
ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตเนื้อหอมไปอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับ ‘วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร’ นักแสดงน้องใหม่ของวงการบันเทิงที่โคจรมาจับคู่กับหนุ่มมากเสน่ห์ ‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ แสดงซีรีส์เรื่องแรกในชีวิต เพราะเราคู่กัน 2gether The Series จนเป็นที่จับตามองอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งหน้าตา ความสูง เสน่ห์ความสดใส รวมถึงฝีมือการแสดงที่จัดว่าสอบผ่านได้แบบสบาย รวมๆ แล้วจึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้ชื่อของ วิน เมธวิน จะกลายเป็นที่รักของใครหลายๆ คนไปแล้ว และไม่ใช่แค่แฟนคลับในประเทศเท่านั้น แต่เสน่ห์ของหนุ่มหล่อน่ารักวัย 21 ปีคนนี้ ยังเป็นที่ถูกตาต้องใจแฟนคลับในต่างประเทศด้วย เพราะทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายิ่งรู้จักยิ่ง (น่า) หลงรักจริงๆ
1) กินง่าย อยู่ง่าย
แม้จะโดนแซวอยู่บ่อยๆ เรื่องฐานะทางบ้าน จนเกิดเป็นแฮชแท็กฮิตติดอันดับบนทวิตเตอร์ว่า #อยู่คฤหาสน์เพื่อสังคม อยู่พักหนึ่ง แต่เอาจริงๆ วินออกจะเป็นผู้ชายที่ตรงกันข้ามกับคำว่าคุณหนูอย่างที่หลายคนจินตนาการไปไกลอย่างมาก เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนชอบกิน วินจึงเป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย และดูเหมือนเจ้าตัวจะเอ็นจอยกับอาหารทุกอย่าง เหมือนอย่างที่ไบร์ทเคยแซววินว่า เขาสามารถกินอาหารในตะกร้าที่จัดไว้หน้าผู้กำกับเพื่อทุกคนได้หมดคนเดียว! ขณะที่วินก็บอกถึงนิยามของตัวเองกับ OK! ว่า ‘นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน’ และนั่นคงไม่ผิด เพราะระหว่างถ่ายสัมภาษณ์ OK! ฉบับเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่กำลังจะออกมาเร็วๆ นี้ สิ่งที่อยู่ติดมือของวินเกือบตลอดในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำงานก็คือของกิน แต่เชื่อว่าใครที่ได้เห็นเวลาวินกินอะไรก็ตาม ก็คงรู้สึกเอ็นดู เพราะคนอะไรจะกินทุกอย่างได้มีความสุขขนาดนั้น
2) ความทุ่มเทเกินร้อย
จริงอยู่วินอาจโชคดีที่ได้รับโอกาสให้แสดงซีรีส์เรื่องนี้ แต่มันคงไม่มีทางสำเร็จได้ ถ้านักแสดงมือใหม่อย่างวิน ไม่สามารถก้าวผ่านความกลัว ตื่นเต้น และอุปสรรคทุกอย่างมาได้ แน่นอนว่างานนี้วินเองก็ต้องแบกรับความกดดันและความคาดหวังหลายๆ อย่างจากทุกคนไม่น้อย วินบอกกับ OK! ว่าเขาไม่ได้คาดหวังความสำเร็จว่ามันต้องดี แต่เขาแค่ตั้งใจและทำมันอย่างเต็มที่สุด เพื่อให้คนดูมีความสุขเท่านั้น วินใช้เวลากว่า 2 ปีในการเรียนแอ็กติ้ง แล้วภายหลังจากทีเซอร์แรกของซีรีส์เรื่องนี้ถูกปล่อยออกมา ก็มีกระแสวิจารณ์ว่าเขาไม่เหมาะกับบทไทน์ เนื่องจากดูตัวใหญ่เกินกว่าไทน์ในจินตนาการของทุกคน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะขนาดว่าเป็นคนเอ็นจอยกับการกินแค่ไหน ก็ยังสู้อุตส่าห์ลดน้ำหนักไปได้ถึง 10 กิโลกรัม! ในช่วงเวลาแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น นอกเหนือจากการใส่ใจถึงเรื่องรูปลักษณ์ของตัวละครแล้ว ผู้ชายที่ถึงขนาดลืมหายใจในตอนเข้าฉากครั้งแรก ก็แสดงออกให้เห็นถึงพัฒนาการแบบก้าวกระโดดผ่านผลงานซีรีส์เรื่องแรกที่ออกมา ซึ่งพูดแบบไม่อวย หนึ่งในความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ก็มาจากความพยายามที่จะเข้าไปสวมบทเป็น ‘ไทน์’ ของวิน เบื้องหน้ามันคือความสนุก แต่เบื้องหลังคงไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กใหม่อย่างวิน แล้วเขาก็ทำได้สุดจริงๆ ในการรับบทเป็นไทน์ที่หลายคนรัก เรียกว่าในอนาคตถ้าโชคดีได้รับบทที่ท้าทายกว่านี้ เชื่อว่าวินคงสามารถพัฒนาฝีมือการแสดงของเขาไปได้อีกไกลแน่นอน
3) หนุ่มน่ารักที่เกิดมาเพื่อแจกความสดใสให้ทุกคน
อาจต้องขอบคุณครอบครัวของวินที่เลี้ยงลูกชายคนนี้มาอย่างดีเหลือเกิน เพราะแม้จะไม่มีชีวิตใครที่ราบรื่นตลอด แม้แต่ตัววินเองก็อาจมีเรื่องเครียดๆ ให้คิดเช่นกัน เหมือนอย่างที่ไบร์ทบอกว่าน้องชายคนนี้มักมาขอคำปรึกษาเขาเวลามีเรื่องเครียดๆ แต่ที่ผ่านมาวินกลับเป็นผู้ชายที่คอยเติมเต็มความสุขให้ทุกคนเสมอ ด้วยออร่าความสดใสที่ส่งผ่านออกมาทางรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูด รวมการกระทำ ที่ทำให้ใครเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้ แล้วการเป็นคนน่ารักก็ย่อมน่าแกล้งเป็นธรรมดา ทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องเคยชินไปแล้วที่จะเห็นบรรดานักแสดงร่วมค่าย GMMTV ทวีตข้อความโต้ตอบไปมาเพื่อแซวหรือหยอกหนุ่มน่ารักของเรา นอกจากจะสร้างรอยยิ้มและเป็นสีสันแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้รู้คือวินไม่ได้เป็นที่รักแค่เฉพาะของแฟนคลับเท่านั้น แต่พี่ๆ ร่วมค่ายก็ยังเอ็นดูเขามากเช่นกัน
4) เรียนรู้และซึมซับสกิลต่างๆ ได้ในเวลาจำกัด
ด้วยความสำเร็จของซีรีส์เรื่องแรกที่มาไกลจากที่คิดไว้มาก วินจึงได้รับประสบการณ์ทุกอย่างในวงการบันเทิงที่ถาโถมมาเร็วกว่าคนอื่น แม้จะแทบไม่มีชั่วโมงบินเกี่ยวกับวงการบันเทิงนี้เลย แต่วินก็สามารถเรียนรู้และซึมซับสกิลต่างๆ จาก ไบร์ท วชิรวิชญ์ ที่เป็นทั้งพี่และพาร์ทเนอร์ในการทำงานที่ดี มาพัฒนาต่อได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ที่ทั้งต้องเจอคำถามยากๆ หรือการต้องสร้างบรรยากาศสัมภาษณ์ให้ดำเนินต่อไป ไม่ใช่แค่ให้ไม่ติดขาด แต่ต้องให้สนุก หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับวิน แต่อีกมุมเกี่ยวกับวินที่ไบร์ทเคยบอก คือปกติวินเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ (แม้จะมีพื้นฐานเป็นคนขี้เล่นและติดกวนบ้างนิดๆ) แต่นั่นหมายความว่าการต้องแสดงออกให้เป็นคนสดใส เพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน วินเองก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองในระดับหนึ่งเหมือนกัน วินเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนพูดคนเดียวไม่ได้ ดังนั้นการไลฟ์คนเดียวจึงเป็นปัญหาสำหรับเขา แต่เพราะมีแฟนคลับเรียกร้อง มีหรือหนุ่มคนนี้จะทำให้ผิดหวัง แม้ครั้งแรกจะออกมาขลุกขลักบ้าง แต่พอได้ไลฟ์ #LiveAtLunchxWin ตามโปรเจ็กต์กินข้าวด้วยกันของ GMMTV ที่ต้องพูดคนเดียวไปด้วย ทำอาหารกลางวันกินเองไปด้วย ก็ดูเหมือนวินจะเริ่มจับทางถูกและสนุกกับการพูดคนเดียวผ่านกล้องบ้างแล้ว
5) น้องชายผู้น่ารักและคอยสนับสนุนพี่เสมอ
ถือเป็น ‘คู่กัน’ ที่น่ารัก และมีเพียงแต่ความรัก ‘คั่นกู’ อย่างแท้จริง สำหรับ ไบร์ท-วิน สองพี่น้องที่ไม่เคยคิดจะชิงดีชิงเด่นกัน แต่พร้อมที่จะค่อยๆ ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน เหมือนที่เห็นคนพี่อย่างไบร์ทพร้อมที่จะสอนน้องชายคนนี้ในทุกๆ อย่าง ด้านน้องชายที่น่ารักอย่างวิน ก็ไม่เพียงตอบสนองสิ่งที่พี่สอน แล้วนำไปพัฒนาต่อ แต่ยังเป็นฝ่ายกองหนุนที่แสดงออกว่าคอยอยู่เคียงข้าง และสนันสนุนพี่ชายคนสำคัญคนนี้อยู่เสมอ นอกเหนือจากการขยันกดไลค์และตอบคอมเมนต์บนโซเชียลชนิดไวเวอร์ สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างที่สุดที่ไม่พูดไม่ได้ของทั้งวินและไบร์ท คือการใช้ชื่อเสียงของตัวเองเป็นกระบอกเสียงในการช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาอุปกรณ์การแพทย์เพื่อผู้ป่วย COVID-19, การสนับสนุนโครงการบริจาคหน้ากากและเจลแอลกฮอลล์ล้างมือเพื่อช่วยเหลือคนตาบอดทั่วประเทศ หรือการเห็นความสำคัญของปัญหาไฟป่าที่เชียงใหม่ ฟังดูอาจเป็นเรื่องน้อยนิด แต่มันกลับกลายเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ บางเรื่องก็อาจเป็นเรื่องที่หลายคนรู้แต่มองข้าม แม้ว่าทุกอย่างจะยังเพิ่งเริ่มต้น แต่ก็ต้องขอชื่นชมที่ทั้งวินและไบร์ท ไม่ได้เลือกที่จะเป็นฝ่ายรับความรักเพียงอย่างเดียว แต่ยังตั้งตัวเป็นฝ่ายให้ที่พร้อมจะส่งต่อความรักไปสู่สังคมนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วย
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments