ส่งยิ้มหวานเบอร์แรงจนแฟนๆ ใจบางไปหมดแล้วสำหรับ โดนัท ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์ พระเอกหนุ่มผู้รับบทหมอโรม จากละครเรื่องพ่อมดเจ้าเสน่ห์ ที่เพิ่งลาจอไปเมื่อไม่นานมานี้ OK! เลยต้องขอให้เขาเคลียร์คิวด่วนมาพูดคุยพร้อมอัพเดทแฟชั่นรับลมหนาวกับเราเสียหน่อย
ตอนเด็กๆ เคยมีแววว่าจะมาเป็นนักแสดงบ้างหรือเปล่า
เรียกว่าไม่มีเลยครับ ผมดูห่างไกลจากตรงนี้มาก ตอนเด็กผมไม่ค่อยดูละคร เป็นคนเงียบๆ เล่นแต่กีฬา ผมเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่อยู่ป.1 พอเข้ามัธยมต้นก็มาเล่นบาสเก็ตบอล พ่อผมเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลอยู่แล้วเลยเหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม พอเล่นไปสักพักครูก็ชวนให้กลับมาเล่นฟุตบอลในตำแหน่งโกล ผมเคยจริงจังกับกีฬาฟุตบอลจนเกือบจะได้เป็นนักกีฬาตัวแทนของภาคเหนือ แต่ก็เป็นช่วงที่กำลังจะเข้าวงการด้วย เลยต้องตัดสินใจว่าจะมุ่งไปทางไหน แล้วก็เลือกเข้ามาทำงานในวงการ คงเป็นเพราะว่าเรามาถึงจุดอิ่มตัวในการเล่นกีฬาพอดี
คุณแม่ป็นแรงผลักดันในการเข้ามาทำงานในวงการนี้อย่างไรบ้าง
แม่เป็นคนที่หาอะไรดีๆ ให้กับผมมาตลอด พาผมไปเดินแบบที่เชียงใหม่บ้าง ให้โอกาสผมทำอะไรหลายอย่าง แล้วพอเห็นว่ามีการประกวด Smart Boy ของทางช่อง 7 แม่ก็อยากให้เข้าประกวด ความจริงผมเองยังไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับวงการนี้เลย แต่เพราะเป็นคนตามใจแม่เลยลองเข้าประกวด แล้วก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ โชคดีที่เวทีนี้เขาให้เดินแบบเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร ก็เลยทำได้เต็มที่ เพราะเมื่อก่อนนี้เรื่องสัมภาษณ์นี่ไม่ได้เลย ผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูด แต่พอทำงานตรงนี้นานเข้าเราก็เริ่มเข้าใจการใช้ชีวิตในวงการมากขึ้น คงเป็นเพราะผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะจริงจังและเต็มที่แม้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นจะเป็นสิ่งที่ชอบหรือไม่ก็ตาม ซึ่งพอทำไปเรื่อยๆ ผมก็ค่อยๆ รักงานตรงนี้ พูดเก่งขึ้น และวงการนี้ทำให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน
ชีวิตโดนัทตอนเด็กๆ ที่เชียงใหม่เป็นอย่างไร
ผมเป็นเด็กวัดครับ เวลาหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็จะไปวัด ที่นั่นจะมีพระอาจารย์สอนดนตรี ส่วนผมจะตีกลองสะบัดชัย เวลามีงานทำบุญ เขาก็จะจ้างเราไปเล่น ถ้ายังไม่มีงานจ้าง พวกเราก็จะมาซ้อมดนตรีด้วยกัน มีเพื่อน พี่ น้องมากินข้าวด้วยกัน นานๆ ทีก็สั่งพิซซ่ามากินกันบ้าง เป็นความรู้สึกที่มีความสุขอีกช่วงหนึ่งเลย
วงการบันเทิงเหมือนหรือต่างกับที่คิดไว้อย่างไรบ้าง
ผมไม่ได้มีภาพที่คิดไว้เลยว่าชีวิตในวงการจะเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาผมไม่มีความคิดว่าจะมาทำงานตรงนี้ พอเข้ามาทำงานก็ไม่ได้คิดว่างานหนักหนาสาหัสอะไร เวลาทำเราก็เต็มที่เพราะผมเองก็ไม่เห็นว่าจะมีอาชีพไหนหรืองานไหนที่ไม่เหนื่อย อย่างทีมงานในกองถ่ายที่เราทำงาน ช่างไฟก็เหนื่อย ตากล้องก็เหนื่อย พวกพี่เขาอยู่หน้าเซ็ตตลอด เราเองยังมีเวลาพัก มีเบรกซีน เปลี่ยนชุด ก็เลยมองว่าผมไม่ใช่คนที่เหนื่อยที่สุดหรือต้องมีคนมาคอยเอาใจใส่อะไร เราดูแลในส่วนของตัวเอง ไม่ทำให้ทีมงานวุ่นวายดีกว่า
ช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย โดนัทต้องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่เพื่อมาถ่ายละคร แต่ตอนนี้มาใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ เต็มตัวแล้ว มีอะไรที่ต้องปรับตัวเพิ่มบ้าง
ผมต้องปรับเรื่องอาหารการกินครับ เพราะว่าที่เชียงใหม่เรามีเงิน 100 บาทก็อิ่มได้แล้ว แต่ในกรุงเทพฯ ต้องใช้จ่ายสูงกว่านั้น เพราะผมเป็นคนกินจุ ตอนอยู่เชียงใหม่แม่จะรู้ใจว่าผมชอบกินอะไร แล้วแม่จะคอยเตรียมให้ และเมื่อก่อนนี้ทุกๆ เสาร์-อาทิตย์ พวกเราจะไปตามห้างต่างๆ ไปหาฟาสต์ฟู๊ดกิน แล้วผมเป็นคนที่กินไม่รู้จักอิ่ม (หัวเราะ) พอมาเรียนกรุงเทพฯ ก็ปรับเรื่องนี้ แต่เดี๋ยวนี้ก็กินน้อยลง เพราะรู้ว่าเราไม่ควรกินอะไรเยอะเกินไป คือเวลาถ่ายละคร ถ้าอ้วนนิดหนึ่งในกล้องตัวจะบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็เลยต้องดูแลเรื่องโภชนาการ มันเป็นวงจรชีวิตของนักแสดง (หัวเราะ) แต่ผมเองก็ไม่ได้อดให้หิว แล้วช่วงหลังเริ่มเข้าฟิตเนส กินโปรตีนเพื่อให้เห็นกล้ามท้องด้วย เลยทำให้ต้องดูแลสุขภาพมากขึ้นไปในตัว
ตอนนี้ยังมีกระแสเรื่องคู่จิ้น #โดนัทโบว์ อยู่หรือเปล่า แล้วสเตตัสของโดนัทตอนนี้เป็นอย่างไร
ตอนนี้ยังมีแฟนคลับของเรา 2 คนอยู่ครับ ผมมองว่าเป็นความชอบส่วนหนึ่งของเขา ส่วนผมกับโบว์ (เมลดา สุศรี) ตอนนี้ถือว่าสนิทกันมากเพราะเราถ่ายละครด้วยกันนานถึง 3 ปี ด้วยความที่เป็นเพื่อนวัยเดียวกันก็เลยคุยกันง่ายด้วย แต่สเตตัสตอนนี้ผมโสดครับ ก็อาจจะมองผู้หญิงบ้างเป็นปกติของผู้ชายอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ตั้งสเปกให้ตัวเอง ขอให้เขาเข้าใจ OK! กับผม มองโลกในแง่ดีเพราะผมมองโลกในแง่ดีมาก (หัวเราะ)
ผู้หญิงที่ทำให้โดนัทมอง ต้องเป็นยังไง
ผมเป็นคนมองคนที่รองเท้าก่อน อาจจะงงๆ หน่อยใช่ไหมครับ (หัวเราะ) ผมมักจะมองว่าผู้หญิงคนนี้ใส่รองเท้าเข้ากับตัวเองหรือเปล่า ไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์แต่ชอบอะไรที่ดูลงตัว ความจริงผมมองอย่างนี้ทั้งผู้หญิงผู้ชายนะ แล้วก็ยังหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวจากคนเหล่านี้ด้วย เพราะผู้ชายเองก็มีของให้สนุกกับการแต่งตัวอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่เสื้อ ก็รองเท้า แล้วรองเท้าก็สามารถเปลี่ยนให้เข้ากับหลายๆ ชุดได้ด้วยครับ
OK! Issue 307
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments
