รูดม่านไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 โดยเข้าสู่รอบตัดสินไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่ง OK! เริ่มติดตามสาวงามทั้ง 94 ประเทศตั้งแต่ลงทะเบียนวันแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน กระทั่งถึงรอบตัดสิน จึงทำให้รู้ว่านางงามทุกคนมีเรื่องราวและแง่มุมที่น่าสนใจ พวกเธอพร้อมมากที่จะสร้างชื่อให้กับประเทศตัวเองและพัฒนาศักยาภาพให้ดีขึ้นในทุกวัน เราได้รวบรวมความน่าสนใจ 11 เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลากว่าครึ่งเดือนของพวกเธอมาเล่าสู่กันฟัง ลองมาดูกันว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง
1.ไม่พลิกโผ! เมื่อมงกุฎนางงามจักรวาลถูกสวมลงบนศรีษะของสาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์
เป็นไปตามคาดหมายว่านางงามจักรวาลปีนี้ตกอยู่ในมือของสาวงามจากประเทศ ฟิลิปปินส์ แคทรีโอนา เกรย์ สาวลูกครึ่งฟิลิปปินส์-ออสเตรเลีย วัย 24 ปี ที่ต้องบอกว่า แคทรีโอนา #มาเพื่อมง พกพาความมั่นใจแบบเกินร้อยที่จะคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2018 ไปครอง ทุกอย่างที่คิด พูด ทำ ล้วนผ่านการกลั่นกรองและฝึกซ้อมมาอย่างดี ภาพจำของสาวคนนี้คงเป็นสโลว์ เทิร์นที่สวยงาม ราวกับซ้อมมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนทุกคนต่างร้องว้าวกันในรอบ Preliminay เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งโลกโซเชี่ยล “หลายๆ คนเข้ามาถามฉันว่า ฉันหมุนแบบนั้นได้อย่างไร ฉันบอกพวกเขาว่า เพราะฉันหมุนตัวช้า (หัวเราะ) แค่นั้นเลย ซึ่งเมนเทอร์ของฉันเป็นคนคิดทริกนี้เพื่อให้แตกต่างจากคนอื่นๆ” นางงามจักรวาลเบอร์ล่าสุดเล่า
ประวัติแบบย่นย่อของสาวแคทนั้นไม่ธรรมดา เพราะปัจจุบันเธอจบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านทฤษฎีดนตรี และเป็นนักรณรงค์เรื่อง HIV/AIDS ให้กับองค์กร Love Yourself PH อีกทั้งยังเป็นอาสาสมัครผู้ช่วยสอนให้กับนักเรียนในโครงการ Young Focus NGO อีกด้วย “หลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว ฉันคงสานต่อกิจกรรมด้านการศึกษาซึ่งได้ลงมือทำมาบ้างแล้ว ฉันทำงานใกล้ชิดกับองค์กร HIV ทีประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำ เพราะเมื่อไม่กี่ปีก่อนเพื่อนของฉันเสียชีวิตจากการติดเชื้อ HIV ฉันเลยอยากสร้างความตระหนักในเรื่องนี้ให้แก่สังคม อย่างน้อยก็รณรงค์ให้ทุกคนไปตรวจหาเชื้อ ซึ่งนี่เป็นโครงการแรกๆ ที่ฉันทำ นอกจากนี้ฉันอยากพูดถึงการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล เพราะในพื้นที่เหล่านั้นมีเด็กหลายคนที่ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เหมาะสม นอกจากนี้ก็อยากจะเปิดรับทุกโอกาสที่ฉันสามารถทำได้ด้วยค่ะ”
แคทรีโอนาเดินทางมาลงทะเบียนวันแรก 29 พฤศจิกายน 2018 ที่โรงแรมดุสิตธานี
ในงาน Thai Night เธอโดดเด่นด้วยชุดที่ตัดจากผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และดีไซน์โดย Asava
ค่ำคืนในวันประกวดชุดประจำชาติ แคทรีโอนามาในชุดที่แสดงถึงการเฉลิมฉลอง การต่อสู้ และความอิ่มเอมใจ ซึ่งสะท้อนถึงประชากร 3 กลุ่มหลักของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เครื่องประดับศีรษะและรองเท้าถูกทำขึ้นพิเศษ และปักตกแต่งแตกต่างกันตามแบบฉบับพื้นเมืองทั้ง 3 ของประเทศฟิลิปปินส์
ในงานอุ่นไอรัก แคทรีโอนา, นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ และผู้เข้าประกวดทุกคนต่างสวยงามจับใจในชุดไทย
ในรอบตัดสินแคทรีโอนาตอบคำถามด้วยความมั่นใจ เธอได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมทั่วฮอล์ และเสียงเชียร์อย่างกึกก้อง
แคทรีโอนาเป็นคนที่มีความตั้งใจ มุ่งมั่น และมั่นใจ คุณสมบัติเหล่านี้ได้แสดงออกมาจากท่าทาง การพูดจาซึ่งนั่นทำให้เธอประสบความสำเร็จ “ความสำเร็จประกอบด้วยการตระหนักรู้ การเตรียมพร้อม และโอกาส ถ้าคุณเตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสที่เข้ามา มันจะนำไปสู่ความสำเร็จค่ะ” แต่ในขณะเดียวกันถึงแม้ว่าจะเตรียมพร้อมมากแค่ไหนก็ไม่วายจะต้องเจอกับอุปสรรค ซึ่งอุปสรรคสำคัญก็คือการรับมือกับแรงกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในโลกโซเซี่ยลหรือคนรอบข้าง “ระหว่างการประกวดฉันต้องเตือนตัวเองเสมอว่า ฉันมาอยู่ตรงนี้เพราะอะไร, กำลังทำอะไร, คุณค่าของตัวเองอยู่ที่ไหน ใครบ้างที่ควรจะรับฟัง นี่เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์กดดันมาก แต่ฉันก็คิดกับตัวเองว่าเราจะกดดันทำไม มีความสุขไปกับมันสิ”
ขอบคุณภาพจาก @clinbondad
ABOUT MISS UNIVERSE 2018
-แคทรีโอนา เกรย์ คือนางงามจักรวาลคนที่ 67 ของโลกและเป็นนางงามจักรวาลคนที่ 4 ของประเทศฟิลิปปินส์
-นอกจากจะมีความสามารถที่หลากหลาย แคทรีโอนา เกรย์ ยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย เธอเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลชื่อว่า We ‘re in this together ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Young Focus ที่ฟิลิปปินส์ เธอคิดว่าดนตรีสามารถเชื่อมผู้คนทั่วโลกเข้ามาหากันได้ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะพูดภาษาไหนหรือมีวัฒนธรรมแบบใด
-สาวสวยดีกรีนางงามจักรวาลคนนี้หัวใจไม่ว่างเสียแล้ว แฟนหนุ่มของเธอชื่อว่า คลินต์ บอนแดด นักแสดงและนายแบบลูกครึ่งฟิลิปปินส์-เยอรมัน ทั้งหล่อและดูดีจนสาวๆ หลายคนแอบอิจฉา แว่วมาว่าเขายังตามมาให้กำลังใจแคทรีโอนาแบบติดขอบเวทีทั้งในรอบ Preliminay และรอบตัดสินอีกด้วย
-นอกจากท่วงท่าสโลว์เทิร์นชวนสตั๊นของแคทรีโอนา ชุดราตรีสีแดงเพลิงของแคทก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน โดยชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากภูเขาไฟมายอน ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่อยู่ในเขตบีโคล จังหวัดอัลไบ ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความที่ภูเขาไฟลูกนี้มีรูปร่างเป็น กรวยคว่ำแบบสมมาตร แถมชื่อยังได้มาจากชื่อวีรสตรีในนิทานปรัมปรา ‘ดารากัน มากายอน’ ซึ่งแปลว่าหญิงงามอีก จึงการเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้กับดีไซเนอร์ ส่วนสีแดงมาจากการที่คุณแม่ของเธอเคยฝันในตอนที่ยังเป็นเด็กว่าเธอคือผู้คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สในขณะที่สวมชุดสีแดง “ตอนที่ท่านรู้ว่าฉันได้ตำแหน่ง ท่านบอกว่า แม่เคยฝันถึงเหตุการณ์นี้แล้ว และท่านก็ร้องไห้” แคทรีโอนากล่าว
2.นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ สาวไทยไม่แพ้ใครในโลก
ส่วนมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 คนล่าสุด นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร เธอเรียนจบปริญญาตรีคณะ Business Administration สาขา Finance จาก University of Nevada, Las Vegas เกียรตินิยมอันดับ 2 และทำงานในตำแหน่งผู้จัดการวาณิชธนกิจของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เห็นสาวนิ้งเรียนมาทางนี้ใครจะรู้ว่าฝันของเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็กคือการเป็นนางงาม แต่เพราะเวทีนี้ต้องมีคุณสมบัติหลายอย่าง เธอจึงเฝ้าฝึกฝน เตรียมตัวจนถึงวันที่สามารถเข้ามาคว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2008 มานอนกอดได้สำเร็จ พร้อมๆ กับรับศึกหนักเมื่อต้องไปต่อที่เวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศไทย นิ้งบอกว่านอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เธอยังต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดีอีกด้วย ต้องทำการบ้านเกี่ยวกับประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น เปิดตำรา ขยันเรียนรู้ ให้สมเกียรติกับการเป็นตัวแทนระดับประเทศ แม้แต่แคทรีโอนา เกรย์ มิสฟิลิปปินส์ที่คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2018 ก็ยังชื่นชมกับ OK! ว่า “นิ้งดูแลฉันเป็นอย่างดี คอยซัพพอร์ตตลอด และแฟนชาวไทยก็น่ารักกับฉันมากด้วย คนมักจะคิดว่าไทยกับฟิลิปปินส์เป็นคู่แข่งขัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ”
อย่างที่บอกว่างานนี้นิ้งไม่ได้มาเล่นๆ เราจึงได้เห็นความพยายามของเธอในทุกๆ ก้าวย่าง ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา นิ้งใช้เวลาพัฒนาตัวเองอย่างเข้มงวด ยิ่งช่วง 7 วันสุดท้าย เธอใช้เวลาตั้งแต่ 05.00-23.00น. เพื่อเรียนเดิน พูด และทำทุกอย่างเพื่อให้พร้อมที่สุดในวันสำคัญ “ตอนนี้เขียนหนังสือได้เล่มหนึ่งเลย เราทำทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้ รู้สึกว่านี่แหละคือโอกาสที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะได้ทำตามฝัน นิ้งนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ ว่า เราเคยรักนางงามมากขนาดไหน วันนี้เราได้เป็นตัวแทนแล้ว ต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุด สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการประกวดครั้งนี้คือการก้าวออกจากความกลัวค่ะ นิ้งเคยกลัวการขึ้นเวที, กลัวการทำตามฝัน พ่อแม่ไม่เคยเห็นด้วยเรื่องประกวดนางงาม แต่ตอนนี้พ่อเป็นแฟนนางงามตัวยงแล้ว (หัวเราะ) แล้วก็พบว่าความจริงแล้วเราแค่กลัวไปเอง พอก้าวข้ามตรงนั้นมาได้ กลายเป็นว่าแฮปปี้มาก จากที่ใส่ส้นสูงไม่ได้ตอนนี้นิ้งก็ใส่ได้ เดินไม่ดี ก็กลายมาเป็นว่าเราทำได้ดีขึ้นค่ะ”
ในที่สุด นิ้ง โศภิดา ก็สามารถก้าวผ่านความกดดันทุกรูปแบบมาจนถึงรอบ 10 คนสุดท้าย ทุกๆ สิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว หลังเสร็จสิ้นภาระกิจสุดหิน นิ้งได้โพสต์ข้อความขอบคุณทุกกำลังใจ รวมถึงบอกถึงเป้าหมายในชีวิตผ่านอินสตาแกรม @ningsophidaa ว่า “นับตั้งแต่วันที่ได้มงกุฎมา ไม่มีวันไหนที่นิ้งอยู่บ้านเฉยๆ นิ้งใช้เวลาทุกวันในการฝึกฝนตัวเองในทุกด้านอย่างดีที่สุด สุดกำลังความสามารถ นิ้งไปเรียนตอบคำถามที่จุฬาฯ เป็นเวลา 4 เดือน เรียนการเดิน ออกกำลังกายเกือบทุกวัน เพราะนิ้งรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร มันคือการทำเพื่อนำมงกุฎที่ 3 ที่ทุกคนรอคอยมาฝากคนไทยให้ได้ แม้จะลำบากสักแค่ไหนในการฝึกฝนตัวเองแต่ก็มีความสุขเสมอ วันนี้อาจจะยังนำมงกุฎมาให้คนไทยไม่ได้ นิ้งอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้หลายคนเสียใจและผิดหวัง นิ้งสัญญาว่าจะเป็นส่วนหนึ่งให้สายสะพายไทยแลนด์ คว้ามงกุฎมาให้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า จะเป็นรุ่นพี่ที่ดี ช่วยแนะนำรุ่นน้องๆ และขอเดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีฝันต่อไป ขอให้ทุกคนลุกขึ้นมาและกล้าทำตามฝัน แค่ได้ทำตามฝันก็มีความสุขแล้ว อย่าหยุดพยายาม เพื่อทำให้ความฝันนั้นใกล้ความจริงมากขึ้นทุกวัน สุดท้ายขอขอบคุณกองประกวด @missuniversethailand ที่ให้โอกาสนิ้งเดินตามฝัน และคุณครูทุกท่านที่ช่วยสอนนิ้งในทุกเรื่อง ตั้งแต่ความงดงามภายในสู่ภายนอก นิ้งสัญญาว่าจะทำหน้าที่ของ MUT ไม่ใช่แค่ช่วงการประกวดเท่านั้น แต่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทยของเราตลอดไป”
3.Empowering Woman เพื่อนหญิงพลังหญิง
โจทย์ของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 คือ Empowering Woman เพื่อต้องการบอกว่าผู้หญิงไม่ได้มีแต่ความงามแต่ยังช่วยดูแลซึ่งกันและกันด้วย ลองมาดูกันว่าสาวๆ ผู้เข้าประกวดแต่ละประเทศมีมุมมองกับคำนี้อย่างไรกันบ้าง
เกรนน์ กัลเลนา นางงามจากไอร์แลนด์
“ฉันรู้สึกชอบคำๆ นี้นะคะ เพราะอาชีพของฉันคือพยาบาลเลยอยากจะใช้ความรู้และทักษะเพื่อมอบความรู้ให้แก่ผู้หญิงคนอื่นๆ ในการดูแลตัวเอง นี่เป็นสิ่งสำคัญของฉันค่ะ”
เนฮัล ชุดาสามา นางงามจากประเทศอินเดีย
“คำนี้สำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะในยุคนี้ซึ่งอยู่ในยุคที่ผู้หญิงถูกกดขี่ข่มเหงและไม่มีความเท่าเทียม เราต้องส่งเสริมพลังของผู้หญิงด้วยกัน ไม่ใช่เพราะเราต้องการเอาชนะอีกฝ่าย แต่ต้องการเป็นคนที่ดีกว่าเดิมในทุกๆ วัน และต้องตระหนักในความจริงว่า เรามีความคิดของตัวเอง เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองได้ ตัองไม่กลัวสิ่งใด แต่เราต้องร่วมมือกัน นี่คือเหตุผลที่ต้องสร้างพลังให้กับผู้หญิงค่ะ”
แทมาริน กรีน นางงามจากแอฟริกาใต้
“ฉันคิดว่ามันสำคัญมากค่ะ การแสดงพลังของผู้หญิงทำให้เชื่อมั่นว่า ผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นหรือทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ สามารถเป็นแพทย์, วิศวกร, นักบัญชี ในขณะเดียวกันพวกเธอก็สามารถดูแลตัวเองให้สวยได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง คุณไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเหมือนใครและไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เราต่างก็มีศักยภาพของตัวเอง อย่างฉันเองก็เต้นไม่เป็น, ร้องเพลงไม่เป็น แต่ถนัดเลข ชอบฟิสิกส์ ฉันเลยเลือกเรียนแพทย์ ดังนั้นเพียงแค่คุณต้องหาตัวตนของคุณให้เจอว่าคุณชอบอะไรก็ใช่แล้ว”
นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ นางงามจากประเทศไทย
“Empower Woman ก็คือผู้หญิงที่เป็นนักล่าฝัน เมื่อเธอประสบความสำเร็จแล้วเธอก็จะแชร์ให้กับคนอื่น เป็นแรงบันดาลใจให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและพร้อมที่จะทำตามฝัน จากนั้นก็มาช่วยกันทำให้โลกใบนี้ดีมากยิ่งขึ้น”
ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจของสาวงามจากประเทศอื่นๆ ให้ได้ทำความรู้จักกันอีกหลายเรื่อง อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ
เครดิตเรื่องและภาพ : OK! Issue 309
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments
