เอ็ด ชีแรน อัลบั้มใหม่ มุมโรแมนติกกับแฟนสาว และเหตุผลที่เฟดตัวจากโซเชียลมีเดีย

เอ็ด ชีแรน อัลบั้มใหม่ มุมโรแมนติกกับแฟนสาว และเหตุผลที่เฟดตัวจากโซเชียลมีเดีย

หน้าตาดูธรรมดา แต่งตัวก็แสนจะธรรมดา เดินไปไหนมาไหน หลายคนอาจคิดว่าเขาเป็นหนุ่มเรดเฮดธรรมดาที่ไม่น่าเตะตาเท่าไร แต่ในความธรรมดาที่แสนธรรมดานี้ เอ็ด ชีแรน นับเป็นศิลปินชายเดี่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดจากเกาะอังกฤษในปัจจุบัน! เพราะเขาเต็มเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ของการแต่งเพลงและร้องเพลง จนผลิตเพลงฮิตติดหูให้ขึ้นชาร์ตเพลงมาแล้วนับไม่ถ้วน (ไม่นับรวมเพลงที่เขาแต่งให้ศิลปินดังคนอื่น) จาก 2 อัลบั้มที่ผ่านมา ทั้ง + (2011), และ x (2014) ที่มีเพลงฮิตๆ อย่าง “The A Team”, “Lego House”, “Sing”, “Don’t”, “Thinking Out Loud”, “Bloodstream”, “Photograph” ฯลฯ ซึ่งทุกเพลงล้วนครองชาร์ตเป็นว่าเล่น แถมยังมียอดขายดีสุดๆ มาปีนี้หนุ่มวัย 26 ปีจากเมืองซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ รีเทิร์นวงการเพลงด้วยอัลบั้มใหม่อัลบั้มที่ 3 ในชื่อเครื่องหมายคณิตศาสตร์ตามสไตล์ในชื่อ ÷ เมื่อเดือนมีนาคม โดยซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้มนั้นเอ็ดปล่อยออกมาทีเดียว 2 เพลง คือ “Shape of You” และ “Castle on the Hill” อัลบั้มนี้เปิดตัวที่อันดับที่ 1 ในเกาะอังกฤษด้วยยอดขาย 672,000 ก๊อปปี้ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย ขึ้นแท่นอัลบั้มของศิลปินชายที่ขายดีที่สุด อีกทั้งยังติดอันดับท็อปชาร์ตใน 14 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย! ที่เจ๋งยิ่งกว่านั้นคือหลังปล่อยอัลบั้มออกมาไม่นาน เพลงทั้ง 16 เพลงในอัลบั้มก็สามารถพาตัวเองพุ่งทะยานไปติดอันดับท็อป 40 ของ Official Singles Chart Top 40 ของเกาะอังกฤษได้ทั้งหมด ชนิดแทบไม่เหลือพื้นที่ชาร์ตให้ศิลปินดังคนอื่น นี่จึงถือเอ็ดได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการเพลงอังกฤษเลยทีเดียว

 

Ed Sheeran Divide

 

นอกจากเอ็ดจะประสบความสำเร็จถล่มทลายในแง่ของยอดขายอัลบั้มแล้ว ที่ผ่านมาเขายังได้รางวัลใหญ่ๆ มาเพียบ ทั้งอัลบั้มแห่งปีจาก Brit Awards จากอัลบั้ม X, รางวัลนักแต่งเพลงแห่งปีจาก Ivor Novello Awards, 2 รางวัล Grammy Awards ในปี 2016 คือ เพลงแห่งปีและการแสดงเพลงป๊อปเดี่ยวยอดเยี่ยมจากเพลง “Thinking Out Loud”  ซึ่งเพลงนี้ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย นี่ยังไม่นับรวมการที่เอ็ดยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปินที่เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ระดับสเตเดียมที่ Wembley Stadium ในลอนดอนในปี 2015 ทั้งๆ ที่เป็นศิลปินเดี่ยว ไม่ใช่วง โดยบัตรคอนเสิร์ต 3 รอบของเขาขายหมดเกลี้ยงด้วย! ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ นะเอ็ดคนนี้

 

แม้จะลงรอยสักแทบทั่วตัว แต่น่าแปลกที่รอยสักนั้นกลับไม่ได้เพิ่มลุคแบดบอยให้เอ็ดเลยสักนิด ตรงกันข้ามเขากลับดูเป็นศิลปินที่มีนิสัยน่ารัก ใจดี เข้าถึงง่าย เป็นกันเอง โรแมนติก และมองโลกในแง่บวก ทุกวันนี้แม้เอ็ดจะขึ้นแท่นโกลบอลซูเปอร์สตาร์ แต่เขาก็ยังดูติดดินเสมอ ไม่หลงไปกับความสำเร็จ ชื่อเสียง เงินทองที่กองอยู่ตรงหน้า หรือมิตรภาพกับเพื่อนนักร้องชื่อดังจากทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกา หากแต่เอ็ดก็ยังคือเอ็ดที่ขอเป็นศิลปินผู้ถ่อมตัว เรียลจนคนทั่วไปรู้สึกเข้าถึงได้ ตลอดจนเดินหน้าสร้างสรรค์งานเพลงที่ตัวเองรักต่อไปให้ถูกจริตคนฟัง ทำให้พวกเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง และที่สำคัญเพลงของเขาต้องแตกต่างและแปลกใหม่อยู่เสมอ นี่ล่ะมั้งสมการความสำเร็จและความสุขในชีวิตของเอ็ด ชีแรน

 

สำหรับ ÷ อัลบั้มใหม่นี้ คุณแต่งเพลงระหว่างเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตและท่องเที่ยวเหมือนอัลบั้มอื่นๆ หรือเปล่า

ก็มีบ้าง ผมมักแต่งเพลงในอัลบั้มตอนทัวร์คอนเสิร์ตหรือเดินทาง ตอนเดินสายทัวร์นี่มันไม่ใช่ว่าผมจะมีความสุขตลอดเวลาหรอกนะ และการเป็นศิลปินที่ทัวร์คอนเสิร์ตก็ทำให้ชีวิตผมอยู่ในจุดที่ไม่เสถียร เลยไม่เหมาะกับการมีความรักหรือใช้ชีวิตเท่าไร เพลงบางเพลงในอัลบั้มนี้ก็จะมีความดาร์กอยู่บ้าง เพราะเป็นเพลงที่แต่งในช่วงที่รู้สึกแย่ๆ ตอนนั้น และผมรู้สึกว่ามันควรอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย เพราะเราคงจะทำอัลบั้มที่มีแต่เพลงบวกๆ ทั้งหมดไม่ได้หรอก เพลงก็ต้องมีแง่บวกและลบบ้าง แต่โชคดีที่ชีวิตผมตอนนี้ไม่ดาร์กเหมือนตอนนั้นแล้วล่ะ

 

คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มคืออะไร

ผมคิดคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม ÷ มาตั้งแต่ปี 2010 ผมอยากให้เพลงในอัลบั้มนี้ดูแตกต่างและหลากหลายหน่อย แนวดนตรีแรกๆ ที่ผมอิน ไม่ใช่เพลงที่พ่อแม่ผมฟัง แต่เป็นเพลงแร็ป เมทัล และพังก์ วันหนึ่งผมอาจจะฟังเพลงเฮฟวี่เมทัลจากอัลบั้ม Iowa ของวง Slipknot ถัดมาอีกวันก็ฟังเพลงเหงาๆ บาดอารมณ์จากอัลบั้ม O ของเดเมียน ไรซ์ ก็ได้ ผมอยากให้เพลงในอัลบั้มเป็นแบบนี้ล่ะ ฟังแต่ละเพลงแล้วเหมือนได้เปลี่ยนโหมด เปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อยๆ

 

เพลง “Shape of You” จากอัลบั้มนี้ของคุณเรียกได้ว่าฮิตมาก พูดถึงเพลงนี้ให้ฟังหน่อยได้ไหม 

ที่จริงเพลงนี้เป็นเพลงเดียวที่ไม่ใช่ผมเลยจริงๆ จอห์นนี่กับสตีฟ (2 คนจากหลายคนที่ช่วยกันแต่งเพลงนี้) ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนเพื่อโน้มน้าวให้ผมมั่นใจว่า “Shape of You” ควรจะอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย และพวกเขาน่าจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 1 เดือนเพื่อโน้มน้าวผมว่าเพลงนี้ควรถูกนำออกมาเป็นซิงเกิลน่ะ

 

แล้วเพลงมีจังหวะที่คุณต้องร้องแร็ปอย่าง “Eraser” ล่ะ มีที่มาที่ไปอย่างไร

ตอนเขียนเพลง “Eraser” ผมรู้สึกว่ามันช่วยบำบัดจิตใจผมได้ดีมากๆ เลย ตอนนั้นผมกำลังว่ายน้ำอยู่ แล้วจู่ๆ ผมก็ปิ๊งไอเดียว่าถ้าตั้งชื่อเพลงนี้ว่า “Eraser” มันก็น่าจะเจ๋งดี

 

ส่วนเพลง “Galway Girl” นี่ก็ชื่อเพลงเก๋ดี เธอเป็นสาวจากประเทศไหนเหรอ

กัลเวย์เป็นเมืองๆ หนึ่งในประเทศไอร์แลนด์ซึ่งญาติๆ บางส่วนของผมใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น มันเป็นเมืองที่สวยงามมากๆ แบบถนนถูกปูเรียงด้วยก้อนหินในแบบฉบับที่พบได้ทั่วไปในไอร์แลนด์ จริงๆ มีเพลงหนึ่งของสตีฟ เอิร์ล ที่ชื่อ “Galway Girl” ด้วยเหมือนกัน ตอนแรกผมเลยหันไปลองใช้ชื่ออื่นดู อย่าง “Limerick Girl”, “Dublin Girl”, “Belfast Girl” แต่ชื่อไหนก็ไม่เหมาะเท่ากับชื่อ “Galway Girl” อีกแล้ว สุดท้ายผมก็เลยตั้งชื่อเพลงด้วยชื่อ “Galway Girl” นี่ล่ะ

 

Ed Sheeran Divide

 

ส่วนเนื้อเพลง “Happier” ฟังแล้วรู้สึกได้เลยว่าคุณดูมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

ต้องบอกว่าตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่สามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ทุกคน เราทุกคน OK! ต่อกัน ผมดีใจกับทุกๆ คนถ้าพวกเธอมีความสุขกับคนที่รัก ส่วนพวกเธอก็ดีใจมากที่รู้ว่าผมมีความสุขกับการรักใครสักคน ผมรู้สึกว่าพวกเรามีมุมของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เพลง “Happier” มีออกมาได้ก็เพราะความรู้สึกแบบนี้ล่ะมั้ง รวมทั้งความรู้สึกของผมที่อยากแต่งเพลงที่ฟังดูแล้วมีมุมมองที่โตขึ้นด้วย

 

เพลง “How Would You Feel (Paean)” ก็ฟังดูเพราะมากๆ เลย อะไรอินสไปร์คุณให้แต่งเพลงนี้

ผมอยากทำเพลงที่มีซาวนด์โอลด์สคูลเหมือนเพลงของแวน มอร์ริสัน ดูบ้าง ตอนแรกผมพยายามแอ๊บว่าตัวเองเป็นจอห์น เมเยอร์ และลองเล่นท่อนโซโล่กีตาร์เพลงนี้ดู แต่ปรากฏว่าเล่นได้แย่มาก จากนั้นก็มาคิดได้ว่าผมมีอีเมล์ของจอห์นอยู่ งั้นลองส่งอีเมล์ไปหาจอห์น ถามเขาดูว่าจะช่วยเล่นท่อนโซโล่กีตาร์นี้ให้หน่อยได้ไหมดีกว่า ผมเลยส่งอีเมล์ไปหาเขา และก็เหมือนจะลืมๆ ไป ปรากฏว่าจู่ๆ วันหนึ่งจอห์นก็ส่งท่อนเล่นโซโล่กีตาร์ที่เขาเล่นได้แบบโคตรจะเพราะมาให้ผม ตอนนั้นรู้สึกแบบว่า “ว้าว…เสียงกีตาร์ของเขาทำให้เพลงนี้ฟังดูเพราะขึ้นเยอะเลย!”

 

คุณแต่งเพลงอย่างไร เพลงของคุณถึงเชื่อมโยงหรือเข้าถึงแฟนเพลงได้เสมอ 

ผมมองว่าไม่จำเป็นที่เพลงจะต้องเชื่อมโยงกับแฟนเพลงได้เสมอไป ดูอย่างเพลง “Don’t” จากอัลบั้มที่แล้วของผมสิ (อัลบั้ม X) เพลงนี้เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวกับแฟนเพลงเท่าไร เพราะพวกเขาคงไม่ต้องนั่งเครื่องบิน 2 ลำ เดินทางไปยัง 4 เมืองในวันเดียวกัน แต่เป็นเพราะประเด็นที่เพลงต้องการบอกคือความขุ่นเคืองใจและความโกรธที่ถูกแฟนนอกใจมากกว่า ซึ่งทุกคนรู้สึกเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ได้ เพราะฉะนั้นกุญแจสำคัญคือการเล่าเรื่องจริง เราก็แค่ต้องจริงใจกับการแต่งเพลงของเราเอง

 

เพลงที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับคุณเป็นแบบไหน

เป็นเพลงที่ทำให้คุณฟังแล้วมีความรู้สึกอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะมีความสุขหรือเศร้าก็ตาม อย่างเพลง “Give Me the Night” ของจอร์จ เบนสัน ที่ผมฟังเมื่อวันก่อน แล้วพบว่าเพลงนี้ทำให้ผมยิ้มได้และอยากเต้นขึ้นมา ปีที่ผ่านมาผมคิดว่าเพลงที่ดีที่สุดคือเพลงที่ปล่อยออกมาแล้วทำให้คนฟังรู้สึกว่า “ว้าว มันใช่” เพราะเราคงไม่อยากฟังเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่า “อืม ก็ OK! ล่ะ” อะไรแบบนั้นหรอกเนอะ

 

Ed Sheeran Divide

 

ดูจากเนื้อเพลงรักหลายๆ เพลงของคุณแล้ว หลายคนคิดว่าคุณต้องโรแมนติกมากแน่ๆ คนมาขอคำแนะนำเรื่องความรักจากคุณบ่อยไหม

ผมคิดว่าผมถนัดเรื่องให้คำแนะนำนะ พยายามจะให้คำแนะนำเรื่องความรักที่ดีที่สุดแก่คนอื่นๆ ก็แค่ไม่ทำตามคำแนะนำของตัวเองตลอดก็เท่านั้น (หัวเราะ)

 

คุณเคยแนะนำให้สาวคนหนึ่งทิ้งแฟนของเธอเพียงเพราะคุณหลงรักเธอบ้างไหม

ก็อาจจะนะ ตอนอายุ 14 ปีน่ะ แต่หลังจากนั้นไม่เคย เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายที่มีอะไรมากพอจะมอบให้ผู้หญิงสักคนได้ ผมคงพูดว่า “คุณควรจะเลิกกับแฟนของคุณนะ” แล้วจากนั้นก็หายไปจากชีวิตเธอเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตราว 4 ปีไม่ได้หรอก

 

คุณอ่านข่าวหรือคำวิจารณ์งานเพลงของตัวเองบ้างไหม

อ่านนะ อ่านหมดเลย ช่วงแรกๆ ก็มีหงุดหงิดบ้างถ้าเจอคนมาคอมเมนต์แย่ๆ แต่คิดไปคิดมาอย่าไปคิดมากกับคำวิจารณ์จากคนเพียงคนเดียวที่เขาไม่ชอบงานเราดีกว่า ถ้าเพลงขายได้เป็นล้านก๊อปปี้ก็ OK! แล้วล่ะเนอะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่ผมมีลิสต์ไว้เลยนะว่าคนไหนและสื่อไหนที่ไม่เคยช่วยโปรโมตเพลงให้ผมบ้าง ซึ่งหลังจากนั้นพอเขามาถามผมว่า “อยากขึ้นปกนิตยสารของเราไหม” ผมก็จะตอบไปว่า “ไม่มีทางซะล่ะ” แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ทำตัวแบบนั้นแล้วล่ะ จะเป็นก็แค่ช่วงแรกๆ ที่อยู่ในวงการเพลงนั่นล่ะ

 

คิดว่าไฮไลต์ในชีวิตการทำงานในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาของคุณคือตอนไหน

ผมคิดว่าปี 2017 น่าจะเป็นปีที่ผมอยู่ในจุดที่ดีในอาชีพนักร้องนะ รู้สึกว่าน่าจะเป็นแบบนั้น เลข 17 คือเลขนำโชคของผม และศิลปินที่ผมกลัวๆ อยู่ อย่างบียอนเซ่ เดอะวีคเอนด์ และบรูโน มาร์ส ต่างก็ปล่อยอัลบั้มออกมาหมดแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา (หัวเราะ) ส่วนเทย์เลอร์ สวิฟต์ เพื่อนของผมก็คงจะยังไม่ปล่อยอัลบั้มใหม่ออกมาแน่ๆ จนกว่าจะถึงช่วงปลายปี คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะออกอัลบั้มใหม่ที่สุด เพราะผู้คนจะซื้ออัลบั้มกันช่วงนั้น เพราะฉะนั้นปีนี้น่าจะเป็นปีของเอ็ด ชีแรน ได้ทั้งปีนะ (หัวเราะ)

 

ตอนนี้คุณกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ทั้งยอดขายอัลบั้มและตำแหน่งในชาร์ตเพลง อะไรที่ทำให้คุณยังดูชิลล์และเป็นเอ็ดที่น่ารักของแฟนๆ เสมอ

เชอร์รี่ ซีบอร์น แฟนของผมครับ เธอเป็นเพื่อนวัยเด็ก เรารู้จักกันมาตั้งแต่ตอนอายุ 11 ปี ในขณะที่ผมกำลังไล่ตามชื่อเสียง เธอก็ช่วยดึงผมไว้ให้เป็นคนติดดินและไม่เปลี่ยนไป ผมว่ามันเจ๋งดีนะ คุณจะไม่มีทางหลงไปกับชื่อเสียงได้มากแน่ๆ เพราะเธอจะคอยช่วยสแกนและเตือนสติผมเสมอ และไม่ว่าผมจะทำอะไร เธอจะคอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนผมตลอด นอกจากนี้แน่นอนว่าครอบครัวและเพื่อนๆ ก็ช่วยให้ผมติดดิน ไม่หลงไปกับชื่อเสียงด้วย

 

Ed Sheeran Divide

 

ของขวัญที่โรแมนติกน้อยที่สุดที่คุณเคยซื้อให้คนอื่นคืออะไร

ผมเคยซื้อมีดพกให้แฟนเป็นของขวัญคริสต์มาส ไม่โรแมนติกเลยเนอะ แต่เธออยากได้มันจริงๆ ผมก็เลยซื้อให้ ส่วนเธอซื้อสเก็ตบอร์ดนิ้ว ของเล่นที่เรามักเล่นกันสมัยเรียนให้ผม

 

ปีที่แล้วคุณตัดขาดตัวเองจากโซเชียลมีเดียไปเลย คุณทำแบบนี้เพื่อแสวงหาความสงบของจิตใจเหรอ  

ใช่แล้วล่ะ การปิดตัวเองจากโซเชียลมีเดียทำให้จิตใจผมนิ่งขึ้นจริงๆ ไม่นอยด์มากเท่าแต่ก่อน เพราะรู้สึกว่าไม่มีคนมาเรียกร้องหรืออยากได้นั่นนี่กับผม อีกอย่างการไม่เล่นโซเชียลมีเดียยังทำให้ผมได้เริ่มมีบทสนทนากับคนอื่นอย่างจริงจัง มากกว่าเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ติดหน้าจอมือถืออย่างเดียว 1 ปีนั้นผมใช้เวลา 4 เดือนในการเดินทางท่องเที่ยว อีก 6 เดือนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของผมในเมืองซัฟฟอล์ก การได้กลับมาเจอสมดุลชีวิตของตัวเองอีกครั้งเป็นเรื่องที่ดีที่สุดและค่อนข้างสำคัญสำหรับผม นั่นทำให้ผมเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในชีวิต

 

จริงไหมที่เขาบอกกันว่าช่วงนั้นคุณไม่ใช้แม้แต่โทรศัพท์

ผมไม่ได้ใช้โทรศัพท์เลยสักเครื่อง ซึ่งมันเยี่ยมมาก ครั้งหนึ่งผมไปปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อน แล้วพบว่า 50% ของคนที่ไปปาร์ตี้ ถ้าไม่ได้เล่นสแนปแชท พวกเขาก็จะกำลังดูสแนปแชทอยู่ ใครสักคนถามผมว่าทำไมผมถึงเลิกใช้โทรศัพท์ล่ะ ผมตอบเขาว่า “ก็ดูไปที่รอบๆ ตัวคุณสิ นี่ล่ะเหตุผลที่แท้จริงที่ผมไม่ใช้มันน่ะ”

 

การสูญเสียศิลปินคนไหนเมื่อปีที่แล้วที่ส่งผลต่อคุณมากที่สุด

การจากไปของจอร์จ ไมเคิล ทำให้ผมตกใจมาก เพราะเขายังอายุน้อยอยู่เลย เด็กกว่าพ่อผมอีก (53 ปี) ปาร์ตี้ปีใหม่ที่ผ่านมา ทุกคนเล่นเพลงของจอร์จกันทั้งคืน เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันน่าทึ่งนะที่เพลงของเขาทำให้ผู้คนมีความสุขได้ขนาดนี้ จอร์จมอบแรงบันดาลใจและพลังดีๆ ให้ผู้คนมากมาย จึงเป็นเรื่องเศร้ามากที่เราต้องสูญเสียศิลปินอย่างเขาไปด้วยวัยเพียงเท่านี้

 

Ed Sheeran Divide

 

ปกติคุณเป็นคนดื่มแล้วชอบแฮงค์ไหม

ก็แฮงค์นะ และผมพบว่าถ้าสูบบุหรี่ด้วย เราจะแฮงค์หนักมาก เพื่อนผมบางคนนั่งยันนอนยันว่าถ้าเราดื่มชา 2 ถ้วยก่อนนอน เราจะไม่มีทางแฮงค์แน่ๆ ส่วนบางคนบอกว่าดื่มน้ำแก้วใหญ่สักแก้วก่อนนอนช่วยได้ แต่สำหรับผมน้ำสไปรท์หลังตื่นนอนช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีเลย

 

เคล็ดลับลดน้ำหนักที่ดีที่สุดของคุณคืออะไร 

เคล็ดลับที่ดีที่สุดคือกินอะไรก็ได้ที่อยากกินและออกกำลังกายทุกวัน คุณไม่จำเป็นต้องโหมออกกำลังกายหนักก็ได้ ขอแค่ออกกำลังกายเพื่อให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดี ผมว่าก็ OK! แล้ว

 

อะไรเป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักของคุณ

เบียร์นี่ล่ะตัวดีเลย มันทำให้ผมน้ำหนักขึ้นเยอะมาก แถมแต่ละครั้งผมยังดริงค์มันได้เยอะมากอีก แต่เดี๋ยวนี้ผมเปลี่ยนมาดื่มเบียร์ 1 แก้ว แล้วหันไปดื่มเหล้าแทน มากกว่าจะจิบเบียร์มันตลอดทั้งคืน

 

บอกหน่อยได้ไหมว่าทุกวันนี้อะไรทำให้คุณมีความสุขหรือเศร้าบ้าง

อะไรทำให้ผมมีความสุขและเศร้าน่ะเหรอ ก็น้องแมวหลายๆ ตัวของผมไง มีช่วงหนึ่งน้องแมวผมเป็นหวัด แต่มันน่ารักมากๆ เลย น่าแปลกที่เวลาจาม มันทำให้ผมทั้งเศร้าและทั้งมีความสุข คือทั้งรู้สึกอี๊และหลงรักในเวลาเดียวกัน

 

[Photo Credit: Warner Music Thailand, BEC-Tero Entertainment]

 

✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦

ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่

♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand

 

Comments

comments

okadmin

นิตยสาร OK! เป็นนิตยสารรายแรกและเพียงรายเดียวที่อัพเดตข่าวคราวของเหล่าดาราทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเจาะลึกทุกซอกทุกมุม รวมทั้งเรื่องส่วนตัวของเหล่าศิลปินและดาราสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

RELATED ARTICLES

ศิลปินต่างค่ายนับ 100 ชีวิต ร่วมคอนเสิร์ตอาลัย ‘แหวน ฐิติมา’

ศิลปินต่างค่ายนับ 100 ชีวิต ร่วมคอนเสิร์ตอาลัย ‘แหวน ฐิติมา’

แม้ว่าร็อกเกอร์สาวแห่งยุค ‘แหวน-ฐิติมา สุตสุนทร’ จะจากพวกเราไปแล้ว [...]

READ MORE
ใจดีเวอร์! ‘อะเดล’ ชวนแฟนเพลงบริจาคเงินให้ผู้ประสบภัยไฟไหม้ตึกเกรนเฟลล์

ใจดีเวอร์! ‘อะเดล’ ชวนแฟนเพลงบริจาคเงินให้ผู้ประสบภัยไฟไหม้ตึกเกรนเฟลล์

เป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ที่จิตใจงามสุดๆ สำหรับอะเดล หลังเหตุไฟไหม้ตึกเกรนเฟลล์ในลอนดอน อังกฤษ [...]

READ MORE