“ความรักชนะวิกฤต” ถอดบทเรียนชีวิตล่าสุดของ แวว- ธีรวัลคุ์ เตชะอุบล

“ความรักชนะวิกฤต” ถอดบทเรียนชีวิตล่าสุดของ แวว- ธีรวัลคุ์ เตชะอุบล

นับเป็นอีกช่วงเวลาที่ทดสอบทั้งสติและความอดทนจริงๆ เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่วิกฤต COVID-19 ก็เหมือนกับทุกคนบนโลกใบนี้ต้องเข้าสู่การฝึกจิตควบคู่ไปกับการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย สำหรับเซเลบริตี้สาวคนเก่ง แวว- ธีรวัลคุ์ เตชะอุบล ผู้ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เครือเกษมกิจ เครือโรงแรมเคปแอนด์แคนทารี อย่าง Cape Hotel Collection Kantary Collection Kameo Collection Somewhere Koh Sichang Cape Kudu Cape Fahn ฯลฯ ก็เป็นอีกคนที่ต้องรับศึกหนักเช่นกัน แต่เธอก็ผ่านทุกอย่างมาด้วยความรัก ความเข้าใจจากคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ที่พร้อมเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการหนุนใจให้ผ่านเรื่องราวตรงนี้ไปได้

 

 

“สำหรับการรับมือของแววในช่วงสถานการณ์ COVID-19 นั้นถ้าเป็นในเรื่องของธุรกิจ เราปรับได้ในระดับหนึ่งค่ะ คือไม่พยายามเป็นภาระให้กับสังคมมากที่สุดในด้านของพนักงาน คนทำงานออฟฟิศ พยายามที่จะ Work from Home กันบ้าง หรือสลับเวรกันเข้ามาทำงานบ้าง แต่ว่าในแง่ของธุรกิจทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ เพราะว่าไม่มีนักท่องเที่ยวก็ไม่มีธุรกิจ แต่ก็มีอะไรที่ทำได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ อย่างร้านอาหารล่องใต้ ที่ทำกับเชฟเดวิด ทอมป์สัน ที่ Cape Fahn แววก็นำมากรุงเทพฯ ทำเป็นเดลิเวอรี่ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดี แต่ยังเป็นส่วนที่น้อยมาก ดีที่สุดคือต้องปรับตัวแบบทำใจ ดูว่าจะเลี้ยงน้องๆ ไปได้นานถึงแค่ไหน เตรียมเงิน เตรียมรับสภาพ เตรียมการเปิดใหม่ เมื่อมีเวลาพร้อม เราต้องพร้อมกว่าคนอื่น พร้อมมากที่สุด มีการรักษาความสะอาด เรโนเวทให้ดีที่สุด เพื่อที่เวลาเปิดออกมาปุ๊ปเราก็สู้กับคนอื่นได้ค่ะ”

  เรื่องที่แววได้เรียนรู้จากสถานการณ์ครัั้งนี้คือ อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต เข้าใจถึงความไม่ฟุ้งเฟ้อ เข้าใจสิ่งที่คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ท่านคิดและทำ เช่น เพราะอะไรท่านถึงประหยัดกว่าเรา ทำไมท่านถึงให้ความสำคัญในเรื่องครอบครัวและการอยู่ด้วยกัน นั่นเป็นเพราะท่านเคยผ่านช่วงที่ลำบากกว่านี้มาก่อนคือช่วงสงคราม

 

สำหรับธุรกิจของครอบครัวคุณแววนั้นไม่ได้มีแต่เรื่องของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์เท่านั้น  เพราะยังมีธุรกิจหลักที่ใหญ่กว่าคือผลิตยา ซึ่งเป็นอีกทางในการช่วยสร้างรายได้ให้กับพนักงานบางส่วนของโรงแรมที่สมัครใจเข้ามาทำงานให้มีรายได้เลี้ยงดูตัวเอง ส่วนคุณแววเองก็ได้เข้ามาช่วยที่บ้านด้วยเช่นกัน “ตอนนี้เป็นสาวโรงงานทุกวันค่ะ เมื่อก่อนไม่เคยเข้าไปยุ่งที่โรงงานยาเลย สนใจน้อยมาก เพราะคุณพ่อเองจะดูโรงงาน ส่วนแววจะดูโรงแรมกับการดูแลแขก และการประชาสัมพันธ์  แล้วแววก็ไปขอคำปรึกษาคุณพ่อ ให้ท่านช่วยตรวจงาน ตรวจการบ้าน  หรือการตัดสินใจใหญ่ๆ คุณพ่อจะเป็นคนตัดสินใจ ตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในชีวิตแววที่ในที่สุดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไปทำโรงงานยาด้วยแล้วกัน ซึ่งการที่เราทำยาด้วย ทำให้ค่อนข้างมีความรู้ในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยและนำมาปรับเข้ากับโรงแรมเช่น  ทุกๆ อาทิตย์ ทุกโรงแรมจะมีคนตักน้ำในสระว่ายน้ำ น้ำดื่ม น้ำแข็ง น้ำใช้ในห้อง น้ำที่ปล่อยออกมา ใส่กล่องและส่งมาเข้าแลปที่กรุงเทพฯ เพื่อตรวจเช็ค เราทำแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องน้ำ เราปลอดภัยแน่นอน แล้วพอมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเราก็ส่งหมอ เภสัช ไปอบรมพนักงานใหม่หมดเลย เช่น ต้องฉีดอะไร ยังไง เรามีแหล่งข้อมูลอยู่แล้ว พอเจอเรื่องนี้เราเลยไม่ต้องปรับเยอะ แต่หลังจากเปิดโรงแรม New Normal ของเราคงเป็นวิธีทำความสะอาด ซึ่งกำลังเทรนด์อยู่ในตอนนี้ ต้องใช้แอลกอฮอล์หมดในการทำความสะอาด ต้องมีการเปิดรับแสง รับอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในห้อง เป็นเรื่องที่พนักงานต้องเพิ่มสเต็ปท์ในการทำงานค่ะ”

 

 

สำหรับเรื่องชีวิตส่วนตัวคุณแววเล่าให้ฟังว่า “ตอนนี้มีการสอนลูกแบบโฮมสคูล เรียกว่าทั้งทำงานไปด้วย สอนลูกไปด้วย ส่วนในเรื่องการทำกับข้าว แววเป็นคนชอบทำอยู่แล้วค่ะ และเราเองไม่ได้กลัวเรื่องอาหารมาก เพราะมีเดลิเวอรี่ ในโรงแรมเองก็มีอาหารในสต๊อกอยู่เยอะมากไปเบิกมาใช้ได้ เพียงแต่ตอนนี้แววไม่ได้เจอเพื่อน เจอแต่ครอบครัว ซึ่งรวมไปถึงคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ น้องชายค่ะ และเรื่องที่แววได้เรียนรู้จากสถานการณ์ครัั้งนี้คือ อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต เข้าใจถึงความไม่ฟุ้งเฟ้อ เข้าใจสิ่งที่คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ท่านคิดและทำ เช่น เพราะอะไรท่านถึงประหยัดกว่าเรา ทำไมท่านถึงให้ความสำคัญในเรื่องครอบครัวและการอยู่ด้วยกัน นั่นเป็นเพราะท่านเคยผ่านช่วงที่ลำบากกว่านี้มาก่อนคือช่วงสงคราม ช่วงนั้นทุกอย่างขาดแคลน แต่ท่านต้องดูแลคนใกล้ชิด ดูแลลูกน้องให้พอประทังชีวิตกันไปได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งที่ผ่านมาเราเองไม่เคยเจออย่างนั้นมาก่อนเลย พอมาเจอแบบนี้ เราเลยรู้และเข้าใจท่านมากขึ้นค่ะ”

 

 

คุณแวว-คุณเบนและน้องเตช-วรัตถ์ เตชะอุบล

 

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูยาก แต่ในความมืดก็ยังมีแสงสว่างเล็กๆ ให้ได้ชื่นใจ “แววคุยกับเพื่อนฝรั่งเยอะมากค่ะ พวกเขาจะบอกว่า ตั้งแต่มี COVID-19 คนเห็นแก่ตัวมาก แต่กลับได้เห็นว่าคนไทยคือคนทีมีน้ำใจ เราไม่เคยไปดูถูกชาติไหน มีอะไรก็พยายามช่วยกัน ใครขาดอะไร ตรงไหน ก็ช่วยกันบริจาค ให้ความช่วยเหลือ กับแววเองเพื่อนๆ ก็น่ารัก เช่น พอเรานำล่องใต้มา ทุกคนก็ช่วยกันสั่งซื้อ เป็นกำลังใจให้กัน มีน้ำใจต่อกัน ลงอินสตาแกรมช่วยโปรโมตให้ ทุกวันนี้แทบไม่ต้องทำกับข้าวเอง เพราะเพื่อนส่งอาหารให้ทุกวัน หรือเราส่งอาหารให้เพื่อน เห็นเลยว่าแววมีเพื่อน มีประเทศที่และมีคนที่น่ารักมากอยู่ในประเทศเรา คนไทยเป็นคนมีน้ำใจ (เราได้เห็นว่าคุณแววเองก็ส่งอาหารให้คุณหมอ พยาบาลด้วยเหมือนกัน ) เยอะเลยค่ะ (หัวเราะ)

 

แววรู้สึกว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่ยากและลำบาก ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้เราผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ก็คือต้องสู้ค่ะ แล้วทุกคนก็จะผ่านไปด้วยกัน อย่าคิดว่าเราอยู่ในโลกนี้เพียงคนเดียว ถ้ารู้สึกท้อแท้ อยากบอกว่ายังมีทางอีกมากมายที่จะทำได้

 

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คุณแววเองก็เสียน้ำตามาแล้วเช่นกัน เพราะอย่างที่เราก็รู้ว่าแบบฝึกหัดครั้งนี้ไม่ง่าย “แววเองก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกท้อนะคะ คิดว่าทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้ แล้วเรายังขอความร่วมมือจากพนักงานลดเงินเดือนลง 30 % อีก เครียดมากค่ะนอนไม่หลับเป็นอาทิตย์ ห่วงว่าเขาจะอยู่ได้ไหมด้วยเงินเดือน 70 % แต่ที่ทำอย่างนี้เพราะอยากให้ทุกคนรอดไปด้วยกัน ไม่อยากหยุดลงกลางทาง นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ เช่น พอดูแลโรงแรมเสร็จ ก็ไปโรงงานยาแล้วกลับมาสอนลูกทำการบ้าน ซึ่งการได้เจออะไรเยอะไปหมดนานเข้า วันหนึ่งแววถึงกับร้องไห้ โชคดีที่มีครอบครัว เพื่อนที่ดี ทุกคนก็เข้ามาซัพพอร์ต คุณแม่ พี่น้อง บอกว่าเดี๋ยวช่วยสอนการบ้านให้หลานเอง พวกเขาพยายามคุยด้วย ตอนนี้ก็หายเครียดแล้วค่ะ ใช้เวลากับตรงนี้นานเหมือนกัน แต่ก็ทำให้เราดีใจและซึ้งใจกับเพื่อนและครอบครัวตัวเองที่ไม่ได้ทิ้งกันค่ะ และพอผ่านจุดนั้นมาแล้วก็ทำให้แววรู้สึกว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่ยาก ลำบาก ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้เราผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ก็คือต้องสู้ค่ะ แล้วทุกคนก็จะผ่านไปด้วยกัน อย่าคิดว่าเราอยู่ในโลกนี้เพียงคนเดียว ถ้ารู้สึกท้อแท้ อยากบอกว่าเรายังมีทางอีกมากมายที่จะทำได้ แล้วก็ฝากถึงผู้ประกอบการด้วยว่าตอนนี้เป็นอย่างนี้ ลูกน้องก็ช่วยเรา ในเคสของแวว และคนที่แววเห็นอีกมากมาย เพราะฉะนั้นอย่าลืมลูกน้องค่ะ”

 

 

[Credit]

Instagram: @waewtirawan

 

✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦

ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่

Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand

Comments

comments

okadmin

นิตยสาร OK! เป็นนิตยสารรายแรกและเพียงรายเดียวที่อัพเดตข่าวคราวของเหล่าดาราทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเจาะลึกทุกซอกทุกมุม รวมทั้งเรื่องส่วนตัวของเหล่าศิลปินและดาราสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

RELATED ARTICLES

สวนกระแสเศรษฐกิจ ตัน ภาสกรนที ออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ

สวนกระแสเศรษฐกิจ ตัน ภาสกรนที ออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ

ช่วงนี้เศรษฐกิจตกสะเก็ด มองไปทางไหนก็ดูเหมือนไร้โอกาส แต่ไม่ใช่สำหรับ ตัน [...]

READ MORE
บอกเลยว่าพร้อมมาก! ส่องมาตรการคุมเข้ม New Normal ของกองถ่ายละครไทย

บอกเลยว่าพร้อมมาก! ส่องมาตรการคุมเข้ม New Normal ของกองถ่ายละครไทย

เรียกว่าควบคุมแบบเข้มข้นสำหรับการทำงานรูปแบบ New Normal  ของกองถ่ายละครไทยที่พร้อมปฏิบัติตามกฏกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด [...]

READ MORE