ฮือฮาสุด! ต้องยกให้กับการปรากฏตัวของหนุ่มไทยปริศนา หน้าตาดี แถมมีความสามารถเกินตัว ในรายการ I Can See Your Voice ของเกาหลีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จนหลายคนสงสัยว่าเขาเป็นใคร? ซึ่งหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เขาคือ กองทัพ พีค ลูกชายวัย 18 ปี ของนักแสดงรุ่นเก๋าอย่าง ปราบ ยุทธพิชัย นั่นเอง หลังบินข้ามทวีปไปสั่งสมทักษะด้านการร้องเพลงและเต้นในโรงเรียนชื่อดังของอังกฤษ Sylvia Young Theatre School พีคก็กลับมาสานฝันการเป็นนักร้องที่เมืองไทย เปิดตัวด้วยซิงเกิลเพลง “Say No” ในฐานะศิลปินเบอร์ของค่ายแชนเดอเลียร์ มิวสิค ภายใต้การดูแลของช่อง 3
นอกจากจะเคยสร้างความฮือฮา ด้วยการไปเป็นนายแบบรับเชิญให้กับแบรนด์ MAN.G COLLECTION ในโซลแฟชั่นวีคเมื่อปลายปีที่ผ่านมาแล้ว ล่าสุดพีคยังได้รับเชิญให้ไปร่วมเป็นนักร้องปริศนาในรายการ I Can See You Voice ของเกาหลี ทั้งทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์กับลีลาท่าเต้นและเสียงร้องในเพลง “What Do You Mean?” ของนักร้องคนโปรด จัสติน บีเบอร์ พีคจัดขนาดนี้ OK! กขอพาทุกคนไปเปิดวาร์ป เพื่อทำความรู้จักกับหนุ่มน้อยอนาคตไกลคนนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับประวัติที่ไม่ธรรมดาของเขา!
ลุคนายแบบในโซลแฟชั่นวีค
โชว์ลีลาในรายการ I Can See Your Voice
[1] ใครจะรู้ว่าพีคเคยเป็นเด็กอ้วนตุ๊ต๊ะน่าเอ็นดูมาก่อน
“สมัยก่อนพีคเป็นเด็กอ้วน อารมณ์ดี และชอบเล่นกีฬาครับ ความฝันแรกของพีคตั้งแต่เด็กคืออยากเป็นนักร้อง แล้วการว่ายน้ำช่วยฝึกกะบังลมและปอดให้แข็งแรง พีคเริ่มว่ายน้ำตั้งแต่อนุบาล ฝึกจนได้เป็นนักกีฬา แต่ถึง ป.3 ก็ต้องหยุด เพราะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย พอหยุดก็อ้วน จริงๆ กินเท่าเดิมนะ แค่ไม่ได้เบิร์น เพราะไม่ได้เล่นกีฬาหนักเหมือนตอนแรก แล้วก็เป็นเด็กชอบใส่สูทไปโรงเรียน ไม่ว่าอากาศจะร้อนขนาดไหนก็ยังใส่ตลอด”
[2] จัสติน บีเบอร์ คือศิลปินที่จุดประกายความฝันให้กับพีค
“ตั้งแต่จำความได้พีคก็หลงรักเสียงเพลงแล้วครับ คุณแม่เล่าว่าพีคชอบฟังเพลงของโมสาร์ท ลูกทุ่ง และอีกหลายแนว ตั้งแต่ยังไม่เกิดแล้ว พออายุ 3 ขวบครึ่ง ก็ขอคุณแม่ไปเรียนเปียโน จนมาเริ่มชอบร้องเพลง ก็ขอไปเรียนร้องเพลงด้วย แต่จะมีช่วงวัยหนึ่งที่เด็กทุกคนจะชอบตามเพื่อน ก็อยากเป็นหมอหรือนักวิทยาศาสตร์ กระทั่งได้ไปดูหนังเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของ ‘จัสติน บีเบอร์’ ที่จุดประกายฝันให้อยากเป็นนักร้องอีกครั้ง แล้วตั้งแต่วันนั้นพีคก็ฝึกร้องเพลงมาเรื่อยๆ ทุกวัน พีครู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเขาให้พีคเลือกเส้นทางที่อยากจะเดินด้วยตัวเอง อย่างพีคชอบเพลงก็สนับสนุนจนสุดข้างฝา”
[3] เด็กไทยหนึ่งเดียวในโรงเรียนดังของอังกฤษ
“ตอนนั้นบังเอิญมากที่คุณแม่เดินผ่าน Sylvia Young Theatre School แล้วได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องเพลงพอดี จึงไปถามจนรู้ว่าเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงและเต้น แต่ตอนนั้นพีคเพิ่ง ป.2 ก็ยังเข้าเรียนไม่ได้ แต่ไปเรียนซัมเมอร์ที่นั่นตั้งแต่ ป.4 พอจบ ป.6 ก็ขอคุณพ่อคุณแม่ไปเรียนต่อ ตอนแรกคุณพ่อคัดค้าน เพราะห่วงว่ายังเด็กจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่ก็ให้เหตุผลไปว่าถ้าพีคไม่เข้าเรียนตอนนั้น ก็ไม่มีโอกาสเรียนโรงเรียนนี้แล้ว เพราะเขาไม่รับเด็กที่อายุเกิน 12 ปี คือพีคอายุ 11 ย่าง 12 ปีแล้ว โรงเรียนนี้เปิดรับเด็กแค่ปีละ 12 คน ซึ่งใครสมัครก็ได้ แต่จะมีออดิชั่นก่อน บางคนผ่านออดิชั่นแล้วโดนคัดออกทีหลังก็มี หลังจากเข้าไปแล้วก็ให้ลองเรียน 4 เดือนว่าจะปรับตัวได้ไหม เพราะเขาไม่เคยรับเด็กต่างชาติมาก่อนเลย”
[4] การมีเครดิตว่า ‘ลูกดารา’ ส่งผลต่อชีวิตของพีค
“มันคือความภาคภูมิใจมากครับ เพราะคุณพ่อใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างเนื้อสร้างตัวกว่า 20 ปี ตอนเด็กไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องเท่าไรหรอก แต่พอโตขึ้น เพื่อนๆ ก็เริ่มคุ้นชินแล้ว”
[5] ทำไมต้อง ‘กองทัพ พีค’
“กองทัพคือชื่อจริง ส่วนพีคคือชื่อเล่น ดังนั้นใครจะเรียก ‘พีค กองทัพ’ หรือ ‘กองทัพ พีค’ ก็ได้ครับ สาเหตุที่ไม่ใช้นามสกุลของคุณพ่อ เพราะคุณพ่ออยากให้คนชื่นชอบที่ตัวตนและผลงานของพีค แน่นอนว่าต้องมีชื่อของคุณพ่ออยู่แล้ว แต่เขาก็อยากให้พีคภูมิใจที่ได้สร้างผลงานด้วยฝีมือของตัวเองมากกว่า สำหรับชื่อ ‘กองทัพ พีค’ นี้ต้องให้เครดิตคุณแม่ที่เป็นคนคิด และพีคก็ชอบ เพราะเป็นชื่อที่เราคุ้นชินมาตั้งแต่เกิด”
หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดูกันล่ะว่าหนุ่มมากความสามารถในนาม กองทัพ พีค จะสร้างปรากฏการณ์ชวนเซอร์ไพรส์อะไรให้กับเราอีกบ้าง…
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
