3 หนุ่มหล่อวัยทีนชาวอังกฤษวง New Hope Club ทั้งรีส บิบบี้ (เบส กีตาร์ และกลอง), จอร์จ สมิธ (กีตาร์และทำมาสเตอร์ในสตูดิโอ) และเบลค ริชาร์ดสัน (กีตาร์ อูคูเลเล่ และเปียโน) เพิ่งบินลัดฟ้ามาแจกความสดใสให้หัวใจของบรรดาแฟนคลับกระชุ่มกระชวยไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย 3 หนุ่มขอเอาใจแฟนคลับชาวไทยกับโชว์เคสที่พวกเขาทุ่มเทเต็มสตรีม “Welcome to the Club-Acoustic Live in Bangkok” เสิร์ฟความสดใสและความสนุกผ่านเพลงฮิตชุดใหญ่ ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดสนั่นบริเวณฮีลิกซ์ การ์เด้นท์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ สถานที่จัดงานเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มหน้าใสยังแจกลายเซ็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟและเป็นกันเองกับแฟนเพลงกว่า 500 คนที่มาร่วมเชียร์และกระทบไหล่พวกเขาอย่างใกล้ชิดด้วย
นี่ล่ะ 3 หนุ่มหล่อ New Hope Club
ความหวังใหม่สำหรับหัวใจของสาวๆ
New Hope Club เป็นวงป๊อปน้องใหม่ที่ฟอร์มวงในปี 2015 โดยปล่อยอีพีแรกออกมาในปี 2017 พร้อมเพลงจังหวะฟังง่าย สบายๆ เช่น “Perfume”, “Friend of a Friend”, “Water”, “Fixed”, “Good Days”, “Whoever He Is”, “Tiger Feet” ฯลฯ อีกทั้งยังเคยมีโอกาสเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงดังรุ่นพี่สุดซี้ The Vamps ด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเขาได้เล่นคอนเสิร์ตต่อหน้าผู้ชมกว่า 10,000 คน! นอกจากจะมีเพลงเป็นของตัวเอง New Hope Club ยังคัฟเวอร์เพลงดังลงยูทูบมาแล้วมากมาย เท่านี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะสำหรับเด็กหนุ่มวัยไม่ถึง 20 ปีทั้ง 3 คน OK! ขอพาแฟนๆ มาฟินกับรูปหล่อๆ และบทสัมภาษณ์น่ารักๆ ที่ว่าด้วยเสียงเพลงและชีวิตของรีส จอร์จ และเบลค ในตอนนี้กัน จัดคิวให้โดยค่ายเพลง Universal Music Thailand อ่านแล้วจะหลงรักพวกเขามากขึ้น เอาล่ะสาวๆ มาลงชื่อเป็นสมาชิกคลับนี้ด่วน…Welcome to the New Hope Club!
รู้สึกอย่างไรกับทริปแรกของคุณในเมืองไทย ชอบอะไรเกี่ยวกับเมืองไทยเป็นพิเศษ
จอร์จ: ผมชอบที่แฟนๆ ส่งเสียงร้องเพลงและให้กำลังใจเรากันดังมากๆ ที่งานโชว์เคสของเรา แม้ว่าวันนั้นอากาศจะร้อนซึ่งไม่เหมือนกับที่อังกฤษ แต่ว่าเราทั้ง 3 คนสนุกมาก บอกตามตรงว่าไม่อยากกลับเลย (หัวเราะ) ก่อนมาเมืองไทยผมมีโอกาสเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียมาบ้างทั้งทางทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ฯลฯ ว่าเรามีแฟนคลับที่เมืองไทยอยู่เหมือนกัน และแฟนๆ ก็อยากให้เรามามีโชว์ที่นี่ ได้เจอะเจอกัน ซึ่งนั่นทำให้เรามีโอกาสได้มามีไลฟ์โชว์ที่เมืองไทยครับ
เบลค: คนไทยน่ารักมากๆ อาหารก็อร่อย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือโชว์ซึ่งมีแฟนๆ มาดูเยอะทีเดียว เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ทำให้อยากกลับมาเมืองไทยอีกครั้งเร็วๆ
รีส: สำหรับผมก็รู้สึกเหมือนทั้งจอร์จและเบลคเลยครับ (ยิ้ม)
คุณค่อนข้างเป็นศิลปินใหม่สำหรับเรา ช่วยแนะนำตัวเองกับวงให้ฟังหน่อย
จอร์จ: ผมเริ่มเล่นกีตาร์ตอนอายุ 11 ปี เริ่มร้องเพลงตอนอายุ 13 ปีครับ โดยร้องเพลงคัฟเวอร์มาก่อน ก่อนจะมาเจอเบลคและฟอร์มวงกัน
เบลค: เราทั้งคู่โตมากับการฟังเพลงและเล่นดนตรีมาตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งผมกับจอร์จมาเจอกัน เราเริ่มคัฟเวอร์เพลงและแต่งเพลงด้วยกัน แต่ยังไม่ได้ลงออนไลน์หรืออะไร เหมือนเล่นดนตรีกันสนุกๆ ช่วงเสาร์อาทิตย์มากกว่า ตอนนั้นก็ยังเด็กกันมาก แต่อยู่คนละโรงเรียนนะ จากนั้นรีสมาร่วมจอยในวงด้วย เรามีช่วงเวลาที่ดีและสนุกด้วยกัน เริ่มจากเป็นเพื่อนกันมาก่อนก่อนจะมารวมตัวเป็นเพื่อนร่วมวง เรา 3 คนชอบฟังเพลงสไตล์เดียวกัน และเป็นเพื่อนกันมาราว 3 ปีแล้วครับ
ทราบว่าคุณเล่นดนตรีกันเองด้วย การเล่นดนตรีในเพลงของตัวเองสำคัญแค่ไหนสำหรับคุณ
จอร์จ: ผมคิดว่าสำคัญมากนะ เพราะเราก็เล่นดนตรีกันมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบเล่นดนตรีในเพลงของตัวเอง เราสนุกมากที่ได้ทำแบบนี้
เบลค: แล้วอีกอย่างถ้าเราเล่นดนตรีกันเอง เวลาจะแต่งเพลงเราก็สามารถแต่งเพลงที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะในห้องที่โรงแรมหรือทุกที่บนโลกใบนี้
คุณชอบอะไรมากที่สุดระหว่างแต่งเพลง เล่นดนตรี และร้องเพลง
จอร์จ: เอ…เราชอบอะไรกันมากที่สุดนะ
รีส: ผมว่าเราชอบทั้ง 3 อย่างเลย สิ่งที่ผมชอบทำมากๆ คือการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต เพราะเรามีโอกาสเดินทางทั่วโลกไปกับเพื่อนสนิทของเรา มีโอกาสได้เห็นสถานที่ใหม่ๆ พบปะผู้คนใหม่ๆ และลองกินอาหารที่แตกต่าง ชอบมากเลย และในช่วงที่เราเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต เราก็แต่งเพลงเยอะเหมือนกันนะ รวมทั้งอัดเสียงในสตูดิโอด้วย เรียกได้ว่าทำทุกๆ อย่างเลยล่ะครับ
เรื่องไหนที่คุณอยากพูดถึงในเพลงเป็นพิเศษ
รีส: ส่วนใหญ่จะพูดถึงสิ่งที่เราเจอะเจอกันมา ทั้งความรัก สาวๆ และทุกๆ เรื่อง อย่างเพลง “Water” เราแต่งเพลงนี้ตอนมีโอกาสได้ไปเที่ยวชายหาดที่แอลเอเป็นครั้งแรก ตอนนั้นคือปี 2016 ครับ
อยากแนะนำเพลงไหนของคุณให้แฟนเพลงชาวไทยฟังมากที่สุด
จอร์จ: ต้องเพลง “Fixed” เลยครับ ผมรู้สึกว่านี่เป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกดีครับ
ส่วนตัวแล้วชอบฟังเพลงสไตล์ไหนกัน แชร์ความชอบที่แตกต่างในการทำเพลงของวงอย่างไร
เบลค: ที่จริงเรา 3 คนชอบฟังเพลงสไตล์เดียวกันเลย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินมากมายและทุกๆ วง เราชอบทั้งศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง The Beatles, Fleetwood Mac, Oasis รวมทั้งศิลปินรุ่นใหม่อย่างบรูโน มาร์ส, ชอว์น เมนเดส ฯลฯ ด้วย แต่เวลาแต่งเพลง เราจะไม่พยายามแต่งเพลงที่ไม่ใช่เรา แต่ชอบแต่งเพลงที่เป็นตัวของเราเองมากกว่า
New Hope Club เปลี่ยนชีวิตคุณไปมากน้อยแค่ไหน
เบลค: มากเลยล่ะ ชีวิตเปลี่ยนไปเลย
รีส: เราคงไม่มีทางมีโอกาสเดินทางไปยังสถานที่ดีๆ และขึ้นโชว์ในประเทศต่างๆ ได้ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในวง New Hope Club พูดได้เลยว่า New Hope Club เปลี่ยนชีวิตของผมอย่างแท้จริง ผมรู้สึกขอบคุณกับทุกโมเมนต์ที่มี พวกเราสนุกกันมากครับ
แต่ละคนต้องปรับตัวกันมากไหมเมื่อมารวมตัวอยู่วงเดียวกัน
จอร์จ: ผมว่าเราก็ไม่ต้องปรับอะไรกันมากเลยนะ
รีส: อาจเพราะเราใช้ชีวิตกันแบบปกติธรรมดามาก เรารักเสียงเพลงและมีความสุขกับการร้องเพลงเหมือนกัน ไม่ได้รู้สึกกดดันกับเรื่องอะไร ลุกขึ้นมาแต่งเพลงตอนที่รู้สึกว่าอยากแต่ง ทำสิ่งที่เรารัก รวมทั้งเต็มที่กับการขึ้นโชว์ในทุกๆ โชว์ด้วย
คุณ 3 คนเหมือนกันตรงไหนบ้าง
จอร์จ: เราเป็นคนมีอารมณ์ขันเหมือนกัน มักจะขำในเรื่องเดียวกันนะ และชอบฟังเพลงสไตล์เดียวกันด้วย
เหมือนกันหลายข้อแบบนี้ แล้วสเปคสาวล่ะเหมือนกันหรือเปล่า
จอร์จ: ไม่เหมือนนะ (หัวเราะ)
งั้นแชร์ให้ฟังหน่อยสิว่าสเปคของแต่ละคนเป็นยังไง
รีส: เท่าที่เห็นส่วนใหญ่เบลคชอบผู้หญิงผมเข้ม
เบลค: ไม่ใช่ผู้หญิงผมเข้มตลอดเวลาเสียหน่อย อย่ามาๆ
จอร์จ: เบลคชอบสาวมีสไตล์ ถ้าชอบใครเขาค่อนข้างจะขี้อาย ไม่บอกใคร แต่จะบอกเราทั้งคู่ก่อนนะ ประมาณว่าชอบผู้หญิงคนนั้นจัง
รีส: เขาชอบผู้หญิงแฟชั่น จิตใจดี น่ารักๆ อย่างที่จอร์จบอกว่าเขาจะทำเป็นนิ่งๆ แต่ก็จะบอกพวกเราว่าสาวคนนั้นน่ารักจัง นิสัยก็ดูน่ารักดี แต่ก็แค่นั้นนะ เขาอาจจะไม่ทำอะไร ไม่กล้าคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ ทำเป็นนิ่งๆ
จอร์จ: บางทีคิดจะจีบก็อาจสายไปเนอะ (หัวเราะ)
รีส: ส่วนจอร์จเนี่ย เหมือนจะขี้อายสุด ถ้าเขาชอบใคร พวกเราจะต้องคอยเป็นตัวกลาง เป็นพ่อสื่อให้
จอร์จ: ผมถึงต้องคอยมีเพื่อนๆ เคียงข้างตลอดนี่ไง (หัวเราะ)
เบลค: ส่วนรีสชอบสาวที่มีรสนิยมการฟังเพลงที่ดี เป็นคนน่ารักและสุภาพ ที่จริงส่วนใหญ่เราก็ชอบผู้หญิงนิสัยดี เป็นคนไนซ์เหมือนกัน ไม่ได้เจาะจงว่าต้องหน้าตาเป็นยังไง ถ้ารีสชอบใคร เขาจะดูตื่นเต้นๆ ล่กๆ นิดหนึ่ง แต่ก็แค่นั้นล่ะ ที่จริงเรื่องคุยกับสาวๆ เนี่ย เรา 3 คนแย่มากเลย ชอบใครแล้วสุดท้ายก็เลยไม่ค่อยทำอะไร ส่วนใหญ่ก็ได้แต่บอกกันเองว่าชอบผู้หญิงคนนั้น แล้วก็แค่นั้น
งั้นถามหน่อยว่ารู้สึกยังไงกับสาวไทยบ้าง
เบลค: สาวไทยไนซ์มากๆ แล้วก็น่ารักมากด้วยครับ
ร้องเพลงและเล่นกีตาร์กันได้แบบนี้ ถามจริงเคยร้องเพลงให้สาวฟังบ้างไหม
จอร์จ: ผมเคยแต่งเพลงและร้องเพลงให้สาวฟัง แต่ว่ามันไม่เวิร์กครับ ไม่เคยเวิร์กเลยล่ะ (ยิ้มเขิน)
เบลค: เพลงหลายๆ เพลงที่เราแต่งมาจากประสบการณ์ของตัวเอง และหลายเพลงก็เกี่ยวกับสาวๆ ด้วย ที่ผ่านมาผมก็เคยร้องเพลงให้สาวฟังนะ (ยอมรับเบาๆ)
รีส: ผมก็เคยร้องเพลงให้สาวฟังเหมือนกัน ร้องเพลงรักอะไรอย่างนี้ ผมว่าเราคงไม่ร้องเพลงอกหักให้สาวฟังกันหรอกเนอะ (หัวเราะ)
นอกจากอัพเพลงของตัวเองลงยูทูบแล้ว คุณยังคัฟเวอร์เพลงลงยูทูบเยอะมากด้วย จำได้ไหมว่าคัฟเวอร์มาแล้วกี่เพลง เพลงไหนร้องยากที่สุด
เบลค: กว่า 40 เพลงได้นะ
รีส: ที่ยากหน่อยคือ Mashup ซึ่งเป็นการรวมเพลงหลายๆ เพลงไว้ในการร้องครั้งเดียวกัน เพราะเราต้องจำว่าจะร้องเพลงอะไรบ้าง เพลงไหนมาก่อนมาหลัง แล้วอีกอย่างคือเราชอบร้องคัฟเวอร์กันสดๆ ด้วย ก็เลยคิดว่าการคัฟเวอร์แบบ Mashup นี่ค่อนข้างยากทีเดียว
เบลค: ครั้งหนึ่งเราคัฟเวอร์เพลงของแฮร์รี่ สไตล์ส ในวันแรกที่เขาปล่อยเพลงนั้นออกมา ซึ่งหลังเพลงปล่อยมาได้ 3 ชั่วโมง เราก็คัฟเวอร์เพลงกันเลย นี่จึงน่าจะเป็นเพลงที่คัฟเวอร์ยากที่สุด เพราะเรามีเวลาน้อยมากและยังมีเนื้อร้องเยอะอีกด้วย
ปกติมีวิธีเลือกเพลงที่จะมาคัฟเวอร์อย่างไร
เบลค: ส่วนใหญ่ก็เลือกเพลงที่ชอบนะ
จอร์จ: และบางทีเราก็ดูคำแนะนำของแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์ด้วยเหมือนกัน
ทราบว่าคุณสนิทกับ 4 หนุ่มวงดังอย่าง The Vamps ด้วย มีโมเมนต์ไหนที่รู้สึกประทับใจเกี่ยวกับหนุ่มๆ วงนี้บ้าง ชอบเพลงไหนของ The Vamps มากที่สุด
จอร์จ: ใช่ครับ ผมชอบเพลง “Oh Cecilia (Breaking My Heart)” ของ The Vamps มากที่สุด และเวลาขึ้นโชว์เพลงนี้บนเวทีกับ The Vamps นั่นเป็นโมเมนต์ที่ทำให้รู้สึกประทับใจทุกครั้ง
เบลค: วง The Vamps น่ารักมากและก็เป็นเพื่อนของเราด้วย เราชอบเล่นฟุตบอลด้วยกัน ทั้งเวลาที่ทัวร์และไม่ได้ทัวร์ด้วยกัน เราก็ยังมาเจอกันอยู่ พวกเขาใจดีและคอยช่วยเหลือเราเสมอ
รีส: อีกอย่างคือสมาชิกในวง The Vamps เป็นรุ่นพี่เรา เขามีประสบการณ์ในวงการเพลงมากกว่า เพราะฉะนั้นเราเลยพยายามเรียนรู้และขอคำแนะนำจากพวกเขาให้มากที่สุด
คำแนะนำที่ดีที่สุดของ The Vamps ที่คุณได้รับคืออะไร
