
ถ้าได้ลองติดตามอินสตราแกรมของนักแสดงหนุ่มฝีมือดี นิว-ชัยพล พูพาร์ต คงจะทราบดีว่าเขาคนนี้คือนักเดินทางตัวยง ซึ่งนอกจากผลงานทางจอทีวี นิวยังมีช่องในยูทูบ New Chaiyapol บอกเล่าเรื่องราวไลฟ์สไตล์กินเที่ยวของเขาให้แฟนๆ ได้ติดตาม ล่าสุดนิวสวมบทบาทเป็นพิธีกรเต็มตัวในรายการ ลุ้นล้านล่าฝันแจ็คพอต ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ตอน 5 โมงเย็นทางช่อง 3 ว่าด้วยการเลือกกระเป๋าที่มีอยู่ 5 ใบ แต่มีเพียง 1 ใบที่มีเงินรางวัลแจ็คพอต เอาเข้าจริงก็ดูคล้ายกับการเดินทางที่เขาชื่นชอบ เพราะไม่รู้ว่ากระเป๋าเดินทางที่เขาเก็บข้าวของพกไปจะนำพาเรื่องราวเซอร์ไพรส์อะไรมาให้กับเขาบ้าง และนี่คือ 10 เรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ของพระเอกหนุ่มนักเดินทางคนนี้
1. Nepal
ที่แรกเอาเป็นเนปาลทั้ง ABC (Annapurna Base Camp) และ EBC (Everest Base Camp) ผมคาดหวังว่ามันต้องเหนื่อยและลำบากมากแน่เลย แต่พอไปถึงจริงๆ แล้ว ถามว่าเหนื่อยไหมมันเหนื่อยแต่ไม่ลำบาก เพราะด้วยบรรยากาศ ด้วยสิ่งรอบข้าง ด้วยพลังหลายอย่างที่บริเวณนั้นมีมันทำให้เรามีความสุข ปกติจุดมุ่งหมายในการเดินทางของผมคือเพื่อไปเรียนรู้สถานที่ต่างๆ ทั้งประเพณี ศิลปะวัฒนธรรม ผู้คน แต่เนปาลทำให้ความรู้สึกตรงนี้ของผมเปลี่ยนไป และส่งผลกับทริปอื่นๆ คือเรารู้จักตัวเองมากขึ้น ตอนที่เดินเขาอยู่นั้นมันเหมือนเราตัดขาดจากทุกอย่าง ทำให้รู้ว่าสุดท้ายมนุษย์ก็อยู่กับตัวเอง เหมือนได้ทำสมาธิเดินจงกลม นี่คือสิ่งเซอร์ไพรส์ที่ผมได้กลับมา
2. Italy
เมืองนาโปลี อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี เมืองนี้ในรูปดูสวยมาก ของจริงก็สวยแต่ก็เคยได้ยินว่าจะเถื่อนๆ หน่อย ยังคิดว่าเราก็น่าอยู่ได้นะ ไปถึงตอนกลางคืนก็หาที่พักที่จองไว้ไม่เจอ เลยไปจอดรถข้างทาง สักพักมีมอเตอร์ไซด์วนรอบรถเรา บางคนถือไม้ ถือกระบองมา ผมก็ขับรถหนีจนเจอที่พักบนถนนที่ชื่อว่ามาแตร์เดอี พอตื่นเช้าก็คุยกับเพื่อนชาวอิตาเลียน บอกเขาว่าพักอยู่บนถนนชื่อมาแตร์เดอี เพื่อนตกใจบอกว่าตรงนั้นเป็นที่ที่อันตรายที่สุดในนาโปลี และนาโปลีก็เป็นเมืองที่เถื่อนที่สุดในอิตาลี วันนั้นเราลงไปเดินเล่น เดินผ่านแต่ละบ้าน มีรูปเด็กติดอยู่กับรูปพระแม่มารี ก็งงว่ารูปเด็กพวกนี้คืออะไร ทีนี้เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งมีเด็กอายุประมาณ 12-13 ปีมองหน้าแล้วก็ถุยน้ำลายข้างหน้าเท้าผมเลย พอมองไปข้างในบ้าน เห็นพ่อเขาถือไม้มองผมอยู่ คือโหดมาก แล้วที่นี่พอฟ้ามืดจะได้ยินเสียงตีกัน ผมได้ยินเสียงปืนทุกคืนเลย แล้วมารู้ทีหลังว่ารูปเด็กที่อยู่ในบ้านนั่นก็คือวัยรุ่นที่ตีกันตายแล้วติดรูปไว้เป็นที่ระลึก
3. USA
แอลเอ ผมไปงานการประกาศผลรางวัลออสการ์กับรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ก็คาดหวังว่ามันต้องเจ๋งแน่ๆ ซึ่งพอไปถึงแล้วมันเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเลย ประทับใจที่สุดในชีวิตที่ได้ไปอยู่บนพรมแดงออสการ์ ได้ยินเสียงกรี๊ดที่แฟนๆ มาต้อนรับ ด้วยอาชีพเราเป็นนักแสดงด้วยแล้วก็ชอบเดินทางด้วย มันยิ่งทำให้มีกำลังใจ มีความฝันว่าสักวันเราอยากไปร่วมงานกับฮอลลีวูด หลายสิ่งหลายอย่างมันเติมเต็มความรู้สึก มันมากกว่าที่เราคาดไว้ร้อยเท่าพันเท่า จริงๆ สถานที่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าพลังมันยิ่งใหญ่จริงๆ
4. Oman
โอมาน ผมมีโอกาสได้ไปโอมานทั้งที่ไม่คิดว่าจะไป พอดีพี่ภูริ หิรัญพฤกษ์ชวน ผมว่างพอดีก็เลยไปด้วย พอไปถึงคือเซอร์ไพรส์มาก โดยเฉพาะได้ไปนอนกลางทะเลทรายแบบกางเต้นท์ คือคนเคยบอกว่าทะเลทรายตอนกลางคืนหนาวมาก ก็ไม่คิดว่ามันจะหนาวขนาดนี้ ทะเลทรายที่โอมานจะไ่ม่มีอะไรเลย เรานอนในเต้นท์ที่แบกเข้าไปเอง แต่ละวันแต่ละจุดก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้เราเซอร์ไพรส์ว่าโอ้โห! ทะเลทรายนี่ยิ่งใหญ่มาก แล้วได้ทำอาหารแบบชาวทะเลทรายกินกันตรงนั้นเลย มีคืนหนึ่งที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือผมเห็นทางช้างเผือกแบบเต็มๆ ทั้งฟ้า แล้วยิ่งอยู่ในทะเลทรายมันยิ่งชัดเพราะไม่มีแสงมากวนเลย ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์มาก
5. South Africa
ตอนนั้นไปถ่ายรายการที่ศูนย์ดูแลสิงโตบาดเจ็บ ผมได้ไปเดินกับสิงโตคือไม่คิดว่าในชีวิตมนุษย์จะใกล้สิงโตได้ขนาดนั้น แม้ว่าจะเป็นสิงโตเลี้ยงก็เถอะ มีเจ้าหน้าที่ให้เราเข้าไปให้อาหารมันด้วย เป็นชิ้นเนื้อแล้วโยนให้ มันจะเดินตามแล้วก็นั่งรอ ใจคิดว่ามันได้เหรอ เรากลัวมาก จังหวะเดียวคือตาย ถึงกลัวแต่ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ จำได้ว่ามีจังหวะที่มันกัดขาผม โชคดีที่มีโทรศัพท์อยู่ เขาบอกว่ามันเล่น แต่ผมว่ามันไม่เล่นนะ (หัวเราะ)
6. Kenya & Tanzania
ปกติผมเป็นคนชอบการเดินทางเกี่ยวกับสัตว์ คือตอนอายุ 18 ปี ผมเคยไปเคนย่าอยากไปดู Big Five (ควายป่า ช้าง สิงโต แรด และเสือดาว) ก็ได้เห็น 4 ตัวขาดเสือดาว แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า คือเราได้เห็นการอพยพของไวเดอร์บีทเป็นล้านๆ ตัว ซึ่งจะมีอยู่ช่วงเดียวของปี ปีละแค่ 2-3 วัน แล้วเราดันได้ไปตรงกับวันนั้นพอดี ข้างหน้าผม ไม่มีที่ว่างเลย มองเห็นแต่ตัวไวเดอร์บีทเต็มไปหมด ปกติพวกมันจะอพยพไปมาระหว่างสองประเทศคือเคนย่ากับแทนซาเนีย ไกด์ยังบอกเลยว่ายูลืม Big Five ไปได้เลยเพราะสิ่งที่ได้เห็นคือหนึ่งในล้าน และที่เซอร์ไพรส์คูณสอง คือปีที่แล้วผมไปแทนซาเนีย ไปถึงก็ได้เห็นการอพยพอีกรอบ ครั้งแรกจากเคนย่าไปแทนซาเนีย อีกครั้งจากแทนซาเนียไปเคนย่า ห่างกันสิบกว่าปี
7. Lebanon
ที่นี่เป็นประเทศที่ผมเซอร์ไพรส์มาก ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเที่ยวเมืองหลวงที่เป็นตึกๆ แต่เบรุตเป็นที่ที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเลย ทั้งๆ ที่เราตั้งใจจะใช้เป็นแค่ฐานสำหรับเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่นี่เป็นเมืองที่ผสมผสานระว่างฝรั่งเศสกับตะวันออกกลาง หรือปารีสแห่งตะวันออกกลาง มีตึกต่างๆ ที่สมัยใหม่มากๆ อีกฝากหนึ่งก็จะดูเป็นตึกโบราณ แต่กลับลงตัว บางคนจะมองว่าตะวันออกกลางรุนแรง ตอนผมไปเพิ่งมีประท้วงด้วยแต่ทุกอย่างก็สงบดี อาหารก็อร่อย คือไม่ได้ตะวันออกกลางจ๋า แต่จะมีส่วนผสมของยุโรปอยู่ด้วย แล้วร้านแบรนด์เนมนี่เต็มเลย ร้านอาหารมิชลินสตาร์ก็มี แล้วที่เซอร์ไพรส์มากคือไอสกรีม มีร้านห้องแถวเล็กๆ อายุร้อยกว่าปี เขาได้อันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับหนึ่งของตะวันออกกลางซึ่งก็ไม่คิดว่าจะอยู่ในเบรุต ผมกินทุกวันเลย
8. Japan
ผมไปขับโกลคาร์ทกลางชิบูย่าในโตเกียว ผมว่ามันเป็นความฝันของเด็กผู้ชายที่อยากไปขับรถแข่งกลางห้าแยกชิบูย่าเหมือนในหนัง Tokyo Drift ผมไปตั้งแต่ปีแรก มีเพื่อนชวนไป วันนั้นเหยียบมิดเลย เป็นความรู้สึกคอมพลีตเบาๆ จากการดูหนัง ได้ขับรถแข่งไซส์มินิ เราเคยไปเดินหลายทีแล้ว แต่พอขับรถแล้วมันรู้สึกเจ๋งมาก แล้วคนก็จะโบกมือให้เราตลอดเวลา เป็นความรู้สึกที่ฮาดี
9.Thailand
ผมมีโอกาสได้ไปสามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อโปรโมทจังหวัดนราธิวาส เราก็เหมือนทุกคนที่กลัวว่าจะอันตรายไหม แต่ก็อยากไปมาก พอไปถึงสนามบินก็มีการตรวจเยอะมาก จากนั้นมีทหารนำไปที่หมู่บ้านบนภูเขาเหมือนในหนังเลย ถามว่าอันตรายขนาดนั้นไหมผมว่าไม่นะ แค่รู้สึกว่าเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุการณ์ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เราสามารถไปเที่ยวได้ ไปอยู่ได้ พูดจริงๆ ว่าคนที่นั่นน่ารักและเป็นกันเองมาก ตอนเข้าก็ทำข้าวยำมาให้กินในสไตล์ของท้องถิ่นเขาใส่ดอกดาหลากินกับไก่ทอด ดูแลผมเหมือนเป็นลูกหลานคนหนึ่ง ที่เซอร์ไพรส์คือผมไม่ชอบกินทุเรียน คือไม่ได้เกลียด แต่ไม่เคยนึกอยากกิน พอดีเขามีสวนทุเรียนที่อยากให้โปรโมท ตอนแรกผมบอกเขาว่าไม่ค่อยอยากกิน งั้นลองกินหลอกๆ ก็ได้ แต่พอได้กินคำแรกเท่านั้นแหละ โอ้โห มันอร่อยมากกกก คือหวาน กรอบ นุ่ม มัน วันนั้นผมกินคนเดียวเกือบลูก
10. Greece & Jordan
ระยะหลังผมจะศึกษาเรื่องกินมากขึ้น กินทุกแนวทั้งสตรีทฟู๊ดไปถึงไฟน์ไดนิ่ง พอทีนี้เจอร้านหนึ่งที่เขาบอกว่าดีที่สุดในกรีซ จองล่วงหน้าประมาณ 3-4 เดือน ไปถึงเขามีเมนคอร์สเขียนว่า Silence of the Lamp พนักงานบอกว่ามันคือสมองแกะกินได้ไหม ผมตัดสินใจลองเพราะร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในกรีซ เสิร์ฟมาในถ้วยสีดำ สมองอยู่ตรงกลางยังมีรอยหยักอยู่เลย มีซอสอยู่รอบๆ ใจหนึ่งก็กล้า ใจหนึ่งก็กลัว พอกินเข้าไป โอ้โห! อร่อยมาก มันเนียนนุ่ม ผสมกับซอสที่ดับกลิ่นคาว ยอมรับเลยว่าอร่อยจริง จนเมื่อต้นปีผมไปเคาท์ดาวน์ที่จอร์แดน ไปร้านที่เสิร์ฟแกะทั้งตัว เป็นร้านแบบบ้านๆ คนเสิร์ฟถามว่าเคยกินสมองแล้ว แต่เขามีเด็ดกว่านั้น ลองกินอัณฑะแกะไหม คนก็เชียร์กันก็เลยลองดู ดีที่มาแบบหั่นและเอาไปผัดกับเครื่องเทศมาแล้ว ก็ลองกินเข้าไป คือมันมีกลิ่นคาว แต่ถามว่ากินได้ไหม ก็ถือว่ากินได้ แปลกดี
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments