โด่งดังเป็นที่รู้จักในฐานะนายแบบของนิตยสารญี่ปุ่นชื่อดัง Men’s Non-No ไม่พอ เพราะตอนนี้หนุ่มหล่อหน้าใส Kentaro Sakaguchi ( เคนทาโร่ ซาคากุจิ ) ยังเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นพระเอกดาวรุ่งสุดฮอตอีกด้วย หลังเพิ่งประสบความสำเร็จจากการรับบทเป็นพระเอกหนังครั้งแรกในเรื่อง The 100th Love With You เมื่อปีก่อน มาปีนี้เคนทาโร่ก็ตอกย้ำความแรงอีกครั้ง ด้วยหนังรักโรแมนติกแฟนตาซีเรื่อง Tonight, At Romance Theater ที่กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเขารับบทเป็น ‘เคนจิ’ หนุ่มนักฉายหนังที่มีความฝันจะเป็นผู้กำกับ เขาตกหลุมรักนางเอกในหนังขาวดำเรื่องโปรด แล้วจู่ๆ ในคืนที่โรงหนังถูกฟ้าผ่า ความบังเอิญก็บังเกิด เมื่อเจ้าหญิงของเขาได้หลุดออกจากโลกของหนังมาสู่โลกของความเป็นจริง หากแต่คความมหัศจรรย์นี้มีเงื่อนไขว่าหากเธอรักใครก็ต้องหายไป แล้วกลับไปในโลกของหนังขาวดำตลอดกาล” แม้คิวจะฮอตแค่ไหน แต่บทน่าสนใจแบบนี้ แถมนางเอกยังเป็นฮารุกะ อายาเสะ ด้วย มีหรือเคนทาโร่จะปฏิเสธ! งานนี้เจ้าตัวจะอินแค่ไหนไปฟังกัน
นี่เป็นหนังฟอร์มยักษ์เรื่องที่ 2 ของคุณที่เข้าฉายในเมืองไทย หลังผลตอบรับของหนังเรื่องแรก The 100th Love With You ออกมาดีมาก แล้วผลตอบรับของหนังเรื่อง Tonight, At Romance Theater ที่ญี่ปุ่นล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
ถึงผมจะมีเวลาเตรียมตัวสำหรับหนังเรื่อง Tonight, At Romance Theater ค่อนข้างน้อย แต่การถ่ายทำแต่ละฉากเป็นไปอย่างละเมียดมาก ทำให้ต้องเวลาถ่ายทำถึงเกือบปีเลยครับ แล้วตอนหนังออกฉายที่ญี่ปุ่นก็ทำรายได้ขึ้นอันดับ 1 ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมายของผมทีเดียว
ได้ยินว่าก่อนหน้านี้คิวงานของคุณแน่นมาก แต่ก็ยังรับแสดงหนังเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลว่าจะได้ร่วมงานกับฮารุกะ อายาเสะ ใช่ไหม
(หัวเราะ) ใช่ครับ! คุณอายาเสะถือเป็นนางเอกอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเลย ทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องวินัยการทำงานด้วย ดังนั้นการได้ร่วมงานกับเธอถือว่าเป็นโอกาสดี ที่สำคัญเธอเป็นคนสวยมากๆ จนผมคิดว่าคงไม่มีใครเหมาะกับบทของเจ้าหญิงมิยูกิที่หลุดออกจากหนังขาวดำเท่ากับเธออีกแล้ว
หนังเรื่องนี้พูดถึงคอนเซ็ปต์ความรักที่ดูเป็นเทพนิยายมากๆ คือ “หากรักใครแล้วสัมผัสตัวเขาไม่ได้ คุณจะยังรักเขาไหม” แล้วตัวคุณล่ะเชื่อในเรื่องรักแท้ไหม
ผมเชื่อว่าความรักแท้คือการรักแบบไม่มีเงื่อนไข ให้เกียรติกัน พร้อมจะใช้เวลาทั้งสุขและทุกข์ร่วมกัน ถ้ายังไม่เจอคนที่ใช่ก็ไม่ควรรีบร้อนครับ
เล่าถึงฉากไฮไลท์ที่ต้องจูบกับฮารุกะ อายาเสะ ให้หน่อยได้ไหม
จริงๆ ฉากนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังญี่ปุ่นเรื่องโปรดของผม Till We Meet Again (1950) เลย คือเป็นฉากที่ทั้งบริสุทธิ์และงดงาม ซึ่งถูกใช้เป็นปมของหนัง ในแง่ที่คู่รักอยากสัมผัสกันและกัน แต่ทำไม่ได้ ผมเขินจนต้องเทคไปตั้ง 3 รอบ แต่เป็นฉากที่อายาเสะอินมาก ถึงขนาดน้ำตาคลอหลังถ่ายจบทีเดียว พอได้คุยกับเธอจึงรู้ว่าการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทำให้เธอคิดถึงโรงเก่าๆ ที่กำลังจะปิดตังลง
คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง
สิ่งที่คนดูจะได้จากหนังเรื่องนี้ มันคือความเป็นญี่ปุ่น เรื่องราวของคนรักหนัง ความหมายของคำว่ารัก หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนจดหมายรักของคนทำหนังที่อยากจะส่งผ่านให้คนดู ผมขอฝากผลงานหนังเรื่องนี้ให้ติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่ๅ
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
