่าเป็น ‘ยัยเสาหิน’ และหนุ่มที่เธอแอบชอบมาตลอดก็มองผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตา รวมถึงปัญหาเรื่องสุขภาพ ทำให้เธอหันมาดูแลตัวเอง “แขเป็นไมเกรนทุกเดือน เดือนละ 2-3 ครั้ง และปวดหลังมากเวลาประจำเดือนจะมา แต่หาข้อสรุปไม่ได้ พอไปหาหมอ คุณหมอบอกว่าทุกๆ 5 กิโลกรัมที่เราอ้วนขึ้น มันจะทำให้มีโรคประจำตัวเพิ่มขึ้น 1 โรค
หลังจากนั้นก็โดนเพื่อนล้อว่า ‘อ้วนจนรังดุมแตก’ ก็เลยคิดว่าเรามาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว บอกตัวเองเลยว่า OK! เธอเก่งใช่ไหม เธอหน้าตาดี หุ่นดีใช่ไหม ต่อไปนี้แขจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาว่าแข จะไม่ยอมให้ใครมาตัดสินเรา แล้วแขก็เริ่มตั้งแต่วินาทีนั้นเลย”
ปฏิบัติการเปลี่ยนสาวพลัสไซส์ให้เป็นสาวหุ่นแซบ
ขั้นตอนการลดน้ำหนักของงามแขเริ่มต้นจากการลด ละ เลิก ของที่เคยชอบกิน อย่างข้าวเหนียวไก่ทอด มาเป็นผัดผักกับเต้าหู้ เปลี่ยนจากข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้อง กินแป้งน้อยลง งดชาไข่มุก ไม่กินของทอด ไม่กินน้ำตาล และออกกำลังกายด้วยการวิ่งประมาณ 4-5 กิโลเมตรทุกวัน
“ทำอย่างนี้อยู่ 1 เดือน น้ำหนักก็ลงมาประมาณ 4-5 กิโลกรัม กำลังใจเลยมาเต็ม พอเดือนที่สองเริ่มไปเล่นโยคะ ร้อนอย่างน้อย 5 ครั้งต่ออาทิตย์ โยคะ 1 ครั้งใช้เวลา 90 นาที พอทำอย่างนี้มา 2 เดือน น้ำหนักก็ลดไปเกือบๆ 10 กิโลกรัม ตอนนั้นแขบอกแม่ว่าถ้าลดไปถึง 10 กิโลกรัมแล้ว ขอไปเข้าคอร์สสถาบันเสริมความงามได้ไหม เพราะอยากลองดู”
อยากสวยทางลัด
“เราไปเข้าคอร์ส แต่ไม่ได้ผลเลย ถึงแม้จะมีนักโภชนาการแต่มันไม่ได้ช่วยขนาดนั้น แขมองว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่ส่วนเสริม แต่ส่วนหลักที่เราต้องทำให้ได้คือการออกกำลังกายกับการควบคุมอาหาร ถามว่าเข้าคอร์สแล้วน้ำหนักลดมั้ย…ก็ลดนะ แต่ลดไปแค่ 1-2 กิโลกรัม มันไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป ตอนนั้นน้ำหนักประมาณ 65 กิโลกรัม ก็เริ่มรู้สึกว่าทำวิธีนั้นไม่เวิร์กแล้ว เลยกลับมาออกกำลังกายและควบคุมอาหารอีกประมาณ 1-2 เดือน จนได้น้ำหนัก 57-58 กิโลกรัม เราก็ดีใจมากเพราะมาไกลกว่าที่คิด
แต่พอไปถึงจุดนั้นก็มีกำแพงอีก คือถึงเราจะออกกำลังกายเหมือนเดิม กินเหมือนเดิม น้ำหนักก็ไม่ลงแล้ว แขเลยไปกินยาลดความอ้วน เพราะใจร้อน อยากเห็นผลเร็ว กินยาลดความอ้วนไปได้สัก 3 เดือน น้ำหนักก็ลดเหลือ 53-54 กิโลกรัม แต่พอหยุดกิน มันก็เด้งกลับมาเป็น 58 กิโลกรัมภายในเดือนเดียว ตรงนี้ทำให้เห็นว่าการกินยาลดความอ้วนไม่เป็นผลเลย! ความจริงแขรู้ว่าอะไรที่เราควรทำ แต่แค่เราขี้เกียจก็เลยได้รับผลแบบนี้”
ออกกำลังกายนี่ล่ะดีที่สุด!
ในที่สุดงามแขก็ค้นพบว่าการลดความอ้วนแบบยั่งยืนคือการสร้างกล้ามเนื้อ “ผู้หญิงมักจะคิดว่าไม่เอาหรอกการเล่นกล้าม เดี๋ยวตัวบึก มีกล้าม ขาใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วสรีระของผู้หญิงไม่ได้ทำให้คนเราตัวบึกได้ขนาดนั้น ยกเว้นเรากินหนักจริง หรือออกกำลังกายหนักจริง การสร้างกล้ามเนื้อจะช่วยลดความอ้วนในระยะยาว เพราะกล้ามเนื้อต้องใช้พลังงานมาก มันก็จะช่วยเรื่องการเบิร์น การเผาผลาญในร่างกาย ไม่ว่าจะเล่นเวท บอดี้เวท อย่างการแพลงค์, การซิตอัพ, การครันช์ หรือการใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ดัมเบล บาร์เบล ความจริงใช้ขวดน้ำก็ได้นะคะ หลังจากนั้นน้ำหนักก็ลงไปอีก อยู่ที่ประมาณ 50-52 กิโลกรัม ขึ้นๆ ลงๆ ประมาณนี้”
มีหนุ่มมาสารภาพรัก
เมื่องามแขกลายเป็นสาวสวยหุ่นเป๊ะ นอกจากเพื่อนๆ จะเลิกล้อเลียนแล้ว หนุ่มที่เธอแอบชอบก็มาสารภาพว่าเขาก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน! แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไร สูตรลดความอ้วนของเธอจะดีงามแค่ไหน ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ใน OK! ฉบับที่ 285 เดือนมกราคม 2017 ค่ะ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments