
ใครจะคิดว่าการ แบกเป้เที่ยว ก็ เผาผลาญไขมันได้! เมื่อเร็วๆ นี้ คุณซาแมนธา เคลย์ตัน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านสมรรถภาพการกีฬาและฟิตเนส เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นวิทยากรให้ความรู้ในงาน ‘เอเชียแปซิฟิก เวลเนส ทัวร์ ครั้งที่ 8’ ของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น
ครั้งนี้คุณซาแมนธายังได้แชร์กิจกรรมโปรดของเธอที่ช่วย เผาผลาญ และหลีกเลี่ยง แคลอรี่ ที่ร่างกายไม่ต้องการ หนึ่งในนั้นคือการ สะพายเป้เที่ยว ว้าว! เอาละเราไปดู 6 กิจกรรมที่ทำได้ทุกวันและช่วยให้รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์มจากคำแนะนำของเธอกันดีกว่า
1. วิ่ง (เผาผลาญ 755-1,074 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
การวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ดีมาก และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ โดยการวิ่งที่อัตราความเร็ว 8 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 13 กม.ต่อชั่วโมง) จะช่วยให้ร่างกาย เผาผลาญ ได้ถึง 1,074 แคลอรี่ หรือถ้าวิ่งช้าลงที่อัตราความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 8 กม.ต่อชั่วโมง) จะช่วยให้ร่างกาย เผาผลาญ 755 แคลอรี่ และถ้าลองวิ่งขึ้นทางชันก็จะช่วยเพิ่มการ เผาผลาญ ขึ้นไปอีก และช่วยสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสะโพกและขาส่วนหลัง การเพิ่มความเร็วหรือเพิ่มเวลาวิ่งให้มากกว่า 1 ชั่วโมง จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การวิ่งได้ผลลัพธ์มากขึ้นก็คือ การวิ่งเร็วในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นลดความเร็วลงเพื่อพักเป็นเวลา 10 -15 วินาทีก่อนวิ่งเร็วอีกครั้ง ซึ่งการฝึกวิ่งเร็วสลับช้าแบบนี้จะช่วยให้รู้สึกสนุกขึ้นอีกมาก
2. กระโดดเชือก (เผาผลาญ 1,074 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
การกระโดดเชือก เป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่ได้ผลมาก ซึ่งการกระโดดเชือกมีผลต่อระบบการทำงานของหัวใจ แต่ไม่เหมือนการวิ่งตรงที่เชือกและร่างกายต้องทำงานประสานไปด้วยกัน ความเร็วและความแรงของการกระโดดมีผลอย่างมากกับจำนวนแคลอรี่ที่จะเผาผลาญ ดังนั้นการกระโดดเชือกให้เร็วคือกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้น ถ้ายังไม่สามารถกระโดดให้ต่อเนื่องนาน 1 ชั่วโมงให้ลองกระโดดเชือกแบบเร็วสลับช้า
3. ว่ายน้ำเร็ว (เผาผลาญ 528-892 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ร่างกายได้รับแรงกระแทกน้อย แต่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี ท่าว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์และท่าผีเสื้อ ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าท่าอื่น ๆ และเพื่อ เผาผลาญ แคลอรี่ให้มากขึ้นควรว่ายให้ได้นาน 1 ชั่วโมงเต็ม สำหรับการว่ายน้ำท่ากบจะเป็นท่าที่ค่อนข้างง่ายกว่าและใช้แรงน้อยกว่า ดังนั้นถ้าลือกที่จะว่ายน้ำท่ากบ ให้ลองพิจารณาท่าฟรีสไตล์เป็นทางเลือกอีกทาง หรือว่ายให้นานขึ้นเพื่อเพิ่มการ เผาผลาญ แคลอรี่ ให้มากที่สุด
4. วิ่งขึ้น-ลงบันได (เผาผลาญ 819 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
การวิ่งขึ้น-ลงบันได ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจแข็งแรงขึ้นด้วย โดยความเร็ว จำนวนขั้นบันไดและความสูงของบันไดแต่ละขั้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการ เผาผลาญ แคลอรี่ทั้งหมด ในขณะที่วิ่งขึ้นบันได ให้เพิ่มความเร็วมากกว่าปกติ แต่เวลาลงบันได ให้เดินลงโดยคำนึงถึงความปลอดภัยมาก่อน โดยสามารถเพิ่มความเร็วเวลาวิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มระดับความยาก หรือรู้สึกคล่องตัวแล้ว ให้ลองวิ่งขึ้นทีละ 2 ขั้นเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ทำงานหนักขึ้น จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น และยิ่งจำนวนขั้นมากขึ้นเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งได้ใช้งานมากขึ้นเท่านั้น
5. เต้นแอโรบิกประเภท High impact (เผาผลาญ 664 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
High impact ในที่นี้ หมายถึง กิจกรรมออกกำลังกายที่เท้าทั้ง 2 ข้างลอยขึ้นจากพื้น เช่น การกระโดดตบ (Jumping jacks) การกระโดดเขย่งที่ใช้ความแข็งแรงและความเร็ว (plyometric style hopping movements) และการเต้นบางประเภท รูปแบบของการออกกำลังกายแบบนี้ค่อนข้างสนุกและมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเล่น ทว่าแรงกระแทกที่เกิดขึ้นตามข้อต่อจากการออกกำลังกายไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน การออกกำลังกายประเภทนี้สามารถเพิ่มระดับความยากได้โดยการใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนัก การคงระดับความยากไว้ตลอดเวลา และการออกกำลังกายโดยเน้นการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เฉพาะส่วน เช่น ขา หน้าอก และหลัง โดยการฟิตซ้อมร่างกายลักษณะนี้มักทำในรูปแบบที่เรียกว่า High-intensity interval training หรือ HIIT ซึ่งก็คือ การออกกำลังกายแบบเร็วสลับช้า ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณออกกำลังกายอย่างหนัก ระยะเวลาการออกกำลังกายโดยรวมทั้งหมดแบบสั้น ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยลักษณะการออกกำลังกาย HIIT แบบทั่วไปจะใช้เวลาประมาน 20 – 30 นาทีเท่านั้น
6. แบกเป้เที่ยว (เผาผลาญ 637 แคลอรี่ต่อชั่วโมง)
การแบกกระเป๋าเป้ไปปีนเขา เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ดี เพราะการแบกของหนัก ๆ จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ภูมิประเทศที่หลากหลายก็เป็นสิ่งดีต่อการกระตุ้นการประสานกันของส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก และสร้างความแข็งแกร่งขึ้นของกล้ามเนื้อ เช่น ขา และข้อเท้า ด้วยเช่นกัน และเพื่อที่จะเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มขึ้นอีกในขณะที่แบกเป้อยู่ ให้ลองเพิ่มน้ำหนักในเป้มากขึ้น หรือลองเลือกเส้นทางที่เป็นเนินเขาสูงชันขึ้น ก็ช่วยได้ไม่น้อย
ขอบคุณข้อมูลจาก Herbalife Thailand และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้ที่ IG :Herbalife Thailand
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments