
หนึ่งในธุรกิจที่ต้องหยุดชะงักลงในช่วงสถานการณ์ COVID-19 คือการถ่ายทำละคร ซึ่งตอนนี้แม้จะมีผู้ติดเชื้อน้อยลงก็ยังวางใจไม่ได้ และยังต้องมีการจัดมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าไวรัสตัวนี้กลับมาระบาดซ้ำ OK! ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณหน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ถึงการปรับตัวและการรับมือกับไวรัสหยุดโรคตัวนี้ พร้อมกับ New Normal ของเธอรวมถึงการอัพเดทการเตรียมการณ์สำหรับการถ่ายละครที่อาจเริ่มเดินเครื่องต่อในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้มาฝากกัน ใครกำลังรอชม “ดวงใจในมนตรา” ที่คู่จิ้นอย่างโตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ แสดงด้วยกัน พี่หน่องบอกว่าถ่ายทำไปได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว รบกวนอดใจรออีกนิดหนึ่ง
สุขภาพที่ดีต้องมาก่อน
ในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา 2 เดือนเศษๆ ต้องบอกว่าเราปรับตัวค่อนข้างเยอะนะคะ แต่ส่วนตัวพี่มองว่าเราอยู่ในส่วนที่สามารถปรับตัวได้สบายๆ โดยเฉพาะเรื่องของส่วนตัว ในเรื่องของการเตรียมอุปกรณ์ เมื่อเราก้าวเท้าออกนอกบ้าน พี่จะมีถุงยังชีพ 1 ถุง ในถุงยังชีพสิ่งที่ควรมีคือ หน้ากาก ซึ่งพี่พกติดตัวตั้งแต่ช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 แล้ว เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ ทิชชู่ผสมแอลกอฮอล์ รวมถึงอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อระมัดระวังสิ่งต่างๆ เนื่องจากว่าเรื่องของ COVID-19 มันทำให้เราตระหนักว่า จริงๆ แล้วสุขภาพต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด เหมือนที่พระท่านเคยบอกไว้ว่า อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ส่งถุงยังชีพและ Face Shield เพื่อช่วยเหลือแทนความห่วงใย
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือเรื่องของความห่วงใย ทั้งสุขภาพของตัวเราเอง คนที่เรารัก ผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ รวมถึงผู้ร่วมงาน และที่สำคัญที่สุดที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความห่วงใยที่มีต่อส่วนรวม จะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนช่วยกันหมดนะคะ อย่างพวกเราชาวบรอดคาซท์ฯ ทุกคนมีส่วนร่วมที่อยากจะช่วยเหลือสังคม จึงช่วยกันทำ Face Shield ตอนนี้เราทำจนชำนาญมาก ทำไปประมาน 7,000 ชิ้นแล้ว เพื่อที่จะส่งมอบให้กับคุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ เราส่งมอบให้หลายที่ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สมาคมแพทย์ พยาบาลศาสตร์ สภากาชาดไทย และก็กระจายไปตามหลาย ๆ จังหวัด รวมถึงภาคใต้ ซึ่งตอนนี้เราก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาหารกล่องเพื่อส่งไปให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้มีแรงสู้กับ COVID-19 อย่างทางช่อง 3 เอง ก็ทำถุงยังชีพ ทางพี่หน่องและทีมนักแสดงก็ได้ไปช่วยกันแพ็คของ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของผลิตภัณท์ร่วมทำบุญ และยังมีส่วนลดราคาเป็นพิเศษ เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนที่เดือดร้อน ไม่มีงานทำ ออกไปไหนไม่ได้ สิ่งของเหล่านี้เป็นตัวแทนความห่วงใย ส่งไปเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ทำให้รู้ว่าเราทุกคนไม่ควรนิ่งเฉย เพราะในสภาวะวิกฤตนี้บางคนอาจจะต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต จากคนทำงานประจำ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมาขายอาหารออนไลน์ต่างๆ พี่หน่องเองรู้สึกว่าช่วงนี้เราอาจจะหาอาหารกินยาก พอเห็นเพื่อนๆ ทำอะไร พี่ก็อยากจะอุดหนุน และส่งอาหารไปให้หลายๆ คน พี่ขอยกตัวอย่างน้องโบวี่ (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) มีช่วงหนึ่งที่พี่หน่องส่งไก่บาบีคิวไปช่วงที่น้องต้องกักตัว น้องบอกพี่ว่าพอน้องได้อยู่บ้าน ได้ทำอาหารที่บ้านก็สนุกมาก หลังจากนั้น น้องก็มีน้ำใจส่งขนมจีนน้ำยากลับมา (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นที่หลายคนมองว่า COVID-19 คือความเดือดร้อน มันก็จริง แต่ในทางกลับกันเราก็ได้เห็นสิ่งที่ดีเกิดขึ้นในสังคมมากมายด้วยเช่นกัน
พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ได้เวลาจัดระเบียบ
ในส่วนเรื่องของการทำงานของบริษัท บริษัทเราทำละครเป็นหลัก เพราะฉะนั้นตอนที่เราต้องหยุดการถ่ายทำ คนของเราส่วนหนึ่งลุยผลิต Face Shield และอีกส่วนหนึ่งมีเวลามาจัดระบบ ระเบียบหลังบ้าน การเก็บของ การจัดการอะไรบางอย่างของเรามากขึ้น บริษัทเรามีอุปกรณ์ประกอบฉาก ข้าวของ หรืออุปกรณ์เทปเยอะมาก เราเลยใช้ช่วงเวลานี้ในการจัดหลังบ้าน บางส่วนเราได้นำไปบริจาค ให้คนที่เขาต้องการจริงๆ อย่างเช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ ฯลฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อวัด และก็ชุมชนต่างๆ ด้วย มันก็เป็นโอกาสอันดี เพราะว่าถ้าเราทำงานในช่วงเวลาปกติเราก็อาจจะไม่มีเวลามาดูตรงนี้
New Normal ของหน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ และการจัดระเบียบกองถ่าย
เรื่องนี้พี่มองว่าเป็นเรื่องของการรักษาสุขภาพ มันจะเป็นสิ่งดีๆ ที่ติดตัวเราไปตลอด โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาความสะอาด รวมทั้งการให้ความร่วมมือกับส่วนรวมต่างๆ ด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ที่เราจะต้องระมัดระวัง และจัดระบบในกองถ่ายละครคือ เมื่อเรากลับมาทำงาน เริ่มตั้งแต่การเข้ากอง ตอนนี้เราจะเริ่มมีการบันทึกลายเซ็นว่าใครมาทำงาน และก็จะต้องเขียนย่อๆ ว่า เคยไปต่างจังหวัดมาหรือเปล่า หรือไปสถานที่ที่มีความเสี่ยงมาหรือเปล่า และก็จะต้องมีการวัดไข้ก่อนเข้ากองทุกครั้ง ถ้ามีไข้เราก็จะให้กลับเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือว่าคนทำงานทั้งหมด ตรงนี้จะต้องมีการจัดระบบของเรื่องอาหารการกินแยกส่วนมากขึ้น ตอนนี้ทางบรอดคาซท์ฯ ก็ได้ซื้อถาดหลุมเพื่อเตรียมจัดอาหารเป็นเซต ไม่ว่าจะนักแสดง ผู้กำกับ หรือว่าทีมงานทั้งหมด เรื่องตรงนี้คงจะปรับไปตลอดเลย เพราะว่าเราก็ไม่อยากที่จะเสี่ยง ตอนนี้เรามี COVID-19 แต่เราไม่รู้อนาคตข้างหน้า มันอาจมีโรคระบาดใดที่เกิดขึ้นอีก ซึ่งถ้าเราจัดระบบ และเตรียมพร้อมจะทำให้ลดอัตราการเสี่ยงลงไปได้มากเลยค่ะ นอกจากตรวจเช็คร่างกายและอาหารแล้ว เรายังดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ปกติเราทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เต้องเพิ่มการฆ่าเชื้อโรคเข้าไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เราจึงต้องเพิ่มมาตราการที่เยอะขึ้น รวมทั้งเรื่องของการแต่งหน้าทำผมจะต้องใส่แมสอย่างสม่ำเสมอ การพูดคุย การใช้เสียงดัง จะต้องลดลง นักแสดงอาจจะต้องเตรียมอุปกรณ์ส่วนตัวบางอย่าง เช่น แปรงแต่งหน้าที่จะนำมาใช้ อันนี้ก็คือต้องมีการปรับตัวกันเยอะ แต่มันจะกลายเป็น New Normal ที่เราเองทำได้ คาดว่าในอนาคตเมื่อเรามีระบบการบริหารจัดการที่ดี วิกฤติไหนเราก็สามารถผ่านไปได้แน่นอนค่ะ”
สิ่งที่โลกกำลังบอกมนุษย์
ถือว่าโลกเขาบอกพวกเรานะคะว่าเราต้องจัดระเบียบทุกอย่างของตัวเราเอง ของครอบครัว ของสังคมที่ปรับตัวไป เพราะฉะนั้นเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว อยากให้รักษาสิ่งที่ดี และเป็นระบบระเบียบตรงนี้ไว้ อย่างที่บอกว่าอนาคตเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แต่วันนี้เราเห็นทุกคนร่วมใจที่จะปรับตัวกัน พี่คิดว่าเราจะต้องผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ”
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments