
จะดีสักแค่ไหนถ้ามีโอกาสได้รับบทตัวละครสุดโปรดที่ชื่นชอบอยู่แล้วในหนังของค่ายดิสนีย์ ล่าสุดเอ็มม่า วัตสัน คือนักแสดงสาวผู้โชคดีคนนั้น เมื่อเธอได้รับบทเบลล์ นางเอกผู้มีจิตใจงดงามและฉลาดรอบรู้ใน Beauty and the Beast หรือโฉมงามกับเจ้าชายอสูรในหนังเวอร์ชั่นคนแสดง ซึ่งสร้างจากหนังแอนิเมชั่นสุดคลาสสิกและโด่งดังสุดๆ ของค่ายดิสนีย์ในปี 1991 Beauty and the Beast เล่าเรื่องราวของเบลล์ ลูกสาวคนสวยของนักประดิษฐ์ที่ขอเข้าไปอยู่ในปราสาทของเจ้าชายอสูร เพื่อแลกกับการช่วยชีวิตพ่อของเธอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นเรื่องราวความรักระหว่างหญิงสาวผู้งดงามกับเดอะบีสต์ เจ้าชายอสูรผู้อัปลักษณ์ หนังเพิ่งลงโรงฉายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ทั่วโลก รวมทั้งในเมืองไทยเราด้วย
เอ็มม่า วัย 26 ปีเผยว่าเธอรู้สึกดีใจมากที่ได้รับบทเบลล์ซึ่งชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ต้องพิสูจน์ความสามารถให้ทีมงานยอมรับว่าเธอก็เต้นและร้องเพลงได้ เมื่อนักแสดงสุดสวยชาวอังกฤษต้องโชว์เสียงร้องในเพลง “Something There” รวมทั้งเต้นประกอบเพลง “Be Our Guest” ซึ่งเป็น 2 เพลงคลาสสิกของ Beauty and the Beast เรื่องนี้เอ็มม่ายังมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงชื่อดังอีกหลายคน ทั้งพระเอกแดน สตีเวนส์ ที่รับบทเดอะบีสต์ เจ้าชายอสูร, ลูค อีแวนส์ รับบทแกสตอง ชาวบ้านผู้หยิ่งยโสและมีจิตใจคับแคบ ซึ่งตั้งใจจะแต่งงานกับเบลล์, จอช แกด รับบทเลอฟู ลูกสมุนของแกสตอง, เควิน ไคลน์ รับบทมัวริซ พ่อของเบลล์, ยวน แมคเกรเกอร์ รับบทลูมิแยร์ คนรับใช้ฝรั่งเศสจ๋าของเจ้าชายอสูรที่กลายร่างเป็นเชิงเทียนจากผลของคำสาป, เอียน แมคเคลแลน รับบทค็อกสเวิร์ธ หัวหน้าพ่อบ้านประจำปราสาทผู้แสนจู้จี้และขี้บ่น ผู้กลายร่างเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะจากผลของคำสาป ฯลฯ นี่นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างใหม่ที่น่าจับตามองของนักแสดงสาวที่โด่งดังมาจากการรับบทแม่มดน้อยคนเก่งเฮอร์ไมโอนี่ในหนังพ่อมดแฟรนไชส์แจ้งเกิด Harry Potter อย่างแท้จริง
แม้จะคร่ำหวอดอยู่ในวงการฮอลลีวูดมาตั้งแต่เด็ก แต่เอ็มม่าก็ไม่โหมรับงานถี่ยิบ ทั้งยังแบ่งเวลาในช่วงปี 2011-2014 ไปตั้งใจเรียนหนังสืออย่างจริงจัง จนคว้าปริญญาตรีด้านวรรณคดีอังกฤษจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง Brown University มาครองได้สำเร็จ หลังจากเรียนจบ เอ็มม่ามีโอกาสได้เปิดโลกที่นอกเหนือจากการแสดงของเธอกับบทบาทใหม่ในฐานะทูตสันถวไมตรีขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ โดยเธอเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเปิดตัวโครงการ HeForShe ซึ่งรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศ ดาราสาวดูมีความสุขมากกับการเป็นกระบอกเสียงให้แก่ผู้หญิง ดูเหมือนว่าบทบาทนี้จะยิ่งขับความเป็นเฟมินิสต์ของเธอให้ฉายแววเจิดจ้ายิ่งขึ้น และนี่ยังทำให้สาวผู้รักการเรียนรู้คนนี้อยากค้นคว้าและอ่านหนังสือเกี่ยวกับผู้หญิง รวมทั้งความเท่าเทียมทางเพศให้มากที่สุด เพื่อนำความรู้ดีๆ ที่เธอได้รับไปถ่ายทอดให้แก่ผู้คน นับว่าเธอไม่ได้เป็นแค่นักแสดงต้นแบบในจอเท่านั้น แต่นอกจอ เธอยังเป็นต้นแบบและแรงบันดาลที่ดีให้แก่แฟนๆ ทั้งหญิงและชายทั่วโลก
คุณดูหนังแอนิเมชั่น Beauty and the Beast เวอร์ชั่นปี 1991 มาหลายรอบมากตั้งแต่เด็กๆ และมองว่าเบลล์ นางเอกของเรื่องเป็นต้นแบบของคุณด้วยใช่ไหม
บอกตรงๆ ว่าเบลล์มีความขบถและความรั้นบางอย่างที่ฉันชอบมาก รู้สึกว่าเธอรู้ดีว่าตัวเองมีความฝันหรือความมุ่งมาดปรารถนาที่จะทำอะไรบ้างในชีวิต เธอเป็นต้นแบบที่ดีจริงๆ ค่ะ สำหรับ Beauty and the Beast เวอร์ชั่นปี 2017 นี้ เราพยายามทำให้เบลล์ดูแอ็กทีฟและมีส่วนกำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองมากขึ้น ฉันคิดว่าตัวละครเบลล์นำเสนอให้เห็นผู้หญิงที่มุ่งมั่นจะเป็นคนที่เหนือความคาดหมายของผู้คน เธอไล่ตามความฝันและสัญชาตญาณของตัวเอง ฉันก็หวังว่าตัวละครตัวนี้จะโดนใจคนดูหลายๆ คนนะ
นอกจากเบลล์แล้ว ยังมีตัวละครตัวไหนของดิสนีย์ที่คุณชื่นชอบอีกหรือเปล่า
ฉันโตมากับหนังการ์ตูนของดิสนีย์ จริงๆ ฉันชอบตัวการ์ตูนทุกตัวเลย ตัวโปรดของฉันคือโพคาฮอนทัสซึ่งเป็นเจ้าหญิงชนพื้นเมืองอเมริกันจากหนัง Pocahontas แล้วตอนเด็กๆ ฉันมักจะเลียนแบบเจ้าเมียร์แคตทีโมนกับหมูป่าพุมบ้าจากหนัง The Lion King ด้วย
คาแรกเตอร์เบลล์ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ได้ยินว่าคุณอยากให้เสื้อผ้าและรองเท้าที่เธอใส่ในเรื่องเหมาะกับกิจกรรมในชีวิตเธอด้วยใช่ไหม
เบลล์เป็นคนคล่องมาก ทำอะไรได้หลายอย่าง เธอมักจะใส่เสื้อผ้าที่มีกระเป๋าเหมือนผ้าคาดเอวเสมอ จะได้ใส่เครื่องมือต่างๆ หรือพกหนังสือติดตัวได้ เพราะเธอเป็นนักประดิษฐ์ ซ่อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ได้ และชอบอ่านหนังสือด้วย ในหนังเธอทั้งขี่ม้า ทำสวน และซ่อมเครื่องมือเครื่องใช้ ก็เลยจำเป็นต้องใส่รองเท้าบู๊ตที่ทนทานหน่อย จะได้เดินเหินและวิ่งสะดวก ลุคของเธอดูค่อนข้างติดดินและทะมัดทะแมงค่ะ
ข่าวว่าคุณเคยได้รับการทาบทามให้รับบทซินเดอเรลลาในหนัง Cinderella (2015) เวอร์ชั่นคนแสดงของค่ายดิสนีย์ด้วย แต่ก็ปฏิเสธบทไปใช่ไหม ทำไมคุณยอมทิ้งโอกาสดีๆ ทางการแสดงนี้ไปล่ะ
ใช่ค่ะ แต่ตอนที่ฉันปฏิเสธรับบทซินเดอเรลลา ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำหนัง Beauty and the Beast เวอร์ชั่นคนแสดงกันหรอกนะคะ และพอมีทีมงานชวนให้ฉันมารับบทเบลล์ ฉันรู้สึกว่าตัวละครเบลล์สะท้อนความเป็นฉันมากกว่าตัวละครซินเดอเรลลาเยอะเลย เธอมีความรั้นนิดๆ และไม่ว่าจะเผชิญกับเรื่องราวชีวิตแบบไหน แต่เธอก็ยังเป็นคนซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น พูดและทำสิ่งที่เคยพูดไว้ รวมทั้งมีมุมมองเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่เป๋ไปกับความคิดเห็นของผู้อื่น เบลล์เป็นคนสนใจใฝ่รู้ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น จิตใจเปิดกว้าง เธอเป็นผู้หญิงที่ฉันมองว่าเป็นต้นแบบเลยล่ะค่ะ
Beauty and the Beast ยังทำให้คุณต้องร้องเพลงในหนังด้วยใช่ไหม รู้สึกอย่างไรบ้าง
เรื่องนี้ฉันต้องร้องเพลง “Something There” ด้วย คาดไม่ถึงกันใช่ไหม ฉันไม่เคยต้องร้องเพลงในหนังมาก่อน และคิดว่าแฟนๆ คงสนใจอยากเห็นฉันทำอะไรที่แตกต่างและไม่เคยทำมาก่อนในหนัง การร้องเพลงเป็นอะไรที่ท้าทายมาก แต่มันก็หลอนมากๆ เลยนะ (หัวเราะ)
เล่าถึงแดน สตีเวนส์ ผู้รับบทเดอะบีสต์ พระเอกของคุณในหนังเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยสิ
ฉันรู้สึกดีมากๆ เลยที่แดนมาเข้าฉากกับฉันด้วยตลอด ปกติเวลาถ่ายหนังที่ต้องใช้ซีจีไอ ถ้าฉันไม่ต้องพูดกับลูกเทนนิส ฉันก็คงจะต้องพูดกับหลอดไฟแอลอีดี เพราะฉะนั้นการที่มีแดนตัวจริงเสียงจริงมาเข้าฉากและพูดโต้ตอบด้วยทุกฉาก นั่นเลยช่วยให้ฉันเล่นได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น เยี่ยมไปเลยล่ะค่ะ
พูดถึงเรื่องผู้หญิงกันบ้าง คุณคิดอย่างไรที่สาวๆ ที่ใช้ชีวิตในวัฒนธรรมสมัยใหม่มักพยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ บางคนไม่ยอมรับตัวเองด้วยซ้ำ
ฉันเองก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้เมื่อตอนวัยรุ่นนะ ช่วงแรกๆ ที่รับบทเฮอร์ไมโอนี่ในหนัง Harry Potter ตอนให้สัมภาษณ์ ฉันมักพยายามบอกคนอื่นว่าเอาเข้าจริงฉันไม่เหมือนเฮอร์ไมโอนี่หรอก ฉันน่ะอินกับแฟชั่นและก็เจ๋งกว่าเฮอร์ไมโอนี่ตั้งเยอะ แต่พอโตขึ้น ฉันก็มาถึงจุดที่รู้จักยอมรับตัวเองได้ค่ะ ว่าที่จริงแล้วฉันกับเฮอร์ไมโอนี่ก็มีอะไรที่เหมือนกันหลายอย่าง คือเรามีจุดที่แตกต่างกัน แต่เราก็คล้ายกันในหลายๆ เรื่อง พอคิดได้แบบนั้น หลังจากนั้นฉันก็หยุดมีความขัดแย้งในตัวเองไปเลย
คุณได้รับเกียรติให้เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 2014 เน้นรณรงค์เรื่องความเสมอภาคของผู้ชายและผู้หญิง รู้สึกอย่างไรกับบทบาทใหม่ที่ไม่ใช่นักแสดงนี้
ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันทำให้บทบาทของฉันในฐานะนักแสดงซับซ้อนขึ้น พอกลับมารับงานแสดงอีกครั้งหลังจากไปเป็นนักกิจกรรมมา มันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดีค่ะ เพราะฉันต้องหาจุดกึ่งกลางระหว่าง 2 บทบาทที่แตกต่างกันมากๆ นี้ให้ได้ ฉันอยากให้คำว่าเฟมินิสต์ไม่ได้จำกัดในกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่อยากให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น มันควรจะเป็นเรื่องที่ทุกคนได้เรียนรู้ ฉันอยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่ช่วยพูดถึงเรื่องความเสมอภาคทางสังคมและการเมืองของผู้หญิงกับคนที่ปกติไม่ค่อยได้พูดคุยถึงประเด็นนี้เท่าไรน่ะค่ะ
สุดท้ายนี้เฟมินิสต์เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณอย่างไร
การมีส่วนร่วมกับมุมมองเรื่องเฟมินิสต์ทำให้ฉันรู้สึกปลดปล่อยและสร้างพลังให้ตัวเอง การปลดปล่อยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือการที่ฉันวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองน้อยลงเยอะมาก หลังๆ มานี้ พอมีความคิดแย่ๆ เกี่ยวกับตัวเองเข้ามาในหัวเมื่อไร ฉันจะสามารถต่อสู้กับความรู้สึกนั้นได้อย่างรวดเร็วและด้วยวิธีที่สมเหตุสมผล ชีวิตเลยมีพลังและมีเวลาทำอย่างอื่นมากกว่าเดิม ตอนนี้ฉันก็อายุ 26 ปีแล้วและรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นมากจากเมื่อช่วงอายุ 20 ต้นๆ ถ้าฉันอยู่ในจุดที่สามารถมอบมุมมองเรื่องเฟมินิสต์ให้แก่ผู้หญิงด้วยกันได้ ฉันก็อยากบอกว่าไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ ฉันก็ขอให้คุณมีพลังที่จะรับมือและก้าวผ่านปัญหานั้นมาให้ได้ ฉันมักเห็นผู้หญิงหลายคนไม่รักและไม่ภาคภูมิใจในตัวเอง ทั้งๆ ที่พวกเธอต่างก็รู้ดี เคยได้ยิน และเคยอ่านเจอในหน้านิตยสารหรือหนังสือมาตลอดว่าการรักตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ แต่เอาเข้าจริงการจะรักตัวเองให้ได้กลับเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเธอน่ะค่ะ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments