จริงๆ แล้วคำว่า โบท็อกซ์ ได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมเสริมความงามมาหลายปีแล้ว ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็มีการต่อต้านว่าสิ่งแปลกปลอมอันนี้ไม่ควรใช้ร่วมกับร่างกายเพราะอาจเป็นอันตราย แต่นวัตกรรมทางการแพทย์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่า โบท็อกซ์นั้นมีประโยชน์มากขนาดไหนในปัจจุบัน หากคุณกำลังตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์เพื่อเสริมความงาม สามารถติดตามข้อมูลได้ที่นี่กับทุกประเด็นที่เราจะมาพูดถึงโบท็อกซ์
โบท็อกซ์คืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนเลือกฉีด
Botox คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากแบคทีเรียที่ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่หลายคนน่าจะรู้จักเพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งลักษณะพิเศษของสารนี้คือการออกฤทธิ์เพื่อทำให้เซลล์ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ ซึ่งเป็นผลโดยตรงให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้นั่นเอง ไอเดียนี้จึงถ่ายทอดสู่อุตสาหกรรมด้านความงาม โดยทำการสกัลป์สาร Botulinum Toxin A ออกมา และต่อยอดจนกลายเป็นโบท็อกซ์ในปัจจุบัน
โบท็อกซ์ช่วยเรื่องผิวหน้าอย่างไร?
การฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่บริเวณผิวหน้า มีจุดประสงค์เพื่อรักษาริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น ซึ่งอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว Botox นั้นได้รับการสกัดออกมาเพื่อใช้ร่วมกับการรักษาอย่างเฉพาะ ซึ่งสารนี้จะเข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อใต้ผิวหน้า ให้หยุดการหลั่งสารสื่อประสาทออกมาซึ่งจะทำให้บริเวณนั้นชาและตึง จนริ้วรอยค่อยๆ ตื้นขึ้นมาและดูจางลงนั้นเอง
โดยส่วนใหญ่แล้ว โบท็อกซ์นิยมรักษาในเรื่องของรอยเหี่ยวย่นให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้งหนึ่ง ผิวหน้าของผู้ที่เข้าทำการรักษาจะดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คุณไม่ต้องทำการพักฟื้น และเห็นผลได้ทันที
รีวิวโบท็อกซ์ที่มีชื่อเสียง

การผลิตโบท็อกซ์ในปัจจุบัน จะต้องมีการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ ซึ่งสถาบันความงามที่มีมาตรฐานจะเลือกใช้โบท็อกซ์จากบริษัทที่ได้รับการรับรอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อจากกลุ่มประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลผิวหน้าอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา, ประเทศอังกฤษ, ประเทศเกาหลี, ประเทศเยอรมนี เป็นต้น
Allergan, Xeomin, Dysport, Nabota โบท็อกซ์เหล่านี้เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละแบบได้ออกแบบมาให้ใช้งานภายใต้ข้อกำหนดที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อนั้นเน้นไปที่การกระจายตัวของโบท็อกซ์ บ้างเน้นไปที่การออกฤทธิ์เร็วบริสุทธิ์สูง หรือแม้แต่เน้นไปที่เรื่องของราคา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ผู้ใช้งานก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์
การฉีดโบท็อกซ์อันตรายหรือไม่?
ความอันตรายของโบท็อกซ์คือการผลิตโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่มีหน่วยงานรองรับคุณภาพ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ทางอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม สถาบันเสริมความงามและแพทย์ผู้ทำการรักษาก็จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ โบท็อกซ์ที่ใช้งานต้องยังไม่หมดอายุและได้รับการจัดเก็บอย่างเป็นมาตรฐาน ที่สำคัญ อาการปวดหรือรอยช้ำที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นตามปกติเมื่อมีการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย โดยจะใช้เวลาไม่นานก็จะหายกลับมาเป็นปกติ
ข้อควรระวังสำหรับการฉีดโบท็อกซ์
เพราะโบท็อกซ์เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาจากโปรตีน และใช้งานผ่านการฉีดเข้าไปยังร่างกาย ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องใช้งานอย่างระมัดระวังและต้องอยู่ภายใต้การรักษาหรือดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- โบท็อกซ์ที่จำหน่ายในตลาดมีทั้งของแท้และของปลอม ผู้รักษาควรอ่านรีวิวหรือรายละเอียดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- หากมีอาการผิดปกติทางกล้ามเนื้อหรือระบบประสาทไม่ควรฉีดสารโบท็อกซ์
- ผู้รักษาที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์
- ห้ามซื้อโบท็อกซ์มาฉีดหรือทำการรักษาด้วยตนเอง ต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ประโยชน์ของโบท็อกซ์ที่นอกเหนือจากเรื่องความงาม
รู้หรือไม่? โบท็อกซ์มีคุณประโยชน์มากกว่าเรื่องความงาม มีงายวิจัยหลายแหล่งที่รายงานถึงการใช้โบท็อกซ์ในเรื่องการรักษากล้ามเนื้อและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
- การรักษาความผิดปกติของการใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป เช่น การกระตุกของหนังตา, อาการตาเข, การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอ เป็นต้น
- ใช้รักษากล้ามเนื้อหลังอักเสบ
- ใช้รักษาอาการไมเกรน
ผู้ชายสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้มั้ย?
ต้องบอกตามตรงเลยว่า การที่ผู้ชายเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์นั้นนับเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะการดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ โดยการฉีดโบท็อกซ์ในสุภาบุรุษนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้าในกลุ่มคนที่มีอายุ เนื่องจากโครงสร้างผิวของผู้ชายนั้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ การดูแลด้วยการฉีดโบท็อกซ์จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในผู้ชาย
นอกจากนี้ ลูกค้าที่เป็นผู้ชายมักรักษาด้วยโบท็อกซ์ร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ไปด้วย เช่น การบำรุงผิวหน้า, การทำหน้าใส รวมถึงการดูแลรูขุมขน ซึ่งจะต้องอยู่ในการแนะนำของแพทย์
การเตรียมพร้อมก่อนฉีดโบท็อกซ์
เพื่อให้การรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตนก่อนการฉีดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดดังนี้
1. ตรวจเช็คร่างกายตามโปรแกรมที่แพทย์แนะนำ เพื่อเป็นการตรวจสอบร่างกายว่ามีความพร้อมต่อการฉีดโบท็อกซ์หรือไม่ ที่สำคัญเพื่อเป็นการตรวจสอบด้วยว่ามีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยาตัวไหนเป็นประจำหรือไม่
2. ดื่มน้ำให้ครบตามความต้องการต่อวัน พร้อมกับการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
3. ไม่อดนอนหรือออกกำลังกายอย่างหักโหม ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
4. ควรหยุดการทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี, สมุนไพร, น้ำมันปลา เป็นต้น
5. ห้ามกินยาแก้อักเสบก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ 1 อาทิตย์
การดูแลตนเองหลังการฉีดโบท็อกซ์
การดูแลตนเองหลังเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์นับเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะในขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น เพราะเป็นช่วงที่โบท็อกซ์กำลังเซตตัว และผิวกำลังปรับสมดุล
1. ห้ามนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์
เพราะโบท็อกซ์ที่เป็นของเหลวอาจไหลหรือเสียรูปได้ ดังนั้นหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงจะดีที่สุด
2. หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดหรือความร้อน
คุณควรหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดงหรือความร้อนอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพราะถ้าความร้อนไปสัมผัสกับโบท็อกซ์อาจทำให้สารเกิดการกระจายแตกตัว ส่งผลให้สลายตัวเร็วและความยั่งยืนก็น้อยลง
3. พักผ่อนและจัดตารางการออกกำลังกาย
จริงๆ แล้วหลังจากฉีดโบท็อกซ์คุณสามารถออกกำลังกายได้ แต่ไม่ใช่ออกทันทีหลังจากฉีดเสร็จ ที่สำคัญควรจัดตารางเวลาให้ไม่หักโหมจนเกินไป รวมถึงต้องพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย
4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
เนื่องจากแอลกอฮอล์และบุหรี่เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้โบท็อกซ์เสื่อมประสิทธิภาพลง ผู้รักษาจึงควรเว้นระยะก่อนไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการฉีด
ระยะเวลาในการรักษา
การฉีดโบท็อกซ์ในปัจจุบันใช้เวลาในการรักษาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ซึ่งต้องอยู่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยผลลัพธ์มักจะเห็นได้ทันทีหลังจากการฉีด แต่จะชัดเจนมากๆ เมื่อผ่านไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์ และถ้าหากผู้เข้ารับการรักษาปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังฉีด ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-12 เดือน อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์อีกด้วย
สรุป
นวัตกรรมการฉีดโบท็อกซ์เข้ามาช่วยยกระดับศักยภาพของสถาบันเสริมความงามอย่างเห็นได้ชัด โดยสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงต้องการปรับโครงหน้าให้เข้ารูปดังที่ต้องการ ต้องบอกเลยว่าโบท็อกซ์คือทางเลือกการรักษาที่เติบโจทย์ที่สุด เพราะนอกจากจะใช้เวลาในการรักษาไม่นานแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องพักฟื้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามการเลือกใช้โบท็อกซ์ที่ได้รับการรับรองและเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ยังเป็นคีย์สำคัญสำหรับเคล็ดลับของความงามในทุกยุค