QUARANTINE QUEEN
ฮอตเกินต้าน! ศิลปินสายแซ่บดัว ลิปา ทวงบัลลังก์ชาร์ตเพลงป๊อป
พาอัลบั้มใหม่ Future Nostalgia สร้างกระแสสุดปังฝ่าวิกฤต COVID-19
เต้นกระหน่ำไปกับแนวเพลงแดนซ์ฉบับโมเดิร์นที่อินสไปร์จากดนตรียุคก่อน
ปี 2017 ดัว ลิปา แจ้งเกิดเต็มตัวในวงการดนตรีจาก “New Rules” เพลงป๊อปสุดมั่นที่ได้ใจสาวๆ ยุคใหม่ เพลงสะท้อนให้เห็นถึงการกล้าเดินออกมาจากความสัมพันธ์อย่างมาดมั่น สร้างกฎใหม่เรื่องความรักให้ตัวเอง และการที่ผู้หญิงสนับสนุนกันและกัน ผ่านมิวสิกวิดีโอสีสันสดใสของซัมเมอร์ (สถิติยอดวิวที่สูงถึง 2.2 พันล้านครั้ง) เพลงนี้ยังขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงอังกฤษ ตามมาด้วยเพลงฮิตอีกหลายเพลง ทั้ง “Be the One”, “Blow Your Mind (Mwah), “IDGAF”, “Hotter than Hell”, “Homesick” ฯลฯ รวมทั้งเพลงอื่นๆ ซึ่งดัวร่วมงานกับศิลปินดังที่มีงานเพลงต่างสไตล์ เช่น “No Lie” กับฌอน พอล, “Scared to Be Lonely” กับมาร์ติน แกร์ริกซ์, “One Kiss” กับคาลวิน แฮร์ริส, “Electricity” กับดูโอ Silk City ตลอดจน “Kiss and Make Up” กับวง Blackpink เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตจากเกาหลีใต้
น้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ความมั่นใจ เนื้อหาของงานเพลงที่เปิดเผย การสนับสนุนผู้หญิงด้วยกัน รวมทั้งการออกความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ดัวขึ้นแท่นศิลปินหญิงที่โดดเด่นกว่าใครๆ นี่ยังไม่นับรวมงานเพลงที่เรียกได้ว่าติดหูและฟังสนุก หน้าตาสวยคม บุคลิกอันมาดมั่น รวมทั้งสไตล์ที่ออกแนวสปอร์ตี้เซ็กซี่ของเธอ กระแสความดังของนักร้องเชื้อสายคอซอวอ-แอลเบเนีย เป็นกราฟขึ้นแบบยั้งไม่อยู่ ปี 2018 ดัวเป็นศิลปินหญิงที่มียอดผู้ฟังทางบริการสตรีมมิงอย่าง Spotify และ Apple Music สูงสุดในเกาะอังกฤษ เธอยังคว้ารางวัลศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยมและศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Brit Awards เวทีประกาศรางวัลของเกาะอังกฤษ ในขณะที่ปี 2019 ดัวคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Grammy Awards มาครอบครอง!
ความฮอตของดัวยังคงเดินหน้ามาถึงปี 2020 เมื่อเธอคัมแบ็กพร้อมอัลบั้มใหม่อัลบั้มที่ 2 ในชื่อสุดเก๋ Future Nostalgia ซึ่งปล่อยออกมาช่วงปลายเดือนมีนาคม ชนิดที่เรียกว่าฝ่าวิกฤต COVID-19 ด้วยการสร้างกระแสสุดปัง อัลบั้มนี้นำเสนองานเพลงป๊อปฟังสนุกที่อินสไปร์จากดนตรีดิสโก้ แดนซ์ป๊อป คลับแดนซ์ จากยุค 70, 80 และ 90 เสมือนพาเราเข้าคลาสแดนเซอร์ไซส์ผ่านดนตรีจากวันวานที่ผสานกลิ่นอายของความโมเดิร์น Future Nostalgia มาพร้อมเพลงฮิตที่ปังไม่หยุดทั้งในชาร์ตเพลง บริการสตรีมมิง ยูทูบ และ TikTok แพลตฟอร์มสุดฮอตในช่วงกักตัวจาก COVID-19 ทั้ง “Don’t Start Now”, “Physical”, “Break My Heart”, “Hallucinate” ฯลฯ ขึ้นแท่นอัลบั้มแห่งยุคที่ตรงใจและโดนใจแฟนเพลงทั่วโลก ทั้งยังได้รับคำชมจากสื่อและนักวิจารณ์อย่างท่วมท้น เมื่อเดือนกรกฎาคม ดัวยังทำสถิติใหม่เมื่อเธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มีเพลงซึ่งมียอดสตรีมมิงใน Spotify มากกว่า 1 พันล้านครั้งมากถึง 4 เพลง ได้แก่ “New Rules”, “One Kiss”, “IDGAF” และ “Don’t Start Now” อีกด้วย
Future Nostalgia แสดงให้เห็นพัฒนาการในฐานะศิลปินของดัวอย่างชัดเจน เพราะเธอมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงทุกเพลง ภาพโปรโมต การออกแบบท่าเต้น และการสร้างสรรค์โชว์มากขึ้น อัลบั้มนี้ศิลปินสาวซื่อสัตย์และตรงไปตรงมากับสิ่งที่เธอพูด แน่วแน่ในอารมณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว มุ่งมั่นกับการสร้างสรรค์งานเพลงในธีมย้อนวันวาน หากแต่มีกลิ่นอายสมัยใหม่ที่ทดลองเล่นกับดนตรียุคก่อน ท่ามกลางศิลปินหญิงมากมาย ดัวในวันนี้ได้ประทับตำแหน่งศิลปินหญิงคุณภาพของตัวเองในอุตสาหกรรมเพลงป๊อป เธอกำลังเติบโตในฐานะศิลปินคุณภาพ และเราเชื่อว่าอนาคตที่สดใสกำลังรอคอยป๊อปสตาร์สายแซ่บซึ่งจะอายุครบ 25 ปีในวันที่ 22 สิงหาคมนี้
คุณคงหลงใหลดนตรียุค 70, 80 และ 90 มากจนนำสไตล์ดนตรีเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจในอัลบั้มใหม่ใช่ไหม คุณเคยบอกว่าฟังเพลงยุคนั้นเพราะพ่อแม่เปิดให้ฟังด้วย
ใช่ค่ะ มันเป็นความรู้สึกโหยหาอดีต พลังของดนตรีในยุคนั้น ความรู้สึกที่พ่อแม่ฉันมีต่อเพลง และการได้เต้นรำกันที่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทรงจำที่ดีของฉัน ทุกครั้งที่พ่อแม่เปิดเพลงยุคนั้นฟัง เหมือนเพลงพาฉันย้อนกลับไปในช่วงเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ฉันชอบความทรงจำเหล่านั้นและอยากจับมันมาแต่งตัวอีกครั้ง ด้วยการนำแนวเพลงมาเป็นแรงบันดาลใจในอัลบั้มใหม่นี้ ศิลปินที่อินสไปร์ฉันมีหลายคน เช่น วง INXS, พรินซ์, บลอนดี้, มาดอนน่า, ไคลี่ มิโน้ก, ดูโอ้ Moloko, วง Jamiroquai, โซฟี เอลลิส-เบ็กสเตอร์ ฯลฯ สิ่งสำคัญคือฉันอยากสร้างสรรค์งานเพลงที่ยังให้ความรู้สึกดีๆ เหมือนเดิม แต่ในรูปแบบใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น
ก่อนหน้านี้คุณมีผลงานเพลงที่มีกลิ่นอายของดนตรียุคก่อนมาแล้ว อย่างเพลง “One Kiss” ที่ร่วมงานกับคาลวิน แฮร์ริส และ “Electricity” ที่ร่วมงานกับ Silk City ในปี 2018 2 เพลงนี้สร้างแรงบันดาลใจให้อัลบั้มใหม่ของคุณด้วยหรือเปล่า
ด้วยค่ะ 2 เพลงนี้ รวมทั้ง “Genesis” เพลงจากอัลบั้มแรก ช่วยให้ฉันค้นหาแนวทางสำหรับอัลบั้มใหม่นี้เจอ ฉันรู้สึกสบายใจเหมือนอยู่บ้านเวลาได้ร้องเพลงเหล่านั้น ชอบความรู้สึกที่เพลงมอบให้ฉันมากๆ รู้สึกว่ามักมีบางส่วนจากผลงานเพลงที่ผ่านมาที่อินสไปร์งานเพลงโปรเจ็กต์ต่อไปของฉันเสมอ
ทำไมคุณถึงตัดสินใจปล่อยอัลบั้ม Future Nostalgia ออกมาในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งช่วงนั้นสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ถือว่าหนักมาก และทำให้ศิลปินหลายคนตัดสินใจเลื่อนการปล่อยอัลบั้มออกไปด้วยซ้ำ
นั่นเพราะฉันทำอัลบั้มนี้ขึ้นมาเพราะอยากหลีกหนีจากความกดดัน ความวิตกกังวล และความคิดเห็นต่างๆ จากโลกภายนอก จริงอยู่ที่เพลงในอัลบั้มทำขึ้นมาเพื่อใช้ฟังตามคลับหรือเทศกาลดนตรีต่างๆ แต่ขณะเดียวกันฉันก็อยากให้ผู้คนมีความสุขกับการฟังเพลงในช่วงเวลาที่มีการระบาดของ COVID-19 ด้วย ไม่อยากให้วิตกกังวลว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้างมากเกินไป แค่อยากให้ปิดโหมดจากความเครียดสักพัก แล้วมาเต้นไปกับเสียงเพลงกัน บางทีการปล่อยอัลบั้มในช่วงเวลานี้อาจดีกว่าการปล่อยออกมาทีหลังก็ได้นะ
ทราบว่าคุณปิ๊งคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มช่วงปลายปี 2018 ซึ่งตอนนั้นคุณกำลังเดินเล่นอยู่ในลาสเวกัสใช่ไหม
ใช่แล้ว ตอนนั้นฉันเริ่มทำอัลบั้มบ้างแล้ว และรู้ว่าอยากให้เพลงในอัลบั้มนี้สะท้อนความทรงจำและอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อฉันในวัยเด็ก แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนที่ชัดเจน จำได้ว่าตอนนั้นฉันใส่หูฟังและออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และจู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียว่า เอาล่ะ ฉันรู้แล้วว่าจะตั้งชื่ออัลบั้มว่า Future Nostalgia ตอนแรกฉันกังวลว่าคอนเซ็ปต์นี้จะง่ายและตรงไปไหม แต่พอเดินกลับไปถึงโรงแรม มันก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในหัว ฉันเลยส่งข้อความไปหาผู้จัดการและบอกว่าได้ชื่ออัลบั้มแล้วนะ และพอรู้แล้วว่าเพลงควรไปในทิศทางไหน โดย “Levitating” เป็นเพลงแรกที่ช่วยหล่อหลอมและปั้นแต่งทิศทางของอัลบั้ม ตอนอัดเสียงเพลงนี้ฉันตื่นเต้นมาก เหมือนจู่ๆ ก็มีปาร์ตี้ในห้องอัดขึ้นมา ฉันกับทีมงานกินโดนัทกันเยอะมาก รู้สึกเหมือนเคลิบเคลิ้มจนตัวลอยเพราะกินน้ำตาลไปเยอะเลยทีเดียว
ในอัลบั้มแรก Dua Lipa คุณไม่ได้แต่งเพลงเองทั้งหมด แต่สำหรับอัลบั้มนี้คุณมีเครดิตในการแต่งเพลงทุกเพลง ตอนนี้ภาพการเป็นศิลปินของคุณจึงชัดเจนและครบเครื่องขึ้น
สำหรับอัลบั้มแรก ฉันโชคดีที่ได้เพลงดีๆ อย่าง “New Rules” และ “Be the One” มา ซึ่งฉันไม่ได้แต่งเอง แต่ก็เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอาชีพนักร้องของฉัน แต่ลึกๆ ฉันรู้สึกว่ายังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกหลายเรื่อง เพราะสำหรับศิลปินเพลงป๊อป คนอาจมองว่าคุณถูกคนอื่นผลิตขึ้นมา และอาจได้รับเครดิตในการแต่งเพลงเพียงแค่ปรากฏตัวไปร่วมแต่งเพลงเท่านั้น แต่สำหรับเพลงที่ฉันร่วมแต่งด้วย ฉันไปร่วมแต่งเพลงจริงๆ และเนื้อหาล้วนเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน ฉันได้แรงบันดาลใจในการทำเพลงอัลบั้มนี้มาเยอะมาก ตอนนี้ฉันรู้จักตัวเองมากขึ้นเยอะ เห็นภาพชัดว่าอยากทำหรือพูดถึงอะไรในเพลงจริงๆ
อัลบั้มนี้คุณทั้งแต่งเพลง ดูทิศทางภาพรวมปกและแฟชั่นของอัลบั้ม ทั้งยังมีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้นด้วย คิดว่าตัวเองพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหนในฐานะศิลปิน
ตอนทำอัลบั้มแรกฉันเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่มีโอกาส และรู้สึกว่า 3 โชว์แรกของทัวร์คอนเสิร์ตคือวันฝึกซ้อมของฉัน ดูว่าเซ็ตลิสต์ควรเป็นแบบไหน โชว์ควรเป็นอย่างไร หรือฉันจะพูดอะไรกับแฟนเพลงบ้าง สำหรับอัลบั้มนี้สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือฉันต้องทำเพลงให้เสร็จก่อน จากนั้นค่อยโฟกัสเรื่องโชว์เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการแสดงของฉันมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อจะพัฒนาตัวเองให้เป็นฉันในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นจึงต้องมีเวลาเรียนรู้มากพอเพื่อจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ให้ได้
ช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา คุณมีโอกาสร่วมฟีเจอริงเสียงร้องกับศิลปินอีกเพียบใน “Times Like These” ซิงเกิลการกุศลที่คัฟเวอร์จากเพลงของวง Foo Fighters เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 และบุคลากรทางการแพทย์ รู้สึกอย่างไรกับประสบการณ์การอัดเสียงจากที่บ้านตอนกักตัว
รู้สึกว่ามันเป็นขั้นตอนการทำงานที่น่าสนใจสุดๆ สนุกนะที่ได้คัฟเวอร์เพลงที่ไพเราะและสวยงามนี้ ซึ่งเหมาะเจาะกับช่วงเวลาที่เราเผชิญกันอยู่ในตอนนี้จริงๆ ศิลปินทั้ง 25 คนที่ร่วมจอยคัฟเวอร์โปรเจ็กต์นี้ ต่างต้องบันทึกเสียงเพลงทั้งเพลงจากบ้านของตัวเอง พอได้ยินเพลงและเห็นมิวสิกวิดีโอตัวเต็มที่ทุกศิลปินมารวมตัวกัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจจริงๆ ทั้งยังรู้สึกขอบคุณที่มีคนชวนให้ร่วมคัฟเวอร์เพลง ฉันหวังว่ารายได้จากการจำหน่ายซิงเกิลการกุศล “Times Like These” จะมีส่วนช่วยสนับสนุนแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่อุทิศตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการต้องอยู่ห่างจากครอบครัว และทำงานหนักมากเพื่อรักษาและปกป้องผู้คนจาก COVID-19 สำหรับฉัน การมีส่วนช่วยเหลือในด้านใดด้านหนึ่งที่ทำได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ และก็หวังว่าเพลงนี้จะช่วยปลอบประโลมและมอบความหวังให้ผู้คนที่ต้องอยู่บ้านในช่วงเวลาการระบาดของ COVID-19 ด้วย
อยู่ในวงการมาก็พักหนึ่งแล้ว แต่บางคนยังมองว่าคุณเป็นศิลปินหน้าใหม่อยู่ รู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้
ฉันรู้สึกว่าในแง่ของบริการสตรีมมิง ฉันถูกมองว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ค่อนข้างบ่อย แม้กระทั่งปล่อยอัลบั้มที่ 2 ออกมา ฉันก็ยังเหมือนถูกมองว่าเป็นศิลปินใหม่อยู่ดี เราต้องทุ่มเทอย่างหนักและทำงานหนักมากเพื่อให้คนมองเห็นและฟังเพลงของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศิลปินที่มียอดผู้ฟังทางบริการสตรีมมิงสูงสุดเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าเยอะ ฉันคิดว่าเราควรสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายให้มากขึ้น งานประกาศรางวัลต่างๆ ที่มีเด็กๆ หรือคนรุ่นใหม่ดูจากที่บ้านเยอะๆ การนำเสนอโชว์ยังเป็นสิ่งสำคัญมากด้วย มันควรเป็นการแสดงที่เมื่อเด็กสักคนดูโทรทัศน์แล้วรู้สึกได้ว่า “ถ้าศิลปินเหล่านั้นทำได้ บางทีฉันก็อาจทำได้เช่นกัน” เราเองก็มีความฝันที่จะเป็นศิลปินให้ได้สักวันมาก่อน เพราะฉะนั้นจึงต้องสนับสนุนคนอื่นที่อยากเป็นเหมือนเราเช่นกัน จงแสดงให้เขาเห็นว่าการเดินตามความฝันเป็นศิลปินเป็นเรื่องที่เป็นไปได้
แม้จะเกิดในลอนดอน แต่พ่อแม่เชื้อสายคอซอวอ-แอลเบเนียของคุณ ก็พาคุณกลับพริสตีนาตอนที่คุณอายุ 13 ปี แต่อยู่ที่นั่นเพียง 2 ปี คุณก็กลับไปใช้ชีวิตในลอนดอนตามลำพังอีกครั้ง อะไรทำให้คุณที่กำลังเป็นวัยรุ่นอยู่ตัดสินใจทำแบบนั้น
เพราะฉันมีความฝันอยากเป็นนักร้อง และรู้สึกว่าถ้าฉันยังใช้ชีวิตอยู่ที่คอซอวอคงไม่มีโอกาสเพียงพอในการสานฝัน เพราะฉะนั้นฉันจึงย้ายกลับไปลอนดอนตอนอายุ 15 ปี ตอนนั้นก็ยังไปเรียนที่โรงเรียนอยู่ แต่ก็คิดว่าจะใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ ด้วยการลองคัฟเวอร์เพลงลงยูทูบดู ลึกๆ ฉันแอบอยากมีฟีลมีชื่อเสียงได้เพราะอัพคลิปลงยูทูบแบบจัสติน บีเบอร์ จนมีคนตามหาเขาทางยูทูบบ้าง และเพื่อหาเงินเข้าคลาสเรียนร้องเพลง ฉันจึงทำงานทั้งที่ร้านอาหารและไนต์คลับ จนสุดท้ายมีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเพลงตอนอายุ 18 ปี
คุณเป็นศิลปินหญิงอีกคนที่เรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมในหลายๆ เรื่องของวงการดนตรี อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในแง่ไหน
ฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมางานของศิลปินหญิงมักถูกมองข้ามเสมอ เราทุกคนจึงต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อให้คนมองผลงานของเราอย่างจริงจัง เวลาจะเป็นคำตอบล่ะนะ แต่ขณะเดียวกัน ฉันก็จะทุ่มเทและทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ผู้คนมองฉันในฐานะศิลปินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น
ล่าสุดหลายคนบอกว่าคุณเป็น Quarantine Queen หรือเจ้าแม่ช่วงกักตัวไปแล้ว ตำแหน่งนี้ฟังแล้วดูแปลกๆ เหมือนกันนะ
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้ฟังดูแปลกๆ ก่อนหน้านี้ฉันก็อยู่บ้านเหมือนกับทุกคน เราพยายามทำอะไรที่สร้างสรรค์และสนุกกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ยังมีโอกาสได้ทำงานและโปรโมตอัลบั้มใหม่จากที่บ้าน สำหรับฉัน มันอารมณ์ว่า “เรามาอินสไปร์และแลกเปลี่ยนไอเดียกันเถอะ” เพราะตอนนั้นฉันก็ใกล้หมดไอเดียในการสร้างสรรค์เรื่องต่างๆ แล้วเหมือนกัน
คุณอยากบอกอะไรกับแฟนเพลงที่ต้องปรับตัวและรับมือกับ COVID-19 บ้าง
อยากขอให้อดทน คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะอะไรใหม่ๆ อย่างจริงจังขนาดนั้นก็ได้ เพราะตอนนี้เราก็ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดกันอยู่แล้ว เรากำลังก้าวผ่านประสบการณ์ที่ค่อนข้างสร้างความบอบช้ำทางจิตใจ อย่าลืมว่าแค่การที่เราช่วยกันอยู่บ้านก็นับว่าเราได้ช่วยเหลือสังคมเพียงพอแล้ว ขอให้ใช้เวลาช่วงนี้ในการโทรหาคนที่คุณอาจไม่ได้โทรหามานาน คุยกับครอบครัวและเพื่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ส่งความรักให้แก่กัน ฉันเองก็ขอส่งความรักให้ทุกๆ คนและขอให้มีสุขภาพที่ดี ฉันหวังว่าเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ในเร็ววัน และไม่ต้องอยู่แต่ในบ้านไปนานกว่านี้ เห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดเพื่อให้ตัวเองและผู้อื่นปลอดภัย ปลอดโรค เราควรภูมิใจนะที่พยายามช่วยในมุมที่ตัวเองทำได้
รู้สึกอย่างไรที่หลังเตรียมวางแผนเรื่องอัลบั้มที่ 2 มานาน สุดท้ายหลายเรื่องกลับไม่เป็นไปอย่างหวัง เพราะ COVID-19 โดยเฉพาะการเดินสายโปรโมตอัลบั้ม รวมทั้งการขึ้นโชว์ตามเฟสติวัลต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องหยุดชะงักไป
ฉันก็มีหงุดหงิดและอารมณ์เสียเหมือนกัน แต่ว่านั่นเป็นราคาเพียงเล็กน้อยที่เราต้องจ่าย มองอีกแง่หนึ่งช่วงล็อกดาวน์ก็ทำให้ฉันมีโอกาสทำอะไรหลายๆ อย่างที่ปกติไม่มีโอกาสได้ทำ ส่วนใหญ่นอน อ่านหนังสือ และดูซีรีส์หรือรายการทางโทรทัศน์ สำหรับอัลบั้ม Future Nostalgia ฉันมีเป้าหมายว่าอยากทำเพลงที่จะอยู่ไปได้ยาวนาน ก็หวังว่าเมื่อพายุ COVID-19 ผ่านพ้นไป ฉันจะสามารถกลับมาสตาร์ทการโปรโมตงานเพลงใหม่ ออกไปไหนมาไหนได้ ได้ร้องเพลง ขึ้นแสดงในเฟสติวัล และมีโชว์ในคลับอีกครั้ง
THE FACE
แอมบาสเดอร์ลุคแซ่บที่หลายแบรนด์เลิฟ
ความแรงยังส่งผลให้ดัวได้ร่วมงานกับแบรนด์เสื้อผ้ายีนส์และชุดลำลอง Pepe Jeans London ในฐานะแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ในคอลเล็กชั่นสปริง/ ซัมเมอร์ 2019 ไม่กี่เดือนต่อมาก็มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์อีกครั้งในฐานะดีไซเนอร์ที่ร่วมออกแบบคอลเล็กชั่น พร้อมเปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้ายีนส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสไตล์ของปลายยุค 90 และต้นยุค 2000 ปีนี้ดัวยังลอนช์คอลเล็กชั่นร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นที่ 2 กับ Pepe Jeans London ซึ่งอินสไปร์จากแฟชั่นปลายยุค 80 และต้นยุค 90 ด้วย แต่ที่ปังยิ่งกว่านั้นเห็นจะเป็นการที่เธอได้รับเลือกให้เป็นแอมบาสเดอร์คนล่าสุดของน้ำหอม Libre ของแบรนด์ Yves Saint Laurent ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ด้วยความที่เธอคือสาวสวยผู้เป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ มีความมาดมั่น แข็งแกร่ง เซ็กซี่ มีเสน่ห์ และมีอิสระในการนำเสนอตัวตน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนความเป็นน้ำหอม Libre ได้อย่างชัดเจน
[Credit]
Warner Music Thailand, Instagram: @dualipa
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