รีส: โชว์แรกๆ ที่เราไปเล่นเป็นวงเปิดให้ The Vamps มีคนดูราว 15,000 คนครับ ทางวงก็ช่วยให้คำแนะนำเรา 3 คนดีมาก พาขึ้นดูบนเวที สอนเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ให้ ซึ่งนั่นช่วยได้มากเลย คำแนะนำที่ดีที่สุดนอกเหนือจากเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ที่เราได้เรียนรู้จาก The Vamps คือการที่เราได้เรียนรู้และซึมซับประสบการณ์ต่างๆ จากการได้มองดูพวกเขาและไลฟ์โชว์ของวงเป็นตัวอย่างนี่ล่ะ
ใครคือแรงบันดาลใจทางด้านดนตรีสำหรับคุณ
รีส: เราทุกคนชอบ The Beatles วงนี้เป็นไอดอลของเราเลย ชอบทุกอย่างเกี่ยวกับวงนี้
จอร์จ: ส่วนถ้าเป็นศิลปินยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าต้องมีเพลงของเอ็ด ชีแรน ด้วย อัลบั้มล่าสุด ÷ ของเขาดีมาก ชอว์น เมนเดส ก็ดีนะ
รีส: ผมชอบฟังเพลงของวงใหม่ๆ ของอังกฤษหลายวงในตอนนี้ อย่าง Blossoms และ Catfish and the Bottlemen
ชอบเพลงไหนของ The Beatles กันบ้าง
จอร์จ: คำถามนี้ยากจัง (หัวเราะ)
รีส: เพลงของ The Beatles เพราะทุกเพลงเลย
จอร์จ: ที่ชอบมากๆ ก็น่าจะเพลง “Yesterday” และ “Strawberry Fields Forever” นะ
สาวคนดังที่ปลื้มมีใครกันบ้าง
จอร์จ: เอมิเลีย คลาร์ก จากซีรีส์ Game of Thrones
เบลค: เคนดอลล์ เจนเนอร์
รีส: ของผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด แต่ตอนนี้น่าจะเป็นจีจี้ ฮาดิด
เป้าหมายในปีนี้ของคุณคืออะไร
จอร์จ: เรา 3 คนอยากมีโอกาสเดินสายทัวร์ทั่วโลก การมีโอกาสได้มีไลฟ์โชว์ในเอเชียก็เป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมมากๆ สำหรับเราครับ ถ้าเรายังคงได้ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และมีอัลบั้มเต็มออกมาก็คงเจ๋งมากๆ เลย
เบลค: ปีนี้วงเราออกสตาร์ทต้นปีมากันค่อนข้างดี มีเพลงประกอบหนังแอนิเมชั่น Early Man 2 เพลง รวมทั้งมีโอกาสจัดไลฟ์โชว์ในเอเชีย ก็หวังว่าเราจะได้มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นปีที่ดีและเราได้สนุกด้วยกัน รวมทั้งได้ปล่อยผลงานเพลงใหม่ๆ ออกมาอีกครับ
รีส: อย่างที่เบลคบอก ผมก็หวังว่าปีนี้ผมกับวงจะได้มีผลงานเพลงใหม่ๆ ได้เดินสายทัวร์คอนเสิร์ต เดินทางทั่วโลก ได้ร้องเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักไปเรื่อยๆ ครับ
**ติดตามบทสัมภาษณ์ของ New Hope Club เพิ่มเติมได้ใน OK! Magazine ฉบับมีนาคม หน้าปกนักแสดงสาวใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
เครดิต:
นายแบบ: รีส บิบบี้, จอร์จ สมิธ และเบลค ริชาร์ดสัน
สไตลิสต์: ศุภะกิจ หุนารักษ์
ช่างภาพ: ทินกร วงเบญจศิลป์
ผู้ช่วยช่างภาพ: ธนพร พิกุล, ธีรภัทร รัตนกุลชัยนันท์
สัมภาษณ์: ศันสนีย์ เล้าอรุณ
สถานที่: Novotel Bangkok Sukhumvit 20 โทร. 0-2009-4999
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments
