ปัจจุบันนี้การเสริมความงามด้วยศัลยกรรมถือเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปแล้ว ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การศัลยกรรมความงามเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากพูดถึงการศัลยกรรมแล้วหลายคนอาจจะรู้สึกว่า แหม…ถ้าอยากสวยแต่ต้องทำศัลยกรรมลงมีดหมอเสมอไปรึเปล่า? ทำให้นวัตกรรมด้านความงามถูกพัฒนามากยิ่งขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มคนที่อยากสวยแต่ไม่อยากลงมีดหรือผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นเราจึงได้ยินเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หรือการฉีดโบท็อกซ์ ที่เป็นเพียงการเติมสารเข้าสู่บริเวณที่ต้องการให้เต่งตึงเท่านั้น
ฟิลเลอร์คืออะไร?
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid (HA) กรด HA นั้นเป็นสารที่นิยมนำมาเติมลงบนผิวหนังหรือชั้นใต้ผิวหนัง เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น ซึ่งฟิลเลอร์เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัยหรือสำหรับผู้ที่กต้องการให้ผิวในบริเวณต่างๆ เต่งตึงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังนี้
- ฟิลเลอร์ชนิดคงทนถาวร (Permanent Fillers) เป็นสารในกลุ่มของซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์ปลอมราคาถูกที่เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วสจะทำให้ฟิลเลอร์แข็งตัวเป็นก้อน เกาะตัวกับชั้นใต้ผิวหนังจนกลายเป็นพังผืด จึงต้องใช้วิธีขูดออกหรือผัดตัดออกเท่านั้น เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นทำให้วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก
- ฟิลเลอร์ชนิดสลายได้ (Non-permanent Fillers) เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่สลายไปตามธรรมชาติได้ ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่าผิวหน้าของคุณเริ่มกลับมาหย่อนคล้อยหรือมีริ้วสรอยอีกครั้งคุณก็สามารถกลับไปเติมฟิลเลอร์เพิ่มเติมได้นั่นเอง
ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้คอลลาเจนและเอ็นยึดต่างๆ ใต้ชั้นผิวของเราเสื่อมและสลายไปตามกาลเวลา ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการที่เรานั้นสร้างสิ่งทดแทนเข้าไปในชั้นผิวแทนสิ่งที่สลายหายไปนั่นเอง
ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร?
อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้นแล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการทำศัลยกรรมแบบที่จะต้องมีการผ่าตัด และแน่นอนว่าการเติมสารเข้าสู่ชั้นผิวของคุณนั้นสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องวางยาสลบ ดังนั้นวิธีการเติมสารเข้าสู่ผิวจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในทุกเพศทุกวัย
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยแห่งวัย รอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นบนบริเวณใบหน้า ร่องแก้ม ร่องจมูก ซึ่งการฉีดฟิลเลิอร์นี้เป็นเพียงการเติมสารเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหน้าคล้ายการเติมคอลลาเจนเข้าสู่ผิว เพื่อทำให้บริเวณที่มีรอยเหี่ยวย่นนั้นกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง นอกจากจะเป็นการลดรอยต่างๆ ได้แล้ว ยังเป็นการปรับรูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ และที่สำคัญที่สุดก็คือฟิลเลอร์ยังช่วยกักเก็บยความชุ่มชื้นไว้ในผิวให้เราอีกด้วยค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่?
คำถามยอดฮิตอีกหนึ่งคำถามที่พบมากบนอินเตอร์เน็ตก็คือการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นอันตรายหรือไม่? การฉีดฟิลเลอร์เป็นเพียงการเติมสารชนิด Hyaluronic Acid (HA) เข้าสู่ผิวเท่านั้น และจะคงอยู่ที่บริเวณใต้ผิวประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน นั่นหมายความว่าสาร HA ชนิดนี้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หากคุณเลือกสถานเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ร่วมกับมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบัน ดังนั้นก็ไม่ได้น่าห่วงอะไร
อ่านต่อ: Botox คือ
แต่แน่นอนว่าการจำกัดของปัจจัยด้านการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้คนอาจตัดสินใจเลือกสถานเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน และนำไปสู่การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานของสถาบันตามมานั่นเอง ซึ่งอาจส่งผลให้นำไปสู่ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนตามมาได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้มีสาเหตุได้หลายสาเหตุ แต่พบว่าหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนก็คือ ศัลยแพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ
การเลือกบริเวณสำหรับฉีดฟิลเลอร์และปริมาณฟิลเลอร์นั้นต้องเลือกให้สมดุล หากเลือกฉีดสารเข้าสู่ผิวมากเกินไปก็อาจนำไปสู่การนูนบวมเป็นก้อนได้นั่นเอง ดังนั้นความปลอดภัยของการทำศัลยกรรมทั้งแบบผ่าตัดหรือไม่ก็ตามนั้นจึงขึ้นอยู่กับสถาบันเสริมความงามที่คุณเลือกใช้บริการและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์มากกว่านั่นเองค่ะ
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์นั้นมีหลายจุด ได้แก่ หน้าผาก ขมับ แก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง ซึ่งทั้ง 7 จุดนี้เป็นบริเวณที่เมื่อทำการเติมฟิลเลอร์แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด ดังนี้
- หน้าผาก – บริเวณที่นิยมปรับโหงวเฮ้งมากที่สุด ส่งผลให้ใบหน้ามีมิติมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่ดาราหลายๆ คนที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องโหงวเฮ้ง แต่เมื่อฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าผากแล้วก็ทำให้ดูอวบอิ่มและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
- ขมับ – การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับนั้นเมื่อฉีดแล้วทำให้ใบหน้าดูสวยหวานและอิ่มเอมมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือบริเวณขมับถือเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของใบหน้าที่จะทำให้คุณมีโหงวเฮ้งที่ดีขึ้น ดูอ่อนเยาว์ขึ้นเป็นต้น
- แก้ม – นอกจากจะช่วยให้ใบหน้าอิ่มเอมแล้ว ยังทำให้ดูมีชีวิตชีวาและดูเด็กลงอีกด้วย
- ใต้ตา – ปัญหาใหญ่ของใครหลายๆ คน เพราะเมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้นเนื้อที่บริเวณใต้ตาจะน้อยลง ส่งผลให้เกิดเป็นร่องลึก ผิวหนังหย่อยคล้อย รวมถึงคนที่เป็นภูมิแพ้จนนำไปสู่ปัญหาใต้ตาคล้ำ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาจะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำ คล้ำ และมีรอยลึกได้ค่ะ
- ร่องแก้ม – ปัญหาการมีร่องแก้มลึกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ กระดูกในบริเวณใต้ตาและร่องแก้มยุบลง เกิดจากการยิ้มบ่อยจนทำให้เกิดเป็นรอย และการตากแดดเป็นเวลานานส่งผลให้ชั้นผิวบางลง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเราจะฉีดในบริเวณที่แตกต่างกันออกไปและเลือกใช้ปริมาณที่เหมาะสมตามสาเหตุสของการเกิดร่องแก้ม
- ปาก – ปากดูอวบอิ่มตามเทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ หรือการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ปากดูเป็นกระจับ ส่วนใหญ่มักจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1 CC ก็สามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
- คาง – อีกหนึ่งบริเวณที่ช่วยในการปรับโหงวเฮ้งและนิยมทำให้ดูเรียวเป็นรูปตัววี (V) หรือทางออกของสาวๆ ที่มีกรามใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัดกราม การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณคางก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับนึง เพราะจะช่วยปรับโครงสร้างหน้าให้เป็นรูปตัววีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
บริเวณทั้ง 7 บริเวณที่กล่าวไปในข้างต้นนี้เป็นบริเวณที่นอกจากจะได้รับความนิยมในการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังเป็นบริเวณที่เห็นผลชัดเจนอีกด้วย ซึ่งนอกจากทั้ง 7 จุดนี้ ยังมีอีกหนึ่งจุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ก็คือจมูกนั่นเองค่ะ สำหรับหนุ่มสาวหลายคนที่ไม่ได้ต้องการที่จะผ่าตัดเพื่อใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปก็มักจะเลือกวิธีฉีดฟิลเลอร์เติมเข้าไปยังบริเวณสันหรือปลายจมูกเพียงเล็กน้อย เพื่อทำให้ดูอวบอิ่มและดูคมสันแบบเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ
ทุกท่านจะเห็นได้ว่าเพียงแค่ปรับบางส่วนให้ดูอวบอิ่มขึ้น ก็ส่งผลให้ทั้งใบหน้าของเราดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องลงมีด หากใครก็ตามที่กำลังมองหาว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใดดี หรือจะฉีดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนำให้คุณลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลยค่ะ
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนแก้อย่างไรได้บ้าง?
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุตามที่เราได้กล่าวไว้บ้างแล้วในข้างต้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ได้แก่ ฟิลเลอร์ที่ได้รับนั้นเป็นของปลอม (ไม่ใช่สาร Hyaluronic Acid : HA) แพทย์ผู้ทำการฉีดนั้นไม่เชี่ยวชาญพอส่งผลให้ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไปหรือฉีดในตำแหน่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาด ดังนั้นจึงทำให้หลายๆ คนประสบกับปัญหาฟิลเลอร์กองเป็นก้อนที่บริเวณที่ได้รับสารเติมเต็มนี้เข้ามานั่นเองค่ะ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนและต้องการแก้ไข โดยส่วนใหญ่วิธีแก้ปัญหานี้สามารถทำได้ 2 วิธีหลัก ได้แก่
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ เรียกได้ว่าเป็นวิธียอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งวิธีนี้จะนิยมใช้กรดไฮยาลูรอน (HA: Hyaluronic Acid) โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการคำนวณปริมาณยาที่ต้องใช้ในการฉีด ซึ่งการใช้ตัวยาดังกล่าวนี้ควรเว้นระยะห่างในการฉีดประมาณ 1-3 วัน
- การขูดฟิลเลอร์ ในการขูดฟิลเลอร์ออกนั้นนิยมสำหรับกลุ่มผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์แบบไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น Polyamine, Hydrophilic polyacrylamide gel เป็นต้น โดยสามารถขูดออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น แต่ที่สำคัญ! ความเชี่ยวชาญของหมอนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าไม่เชี่ยวชาญพออาจส่งผลต่อระบบประสาทบริเวณที่ต้องการขูดออกเลยก็ว่าได้ค่ะ
นอกจาก 2 วิธีข้างต้นนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่คุณหมอหลายๆ ท่านมักจะไม่แนะนำหรือเลือกที่จะทำในกรณีที่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นั่นก็คือ การผ่าตัดเพื่อขูดเอาฟิลเลอร์ออกนั่นเองค่ะ หากเพื่อนๆ คนไหนที่มีปัญหานี้สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าวิธีใดเหมาะกับเพื่อนๆ มากที่สุด
บทสรุปส่งท้าย
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ จึงส่งผลให้มรการเปิดกิจการสถาบันเสริมความงามเพิ่มมากยิ่งขึ้น การเลือกสถาบันเสริมความงามจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เพื่อนๆ ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก และแน่นอนว่าสิ่งที่ควรพิจารณาถัดไปคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลเราในแต่ละครั้ง หากสองสิ่งนี้เราได้พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่คุณหมอจะใช้ก็มักจะได้มาตรฐานตามมาด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ก็ควรที่จะตรวจสอบ/สอบถามก่อนที่จะชำระเงิน นอกจากนี้ปัจจัยในส่วนของการบริการละสถานพักฟื้น (กรณีเลือกผ่าตัด) ก็ควรจะเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ คำนึงถึงด้วยเช่นกันค่ะ
อย่างไรก็ตามการหาข้อมูลจากหลายแหล่งประกอบกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่เราจะตัดสินใจเติมแต่งสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นอย่าลืมที่จะโทรสอบถามข้อมูลจากหลายๆ สถาบันร่วมกันนะคะ เอาล่ะ! เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่กำลังหาความรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หรือเติมฟิลเลอร์อยู่ ซึ่งเราจะคอยรวบรวมข้อมูลความรู้และเนื้อหาดี ๆ มาฝากเรื่อย ๆ ค่ะ