ไม่ใช่ทุกคนที่มีความฝันแล้วจะได้เดินตามฝัน ดูอย่างเชฟหงส์-งามพร้อม ไทยมี ที่กว่าจะมีวันนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเธอต้องฝ่าฝันอุปสรรคและบททดสอบมากมาย แถมยังต้องไปอยู่ต่างแดนไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน เธอเริ่มต้นจากศูนย์ด้วยหน้าที่เล็กๆ ในครัวคือการหั่นผัก ปอกผลไม้ จนทุกวันนี้เธอมาไกลมาก เชฟหงส์ได้เป็นเชฟหญิงไทยคนแรกในรายการอาหารชื่อดัง Iron Chef America และยังเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในนิวยอร์ก ชื่อว่า ‘Ngam’ ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความอร่อยจนคนดังฮอลลีวูดอย่างครอบครัวฮาดิด (จีจี้, เบลล่า และคุณแม่โยลันดา), ไรอัน กอสลิ่ง, อีธาน ฮอว์ค ฯลฯ ต้องมารอต่อคิวเพื่อลิ้มลองรสมือของเธอ!
จากอาชีพพนักงานบริษัท ก่อนจะตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อตามความฝัน
เห็นอย่างนี้เชฟหงส์ก็มีดีกรีถึงปริญญาโท MBA ที่เมืองไทย และเคยผ่านงานถ่ายแบบ รวมทั้งงานในวงการบันเทิงมาแล้ว เธอเคยเป็นพนักงานบริษัทยาของเยอรมัน ในตำแหน่ง Corporate Social Responsibility Manager จะเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์กรที่ช่วยเหลือสังคม เธอรู้สึกสนุกกับงาน แต่ก็รู้ตัวว่าไม่เหมาะกับการทำงานออฟฟิศที่ต้องเข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 6 โมงเย็น จึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างแล้วเดินทางไปนิวยอร์ก
การเริ่มต้นที่ไม่ใช่จากศูนย์ แต่ถึงขั้นติดลบ
เชฟหงส์ค้นพบว่าเธอทำอาหารไทยแล้วมีความสุข และคิดว่าอาหารไทยน่าจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศไทยได้ เธอเชื่อว่าอาหารของเธอจะทำให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงตัดสินใจเบิกเงินจากบัตรเครดิตออกมา 300 เหรียญเพื่อติดตัวไปอยู่กับเพื่อนที่นั่น “ตอนที่เดินไปที่เซ็นทรัลพาร์ค หงส์รู้สึกเหนื่อยมาก เราไม่รู้จักอะไรในเมืองนี้เลย เห็นคนนอนในสวนก็คิดว่าฉันก็ต้องนอนได้เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจนอนหลับลงไปเลย มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราตั้งใจว่าโนรีเทิร์นแล้วล่ะ” เชฟหงส์เล่าให้เราฟัง
พยายามทุกวิถีทางที่จะเผยแพร่อาหารไทย
เชฟหงส์เล่าต่อว่า “ตอนนั้นความคิดเรื่องเชฟยังไม่ได้อยู่ในหัวเลยค่ะ เพราะมันมีทางอื่นเยอะแยะที่จะเผยแพร่อาหารไทยได้ เป็น Food Blogger ก็ได้ รับจัดเลี้ยงก็ได้ คือการเป็นเชฟมันยาก เพราะเราไม่มีประสบการณ์มาก่อน แรกๆ ก็เริ่มทำกับข้าวให้เพื่อนๆ ก่อน เรามีคอนเน็กชั่นที่ไหนไม่ว่าจะเป็นชิคาโก พิตส์เบิร์ก แอลเอ คอนเนคติกัต ก็อีเมลไปหาเขาเหล่านั้นว่าเรามีวิชั่นแบบนี้ อยากทำอาหารไทยแบบนี้ เรายังไม่มีวีซ่าที่จะทำงานได้นะ แต่ยูให้ไอไปทำกับข้าวไหม หรือให้ไปเปิดเวิร์กช็อปก็ได้ จากคอนเน็กชั่นที่มีเราก็ได้ไปเวิร์กช็อปแต่ละเมือง มันก็เริ่มได้เงินมาบ้าง”
เธอเดินเข้าไปบอกที่ร้านอาหารว่า “ไม่เคยมีประสบการณ์เลย แต่อยากเป็นเชฟ”
“สามีของเราเป็นคนแนะนำว่าเราควรเป็นเชฟนะ เลยไปเริ่มทำงานที่ร้าน Spice Market ของเชฟ ฌอง-จอร์จ วอนเกอร์ริชเทน ซึ่งเป็นเชฟที่ดังมากที่นิวยอร์กและเคยอยู่ที่เมืองไทย ในเรซูเม่ของเราบอกว่าไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลย แต่เราก็ขอให้เขาช่วยหน่อย เพราะเราอยากเป็นเชฟจริงๆ ทางร้านก็เห็นว่าเราบ้าบิ่นดี ก็เลยติดต่อกลับมาในวันรุ่งขึ้น”
ผัดไทยนี่ล่ะ…อาหารพิสูจน์ฝีมือ
“ช่วงแรกๆ เขาให้ทำอะไร เราก็เยสเชฟๆ ได้เงินค่าจ้างขั้นต่ำก็ยอม ต่อให้ทำฟรีก็ทำ เราคิดแค่ว่าอยากได้ประสบการณ์ เราอยู่ในสเตชั่นครัวเย็น มีหน้าที่หั่นผัก เรียงจาน วันแรกที่ไปโดนด่าเยอะมาก เพราะเราทำอะไรไม่เป็น จนอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนมาถามว่าหงส์มาจากเมืองไทยใช่มั้ย คิดว่าผัดไทยร้านนี้เป็นยังไงบ้าง แล้วเขาก็ให้เราลองผัดให้กิน เราก็ทำไปตามที่รู้ เตรียมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บแล้วทำซอสสดตรงนั้นเลย ตอนที่ยกมาเสิร์ฟก็อธิฐานขอให้ผัดไทยจานนี้อร่อยที่สุดในโลก พอเขาชิมก็บอกว่าอร่อยมาก มันดีมากที่เราทำให้ซอสเข้าไปในเส้นได้ มารู้ทีหลังว่าคนที่บอกให้เราลองทำผัดไทยให้เขากินคือซูเชฟของฌอง-จอร์จ (รองหัวหน้าแผนกครัว) พอกลับบ้านไปหงส์ร้องไห้เลย รู้สึกว่าในที่สุดก็ได้ทำสิ่งที่อยากทำ หลังจากนั้น 2-3 อาทิตย์ฌอง-จอร์จก็มาที่ร้าน อยากให้ลองทำผัดไทยให้เขากินดูบ้าง เขาชิมแล้วก็ชมว่ารสชาติเหมือนที่เคยกินที่เมืองไทยเลย”
ก่อร่างสร้างตัวด้วยการเปิดร้านอาหารของตัวเอง
เมื่อเชฟหงส์สั่งสมประสบการณ์ในครัวไปได้พักหนึ่ง ก็มีเพื่อนสมัยประถมของเธอก็แนะนำให้รู้จักกับรุ่นน้องซึ่งทำงานในษริษัทที่สร้างตึก One World Trade Center แล้วก็ส่งต่อไปที่เจ้านายของเขา “เราเชิญเขามาที่ร้าน ซึ่งตอนนั้นยังเป็นไซต์ก่อสร้างอยู่เลย เล่าทุกอย่างให้ฟังว่าเรามีวิชั่นแบบนี้ เขาก็บอกว่าชอบแพสชั่นของเรา และจะช่วยหาเงินทุนให้ด้วย พอดีว่าเขามีญาติทำร้านอาหารอยู่ ก็เลยไปทำอาหารให้เขาชิม เขาก็ให้เงินทุนมา แต่มีข้อแม้ก็คือถ้าเราไปไหนเขาไปด้วย นอกจากนี้ก็หาทุนจากทางอื่นๆ อีก จนร้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ก็ได้ร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์ Modern Thai Comfort Food ค่ะ”
เชฟหญิงไทยคนแรกที่ได้ออกรายการ Iron Chef America
“โปรดิวเซอร์ของรายการ Iron Chef America มากินอาหารที่ร้านค่ะ แล้วเขาก็ประทับใจมากที่เราเป็นเจ้าของร้านแล้วยังทำอาหารเองด้วย ก็เลยเสนอชื่อหงส์เข้าไปแข่งในรายการ หงส์เดินเข้าไปหลังร้านแล้วร้องไห้เลย เราทำงานวันละ 18-20 ชั่วโมง ในที่สุดโอกาสก็มาถึงเราเสียที ลังจากออกรายการไปแล้วก็มีคนมาต่อแถวรอกินที่ร้าน มีลูกค้าที่ดีๆ มากมาย ครั้งหนึ่งมีคุณพ่อจูงลูกชายวัย 5 ขวบมาถามหาหงส์ บอกว่าลูกชายเขาชื่อเชส ได้ดู Iron Chef America แล้วชอบเรามาก อยากมาเจอเรา ตอนนี้ทุกวันเกิดของเชสเขาจะต้องมาหาเรา กลายเป็นว่าเราสนิทกับลูกค้าจนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว”
อร่อยจนคนดังต้องมาต่อคิว!
“ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงท่าทางดูดีคนหนึ่งเข้ามาถามพนักงานในร้านว่าเขาต้องรอคิวนานไหม พนักงานก็บอกเขาไปว่าต้องรอประมาณ 45 นาที เขาก็ลงชื่อบอกว่าลูกสาวเขาอยากกินร้านนี้มาก พอดีว่าหงส์เหลือบไปเห็นพอดีก็เลยรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือโยลันดา ฮาดิด แม่ของจีจี้และเบลล่า ฮาดิด เขาน่ารักมากที่ยอมรอแต่เราเองก็รีบจัดการเรื่องโต๊ะให้เขา หลังจากนั้นทั้งจีจี้และเบลล่าก็มาที่ร้านเรื่อยๆ นอกจากนี้ก็มีไรอัน กอสลิ่ง และอีธาน ฮอว์ค มากินข้าวที่ร้านค่ะ”
เส้นทางชีวิตการเป็นเชฟของเธอจะเป็นอย่างไร
ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มแบบจุใจได้ในคอลัมน์ Interview
OK! ฉบับที่ 290 เดือนมิถุนายน 2560
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments
