
ในขณะที่ความนิยมของทีวีกำลังลดลงจากกระแสความแรงของโซเชี่ยลมีเดีย จู่ๆ ละครเย็นรสเข้มเรื่อง ตราบาปสีชมพู ที่ดูเป็นม้านอกสายตาก็กลับมาแรงจนมีเรตติ้งแซงหน้าละครหลังข่าวบางเรื่องและยังติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ในช่วงเวลาที่ออกอากาศ พร้อมกันนี้ยังได้ แจ้งเกิด ภณ ณวัสน์ ภูพันธัชสีห์ ในบทหนุ่มอารมณ์ร้ายแต่กรุ่นกลิ่นอายความโรแมนติกลายเป็นที่รู้จักเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งถึงแม้จะเป็นผลงานชิ้นที่ 3 ต่อจากสายลับจับแอ๊บ และเสน่ห์รักนางซิน แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นแรกที่ภณได้รับบทพระเอกเต็มตัว ซึ่งต่อจากนี้เขาก็กำลังจะมีผลงานเรื่อง เพลิงพรางเทียน ที่แสดงคู่กับ ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ พร้อมกับมีคิวฟิตติ้งละครเรื่องใหม่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกด้วย เรียกได้ว่าภณเป็นพระเอกดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตามองมากในเวลานี้เลยทีเดียว
ฮอตมาตั้งแต่ยังใส่เหล็กดัดฟัน
ถึงแม้จะมีคนทักว่าหน้าตาดีตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังมีคุณแม่ (ชณุตพร วิศิษฏโสภณ) เคยรับบทนางเอกในภาพยนตร์เรื่องเพื่อนแพง (พ.ศ. 2526) และเรื่องพลอยทะเล แต่ภณเองก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง “ผมเห็นโปสเตอร์ของแม่ติดเต็มบ้าน เราก็รู้ว่าแม่เคยเป็นนักแสดง แต่ก็ไม่ได้คิดจะอยากเป็นแบบแม่” พระเอกหน้าใสกล่าว แต่เพราะคนจะเป็นดาวก็ต้องเป็นดาวทำให้วันหนึ่งโชคชะตาก็พาให้เขาได้เข้าสู่เส้นทางสายนี้แบบไม่ตั้งใจ “ตอนเรียนอยู่ที่ม.4 เทอม 2 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ผมไปเดินแฟนซีแล้วได้ถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คซึ่งผู้จัดการผมก็ไปเห็นรูปเข้า เลยติดต่อมา ผมก็ให้คุยกับคุณแม่ ซึ่งพี่เขาก็เป็นแฟนคลับคุณแม่อยู่แล้วด้วยก็เลยเข้ากันได้ง่าย (หัวเราะ) ช่วงม.5 ก็เริ่มประกวดเวทีเล็กๆ มาเรื่อยๆ ครับ ตอนนั้นยังใส่เหล็กดัดฟันอยู่ ยังทำอะไรมากไม่ได้ พอเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 ผมถอดเหล็กดัดฟัน ผู้จัดการส่วนตัวก็เลยคุยกับพี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) พี่เขาก็เลยพามาเซ็นสัญญาที่ช่อง 3 และเริ่มถ่ายละครเรื่องสายลับจับแอ๊บ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้วาดภาพวงการบันเทิงไว้เลยนะครับว่าจะเป็นอย่างไร เราเข้ามาก็ตั้งใจทำงานอย่างเดียว รู้สึกว่าสนุกดี ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ทำ”
ร้ายแบบนี้เป็นลูกคาวีหรือเปล่า
เพราะบทบาทของ ‘พีท’ ในเรื่องตราบาปสีชมพูนั้นนช่างร้ายกาจ เอาแต่ใจ ถอดแบบฉบับความแรงเหมือนกับเป็นลูกของคาวี พระเอกสุดร้ายกาจจากเรื่องสวรรค์เบี่ยงอย่างไรอย่างนั้น งานนี้แฟนๆ ละครทั้งหลายเลยอดจะเปรียบเทียบไม่ได้ว่าหรือพีทจะเป็นลูกชายของคาวีกันนะ ซึ่งภณได้พูดกับเราถึงเรื่องนี้ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มว่ารู้สึกดีใจมากที่คนดูอินจนโยงละคร 2 เรื่องเข้าหากันได้ และเรียกได้ว่าหายเหนื่อย เพราะกว่าจะได้เห็นเป็นผลงานออกฉาย ทุกฝ่ายต่างก็ทำการบ้านมาหนักไม่น้อย “ตอนเวิร์กชอป ผู้กำกับจะบอกว่าเวลาที่ภณทำแบบนี้ พีทจะทำตรงกันข้าม ผมก็ต้องไปทำการบ้านให้คาแรกเตอร์ตรงข้ามกับตัวเอง พีทเป็นคนที่คิดอย่างไรก็พูดออกมาเลย ในขณะที่ผมเป็นคนที่ต้องคิดก่อนพูด ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกขัดแย้ง แต่พอเราอินกับตัวละครไปเรื่อยๆ เข้าใจกับบทบาทที่แสดงมากขึ้น ความรู้สึกนี้ก็ค่อยๆ เบาลงเปลี่ยนมาเป็นความภูมิใจที่สามารถถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้ ต้องยอมรับว่าละคร 2 เรื่องแรกยังมีคาแรกเตอร์ใกล้เคียงกับผม แต่พอมาแสดงเรื่องตราบาปสีชมพู คาแรกเตอร์ของตัวละครตัวนี้ท้าทายมาก เราต้องพยายามมากขึ้น ซึ่งการทำการบ้านหนักแล้วสามารถทำได้ ทำให้ผมชอบการแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อสามารถทำให้แต่ละฉากผ่านไปได้ก็เหมือนกับการได้ชนะตัวเองไปด้วยครับ”
ตัวละครนี้มีอยู่จริง คือสิ่งที่ท้าทาย
แม้จะแสดงมาไม่กี่เรื่องแต่ภณดูจะติดใจการทำงานในวงการนี้เสียแล้ว “เสน่ห์ของการทำงานตรงนี้คือการที่เราไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง แต่ต้องแสดงอีกบทบาทหนึ่งที่ทำให้คนดูเชื่อว่าตัวละครตัวนี้มีชีวิตอยู่จริง อีกอย่างการแสดงทำให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้นในเรื่องเป้าหมายด้วยครับ เพราะทุกตัวละครล้วนมีเป้าหมาย มีเหตุผลของตัวเอง ผมก็นำมาปรับใช้กับชีวิตได้ด้วยว่าที่เราตั้งเป้าหมายชีวิตไว้แบบนี้ เราต้องทำอย่างไรถึงจะถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ เพราะทุกอย่างจะมีสูตรหรือขั้นตอนของมันอยู่”
เรื่องกลุ้มๆ ของหนุ่มหน้านิ่ง
เห็นหน้าตาหล่อเหลาอย่างนี้ หนุ่มภณก็มีความกังวลในเรื่องกายภาพของเขาเหมือนกัน “ผมเป็นคนตาโตและเวลาทำหน้านิ่งๆ คนจะมองว่าไม่ดุก็หยิ่ง ไม่กล้าเข้าหาครับ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ผมเป็นคนใจดีนะ (หัวเราะ) แต่บางทีทำงานเยอะเลยอาจจะดูมึนๆ ลอยๆ บ้างในบ้างครั้ง แต่แฟนๆ มาถ่ายรูปกับผมได้นะครับ และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากปรับปรุงด้วยก็คือเวลาที่ผมไม่รู้จักใครก็จะไม่ค่อยพูดครับ ซึ่งคิดว่าถ้าเราปรับตัวเองอีกนิด กล้าเข้าไปหาคนอื่นมากขึ้น กำแพงของเราที่มีระหว่างกันก็น่าจะถูกทำลายลงได้”
เด็กติดละครกับนักแสดงในดวงใจ
รู้หรือไม่ว่าผู้ชายคนนี้เขาก็เป็นเด็กติดละครเหมือนกัน เรื่องนี้หนุ่มภณเล่าให้ฟังว่า “ผมชอบดูละครครับ ดูทุกช่อง (หัวเราะ) แต่ถ้าช่อง 3 ที่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ เลยก็คือ สี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอนนั้นชอบตอนดวงใจอัคนีที่พี่ณเดชน์กับกับพี่ญาญ่าแสดงด้วยกันมาก ส่วนนักแสดงในดวงใจก็คือพี่ณเดชน์ครับ ชื่นชอบพี่เขาเพราะแสดงได้หลายบทบาท อย่างเรื่องเล่ห์ลับสลับร่าง ที่ต้องแสดงเป็นผู้หญิงที่อยู่ในร่างผู้ชายผมประทับใจมาก เขาแสดงได้สมบทบาทผมเคยเจอพี่ๆ ที่งานช่องด้วยครับ พี่ณเดชน์กับพี่ญาญ่น่ารักเป็นกันเอง ไม่วางตัวว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์เลยครับ
ผู้ชายสายทำงานบ้าน
เรื่องวินัยที่ดูจะเป็นคุณสมบัติที่น่าชื่นชมของหนุ่มคนนี้นั่นเพราะเขาได้รับการปลูกฝังมาจากคุณพ่อตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวตำรวจที่สอนให้ลูกๆ ทั้ง 3 คน (ภณเป็นคนที่ 3 ) ช่วยเหลือตัวเอง ไม่มีแม่บ้าน ทำให้เขาและพี่ๆ ต้องช่วยทำงานบ้านกันเอง “ครอบครัวเราเน้นเรื่องวินัยครับ เช่น ถ้าลุกจากที่นอนต้องพับผ้าห่ม, ของต้องวางให้ถึงที่, รองเท้าต้องถอดวางให้เรียบร้อยที่หน้าบ้าน คุณพ่อเป็นคนเป๊ะมาก เมื่อก่อนพี่น้อง 3 คน ต้องผลัดเวรกันทำความสะอาด เราจะมีตารางเขียนไว้เลยว่าใครมีหน้าที่ทำอะไรในแต่ละวัน แต่ตอนนี้ทุกคนเรียนจบแล้วเลยไม่ได้มีตารางที่ต้องทำแบบตายตัวเหมือนเมื่อก่อน แต่กลายเป็นว่าเรารู้หน้าที่กันเอง ใครเห็นอะไรไม่เข้าที่เข้าทางก็จะทำโดยอัตโนมัติ ทุกวันนี้เรายังทำงานบ้านกันเอง ซักผ้ากันเอง ผมเริ่มรีดเสื้อนักเรียนตัวเองมาตั้งแต่ป.3 ถึงวันนี้ก็ยังรีดเอง ยกเว้นสูทที่เราไม่สามารถซักรีดเองไม่ได้ แล้วก็ยังกวาดบ้าน, ถูบ้าน เก็บผ้า ฯลฯ คุณแม่จะเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินกับคุณยายครับ”
หนุ่มหน้าใสหัวใจดนตรี
ภณเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สาขาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม เกียรตินิยมอันดับสอง และมีความชื่นชอบดนตรีหลากหลายแนว แต่ที่ชอบเป็นพิเศษนั้นเป็นแนวป๊อปร็อก “ผมเริ่มเล่นกีตาร์ตอนป.3 ครับ เรียนไปคอร์สหนึ่งแล้วก็หายไปเลย พอเรียนอยู่ม.2-ม.3 ได้เห็นวงดนตรีเขาเล่นวันเกษียนอายุคุณครู ผมรู้สึกว่าเท่จัง อยากไปเรียนอีกรอบเลยไปขอพ่อ พ่อก็บอกว่าจะให้พี่บาส พงษ์พจน์ และพี่บอล พงษ์เพชร สินสุวรรณ์ วงบางแก้ว มาสอนแล้วกัน เพราะว่าพ่อของเราเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้เล่นกีตาร์มาเรื่อยๆ แล้วก็มีวงที่โรงเรียนด้วย ซึ่งผมเล่นเบสครับ ผมชอบดนตรีป๊อปทั่วไป ฟังสบายๆ แนวอะคูสติก และชอบพี่วิน ที่เคยอยู่วงโปเตโต้มาก เห็นพี่เขาเล่นกีตาร์แล้วประทับใจ แกะทุกเพลงของพี่เขาเลย เคยไปประกวดบ้างซึ่งก็ได้รางวัลชมเชยของโรงเรียน แต่พอเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยก็มีประกวดดาวเดือนเข้ามา ซึ่งต้องไปซ้อมเดินแบบถึงเที่ยงคืน พร้อมๆ กับเป็นช่วงที่เพื่อนฟอร์มวงกัน ทำให้ผมต้องเลือกสักทาง เพราะไม่อย่างนั้นจะเรียนไม่รอด สุดท้ายเลยเลือกประกวดดาว เดือนครับ (ภณได้รับเลือกเป็นเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เดือนสถาบันและผู้อัญเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎ) แต่ก็ยังเล่นดนตรีอยู่บ้างครับ แล้วก็แบ่งเวลาเรียนให้ลงตัว ผมเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องการเรียนคืออย่างน้อยเกรดเฉลี่ยต้อง 3.00 ขึ้น ผมเองไม่ได้เป็นคนหัวดี อาศัยตอนใกล้สอบก็เข้มกับตัวเองเยอะๆ ได้เพื่อนดีๆ มาช่วยติวและอาจจะเป็นคนสมาธิดีก็เลยพอเอาตัวรอดมาได้ครับ
หนุ่มเอ็กตรีมกับกีฬาสุดเลิฟ
หนึ่งในกิจกรรมสุดโปรดที่แสนจะตรงข้ามกับหน้าตาของพระเอกมาแรงคนนี้คือเวคบอร์ด ถึงแม้ตอนนี้ตารางงานจะแน่นแต่ก็ยังหาเวลาไปเล่นอยู่เสมอ “ผมได้เห็นใครซักคนลงรูปเล่นเวคบอร์ดในเฟสบุ๊คก็เลยชวนเพื่อนไปเล่น วันแรกก็ล้มทั้งวัน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกที่ได้เล่นด้วยก็เลยพยายาม จนวันที่ 2 ก็ลองเล่นอีก ประมาณช่วงเย็นของวันนั้นก็เริ่มเล่นได้ ถึงวันที่ 3 ผมก็ยืนเล่นได้แล้ว (หัวเราะ) ทุกวันนี้ถ้าว่างก็จะไปเล่นครับ ผมชอบเล่นกีฬาทางน้ำ
สเปกสาวของผู้ชายหัวใจยังว่าง
พกความโสดมาให้สาวๆ ใจละลายเพราะตอนนี้สถานะภาพของภณจัดว่าเป็นผู้ชายหัวใจยังว่าง “ผมชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ ไม่ชอบแบบที่ผอมมาก ขอแบบมีน้ำมีนวลหน่อยครับ” หนุ่มโสดในฝันของสาวๆ เผยสเปก “เวลาผมรู้สึกชอบใคร จะไม่ใช่สไตล์ที่เดินเข้าไปแล้วจีบเลย และไม่เคยเข้าไปขอไลน์ใครก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าเขานิสัยอย่างไร คิดว่าเราต้องรู้จักกันก่อน เคยร่วมงานกัน หรือเป็นเพื่อนของเพื่อนอะไรอย่างนี้ เราก็แหย่ๆ คุยๆ กันไป แล้วค่อยๆ เก็บข้อมูล มีทั้งที่จีบสำเร็จและไม่สำเร็จ แต่เวลาที่มีแฟนผมจะเป็นทุกอย่างครับ เช่น เป็นพี่เลี้ยงให้เขาหรือบางทีก็เขาเป็นพี่เลี้ยงให้กับผม เราต้องคอยสนับสนุนกัน เข้าใจกัน ไม่ทิ้งกันในเวลาที่อีกคนลำบาก อย่างตอนที่เรียน ผมเครียดเพราะเรียนหนักมาก ถ้าเขาว่างเขาก็จะคอยติวให้ ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเจอคนที่ขัดใจกันเพราะก่อนคบใครจะดูนิสัยเขาก่อน ดูว่าเขาเข้าใจเราหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมไม่มีแฟนครับ”
เครดิตเรื่องและภาพ OK! Issue 310
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments