ลืมภาพความอินดี้ร็อก โฟล์ก และคันทรี ของนักร้องหนุ่มสุดฮอตเป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ไปชั่วคราวได้เลย เพราะล่าสุดเขากลับมาพร้อมอีพีใหม่ ARGOCHINA ซึ่งประกอบไปด้วย 6 เพลง นำร่องด้วยการปล่อย “ไม่ต้องทำหรอกบุญ” ออกมาเป็นเพลงแรก พร้อมซาวด์ของดนตรีอิเล็กโทรนิกส์และฮิปฮอป ซึ่งฟังดูแปลกหูและแปลกใหม่จากงานเพลงที่ผ่านมา เนื้อหาเพลงนั้นนับว่ามีความเหน็บและกวน ส่วนมิวสิกวิดีโอก็ทั้งดาร์กและเดือดจนไฟลุก! OK! ต้อนรับความฮอตปรอทแตกของฤดูร้อนที่มาเยือนเมืองไทยในปีนี้ นอกจากหนุ่มเจ้าเสน่ห์จะมาทำให้สาวๆ ใจละลายด้วยแฟชั่นเซ็ตสุดฮอตแล้ว เขายังพร้อมพูดคุยถึงผลงานล่าสุด ทั้งงานเพลงและการแสดง ไลฟ์สไตล์ในช่วงฤดูร้อน และประสบการณ์เที่ยวที่เป็นที่สุดในชีวิต
ดนตรีและไลฟ์สไตล์สุดฮอตรับซัมเมอร์
กับศิลปินหนุ่มเจ้าเสน่ห์เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ
เพลงใหม่ของเป้ “ไม่ต้องทำหรอกบุญ” ฟังเพลงและดูมิวสิกวิดีโอแล้ว มีความโมโหและเดือดอยู่นะ ต้องการบอกอะไรคนฟัง
“ไม่ต้องทำหรอกบุญ” เป็นเพลงที่บอกว่าคุณไม่ต้องทำบุญหรอก ถ้ายังไม่ได้ทำดี ผมแต่งตอนที่เจอคนที่เขาชอบทำบุญ แต่ว่าทำตัวไม่ค่อยดี ก็เลยบอกว่าไม่ต้องทำบุญหรอกถ้ายังไม่ทำดีแบบนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมรังเกียจการทำบุญนะ ผมก็ยังทำบุญ ไหว้พระ ไหว้เจ้าตามปกติอยู่ แต่มันมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นที่เราอาจไม่ต้องไปทำบุญไกลๆ อย่างการทำให้คนรอบข้างสบายใจก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะ ภาคดนตรีมันต้องแต่งให้ดูเหมือนผมโมโหกับอะไรสักอย่าง แต่ความจริงก็แค่อยากให้คนมองเรื่องการทำบุญในอีกแบบหนึ่งน่ะ จะว่าไปผมเห็นคนที่ทำบุญเยอะ แต่นิสัยไม่ดี เขาก็ได้ดีอยู่หลายคนเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่เรื่องนี้ก็เป็นวิจารณญาณส่วนตัวนะ “ไม่ต้องทำหรอกบุญ” เป็นเพลงที่เราทำขึ้นมาเพื่อความบันเทิงและสีสัน และเพื่อพูดถึงเรื่องบางอย่างที่เราหงุดหงิดด้วย แง่หนึ่งก็ตอบโจทย์เรื่องมุมมองของตัวเอง อีกแง่หนึ่งก็หวังว่าเผื่อคนฟังฟังแล้วจะนึกถึงเรื่องนี้ดูบ้าง แบบลองเชื่อเป้มันดูบ้างแล้วกัน
เล่าที่มาที่ไปของอีพี ARGOCHINA ให้ฟังหน่อย ทำไมต้องเป็นชื่อนี้ ซาวด์เพลงก็ดูเปลี่ยนไป
หลังจากอัลบั้มเหล็กกับไม้เมื่อ 3 ปีก่อน อีพีนี้เป็นการร่วมงานกันของผม พี่ฮิวโก้ (จุลจักร จักรพงษ์) และเมฆจาก Machina (สุขุม อิ่มเอิบสิน) เลยนำชื่อของเรา 3 คนมารวมกันเป็น ARGOCHINA มาจาก Arak, Hugo และ Machina นอกจากนี้ยังได้เพื่อนๆ จากเดอะปีศาจแบนด์มาช่วยด้วย แต่เนื้อเพลงที่แต่งก็เป็นของผมเอง ตอนแรกผมไม่ได้อยากทำเพลงแนวนี้หรอก อยากทำเพลงที่ฟังดูสมัยใหม่ ออกอาร์แอนด์บีหน่อยๆ กับวงมากกว่า แต่ปรากฏว่าวันหนึ่งไปเล่นกีตาร์บ้านพี่ฮิวโก้ แล้วเขาเอาอัลบั้ม Daytona ของพุชา ที แร็ปเปอร์อเมริกันมาให้ฟัง ซึ่งอัลบั้มนั้นคานเย เวสต์ เป็นโปรดิวเซอร์ให้ ผมฟังแล้วชอบมาก พี่ฮิวโก้ถามว่าอยากลองทำเพลงแบบนี้ไหม ผมก็ได้ลองดู ซึ่งมันแทบเปลี่ยนการทำงานไปทั้งหมดเลย ด้วยดนตรีออกแนวอิเล็กทรอนิกส์ เราทุกคนก็ช่วยๆ กัน ผมส่งเพลงไปให้พี่ฮิวโก้เลือก พี่เขาเลือกมา 5 เพลง ซึ่งทุกเพลงออกแนวแสบ กวน มีนัยแฝงหมดเลย แต่ว่าแต่ละเพลงนี่ก็แตกต่างกันไปเลยนะ ทีนี้ผมเลยแอบทำเพลงที่ 6 มาเพลงหนึ่ง เป็นเพลงอกหัก เนื้อเพลงมันมาช่วงนั้นพอดี แต่เนื้อหาไม่ใช่ธีมหลักของอีพี ตอนนั้นเราทำไป 5 เพลงแล้ว เพลงที่ 6 นี้พี่ฮิวโก้เขาก็คุมอยู่ห่างๆ
นอกจากผลงานเพลง ตอนนี้ถ่ายหนังหรือละครอะไรอยู่ไหม
ตอนนี้ถ่ายละคร 2 เรื่อง คือเรื่องเกินห้ามใจไม่ให้รัก (In Time with You) และเรื่องตกกระไดหัวใจพลอยโจน สำหรับใน In Time with You ผมรับบทคนที่แอบรักเพื่อน เป็นบทน่าสงสารน่าเห็นใจ ตัวละครออกแนวเงียบๆ แต่ยิ้มๆ กับนางเอก คอยช่วยเหลือนางเอกเสมออะไรแบบนี้ ส่วนเรื่องตกกระไดหัวใจพลอยโจน เป็นละครแนวคอเมดี้ที่เป็นคอเมดี้จริงๆ ซึ่งผมไม่ได้เล่นบทแบบนี้มานานแล้ว ส่วนตัวละครอื่นๆ นี่ก็ฮาเต็มขั้นเลย
พูดถึงซัมเมอร์ อยากรู้ว่าสถานที่สุดฮอตรับซัมเมอร์ของเป้คือที่ไหน
น่าจะเป็นยิมมวยนะ ช่วงที่ผ่านมาผมเล่นยูโดและมวยปล้ำ จากนั้นมาคอเจ็บเพราะโดนรัดคอแรงเกิน ก็เลยหยุดมวยปล้ำไว้ก่อน แล้วกลับไปชกมวย ผมเลยรู้สึกว่าสถานที่สุดฮอตรับซัมเมอร์น่าจะเป็นยิมมวย ไปแล้วมันสนุก ได้ฝึกจนหมดแรงดี กลับบ้านก็มานั่งดูคลิปมวยต่อ (หัวเราะ) ที่จริงตอนเด็กๆ ผมชอบมวยอยู่แล้ว แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ชกต่อ จากนั้นก็ไปปีนเขา เล่นยูโด มวยปล้ำ แต่พอเจ็บจากมวยปล้ำ ก็กลับมาชกมวยสากลแทน
มีประสบการณ์การอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนที่สุดในชีวิตบ้างไหม
มีๆ ต้องยกให้ตอนถ่ายหนังเรื่องขุนพันธ์เลย เราไปถ่ายหนังเรื่องนี้กันที่กาญจนบุรี แล้วอากาศมันก็ร้อนมากแบบกาญจนบุรีเลย ถ้าร้อนมากๆ เหงื่อออก ตัวก็จะแฉะและเหนียว ทำให้ต้องเปลี่ยนชุดบ่อยๆ แต่ล่าสุดผมไปถ่ายละครตกกระไดหัวใจพลอยโจนที่ศูนย์วิจัยข้าวรังสิต ก็ร้อนมากเหมือนกัน ปกติอากาศเมืองไทยมันร้อนมากๆ อยู่แล้ว ถ้าร้อนตอนไปเที่ยวมันไม่เป็นไรหรอก ร้อนแบบกรุงเทพฯ แต่เราไม่ต้องทำงานไม่เป็นอะไร แต่ถ้าร้อนแล้วต้องทำงานมันมีหลายอย่างที่ต้องควบคุม เพราะเสื้อดูเปียกเหงื่อไม่ได้ หน้าเละไม่ได้ ต้องคอยทำผม แต่ถ้าจะหลบแดด เอาผมไปจ่อพัดลม ผมก็จะเสียทรงอีก เงื่อนไขการทำงานมันทำให้เราเหนื่อยหน่อยน่ะครับ แต่มันก็เป็นแบบนี่ล่ะเนอะ อาชีพนักแสดงไม่ได้สวยหรูเสมอไป
เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี และนักแสดง เป้บริหารจัดการงานแสดงและงานเพลงอย่างไร
ก็แล้วแต่คิวนะ แต่ตอนนี้รับเล่นทีละเรื่อง และผมจะกันเวลาไว้ให้ดนตรีเสมอ อย่างปีนี้ผมไม่รับงานแสดงพร้อมกัน 2-3 เรื่องแล้ว ปีที่ผ่านมาเคยรับงานพร้อมกันหลายเรื่องแล้วไม่มีเวลาเล่นดนตรีเลย มีคนติดต่อให้ไปเล่นคอนเสิร์ตก็ต้องแคนเซิล บวกกับเราออกอัลบั้มไปสักพักด้วย ซิงเกิลก็ปล่อยไปหมดแล้ว เราก็เลยแบบ OK! ยังไม่เล่นแล้วกัน แต่ตอนนี้พอจะปล่อยเพลงใหม่ เราก็มองถึงว่า OK! เราต้องรับละครประมาณนี้ อย่ารับเยอะเกินไป ไม่อย่างงั้นเราจะไม่มีเวลาเล่นดนตรี ไม่มีเวลาทำเพลง ไม่มีเวลาซ้อมเลย เพราะละครเรื่องหนึ่งใช้เวลาถ่ายทำ 3-4 เดือน บางเรื่องก็นานเป็นปีกว่าเลย
ช่วงไหนที่ตารางงานเป้แน่นที่สุด
ตารางงานผมเคยแน่นหลายช่วงเลย แต่ปีที่แล้วก็ถือเป็นปีที่น่ากลัวเหมือนกัน ผมถ่ายซีรีส์ OMG ผีป่วนชวนมารัก เรื่องนี้ใช้เวลาถ่าย 1 ปี ซึ่งชนกับตารางงานทุกอย่าง ทั้งละครบางกอกนิรมิตและหนังขุนพันธ์ 2 ขณะเดียวกันตอนถ่ายขุนพันธ์ 2 ผมต้องล่ำด้วย เลยต้องควบคุมอาหารโดยการนำข้าวกล่องไปกินที่กอง และเลิกกองถ่าย OMG ผีป่วนชวนมารัก ก็ยังกลับบ้านนอนไม่ได้ ผมต้องไปเล่นกล้ามก่อน (หัวเราะ) ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้หุ่นตัวเองดูชัด เพราะมันต้องเล่นทุกวัน มีตารางควบคุมเรื่องอาหารและการออกกำลังกายเลย นี่เป็นโจทย์ที่ผมตั้งไว้เองนะ ที่จริงเรื่องควงปืนและขี่ม้าผมเรียนมาก่อนแล้ว แต่เรื่องรูปร่างกว่าเราจะปั้นได้ตามต้องการมันไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง เราก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุดในช่วงเวลาจำกัดที่เรามี ทีนี้พอจบจาก 3 เรื่องนี้ ผมก็มีถ่ายละครเกินห้ามใจไม่ให้รัก (In Time with You) และละครรักแท้หรือแค่…รักสนุก (Club Friday The Series 8 รักแท้…มีหรือไม่มีจริง?) นับไปนับมาก็น่าจะประมาณ 5 เรื่อง ซึ่งก็ถือว่าตารางงานแน่นมากเหมือนกัน เราก็พยายามจัดการทำให้ได้ แต่งานในปีนี้ไม่น่าจะเยอะเท่านั้นอีกแล้ว
ปีหนึ่งๆ เป้แบ่งเวลาเพื่อพักเบรกจากงานมากน้อยแค่ไหน และช่วงที่ได้พักชอบทำอะไรบ้าง
ถ้ามีเวลาพักสั้นๆ ผมก็มีออกไปถ่ายแบบต่างจังหวัดแบบนี้บ้าง แล้วก็จะเที่ยวต่ออีกหน่อย นอกจากนี้ก็มีไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนๆ ซึ่งก็ไปได้ทุกที่เลย แต่ถ้าไปกับพ่อแม่ก็จะไปโซนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เพราะเที่ยวง่ายหน่อย ปลอดภัย อาหารอร่อย เดินเล่นได้ด้วย แต่ถ้าพาท่านไปยุโรป ก็อาจจะลำบากนิดหนึ่ง คงต้องไปกับทัวร์ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่เหนื่อยมาก
ส่วนตัวเป้ชอบเที่ยวแบบลุยๆ หรือสบายหน่อย
ผมไม่ได้เที่ยวแบบเถื่อนๆ ลุยๆ ผมรักสบาย เหนื่อยพอแล้ว (หัวเราะ) ก็มีเล่นเซิร์ฟบ้าง แต่เล่นเซิร์ฟมันไม่เถื่อนไง เคยมีคนถามผมว่าชอบปีนเขาที่ทิเบตหรือไปเดินผจญภัยอะไรแบบนั้นไหม แต่ผมรู้สึกคนละแบบกับเขา ผมแบบไม่ทำดีกว่า ขอเที่ยวสบายๆ หน่อย ไม่อยากไปเดินเหนื่อยๆ เอาเป็นไปกางเต้นท์นอนตามจุดต่างๆ อะไรอย่างนั้นแทนได้ไหม (หัวเราะ) แบบไม่ต้องเดินเหนื่อยเท่าไร ผมไม่ใช่คนลุยอะไรขนาดนั้นไง แต่ส่วนตัวเป็นคนชอบออกกำลังกาย
ประสบการณ์เที่ยวที่เป็นที่สุดในชีวิตของเป้คือที่ไหน
ส่วนใหญ่ผมชอบไปดูคอนเสิร์ตนะ ซึ่งประสบการณ์ดูคอนเสิร์ตที่เป็นที่สุดของผมคือ Mad Cool Festival ที่มาดริดในสเปนเมื่อปีที่แล้ว มันเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่มากจนเราเหวอ ตกใจว่าทำไมมีศิลปินมาขึ้นแสดงเยอะขนาดนี้ มีวงดนตรีที่เหมือนผมโตมากับการฟังเพลงของพวกเขามารวมกันไว้หมดเลยในช่วง 3 วันที่จัดงาน ทั้ง Arctic Monkeys, Queens of the Stone Age, Justice, Tame Impala, Nine Inch Nails, แจ็ค ไวต์, แจ็ค จอห์นสัน, ลีออน บริดเจส ฯลฯ ตอนนั้นผมไปกับเพื่อนๆ สนุกมาก เป็นประสบการณ์เที่ยวที่เป็นที่สุดของผมแล้ว และก่อนไปเราไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์กันก่อนด้วย ซึ่งเป็นเมืองที่เที่ยวและปาร์ตี้ได้ หรือแค่นั่งชิลล์ในสวนก็มีความสุขแล้ว เพราะอากาศดี เป็นช่วงซัมเมอร์ของเขาพอดี ทริปนั้นผมเลยรู้สึกมีความสุขมาก
วิธีคลายร้อนที่ดีที่สุดคืออะไร
กรุงเทพฯ มันก็มีแอร์เนอะ ถ้าเกิดว่าอยู่กรุงเทพฯ ผมคงเลือกเข้าโรงหนัง ไปดูหนังกับเพื่อนๆ นี่ก็ถือเป็นการพักผ่อนของผมอย่างหนึ่ง จริงๆ อย่างถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเล่นเซิร์ฟที่หัวหินหรือภูเก็ตผมก็ชอบนะ เพราะชอบเล่นเซิร์ฟและชอบมานานแล้ว
ติดโซเชียลมีเดียและโทรศัพท์มือถือมากไหม มีวิธีบาลานซ์เรื่องนี้อย่างไร
ติดทั้งโซเชียลและโทรศัพท์เลย พยายามหาบาลานซ์อยู่ ผมมองว่าทุกวันนี้มือถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการอัพเดตงานต่างๆ ของตัวเองและคนในวงการนะ เดี๋ยวนี้ทุกคนก็มีมือถือกัน สามารถอัพเดตข่าวคราวและชีวิตของคนดังที่ชอบได้ แต่ที่จริงผมโตมาในยุคที่ไม่ได้มีเรื่องมือถือหรือโซเชียลมีเดียอะไรเท่าไร ช่วงที่เข้ามาทำงานในวงการใหม่ๆ มันเหมือนการเก็บตัว การไม่ออกสื่อ การไม่พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หายากและเท่กว่า (หัวเราะ) แต่เดี๋ยวนี้เทรนด์เปลี่ยน เราเห็นว่าทุกคนต้องนำเสนอตัวเองในแบบที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่กลายเป็นว่าถ้าผมนำเสนอตัวเองมากไป ผมจะรู้สึกฝืนนิดๆ การตั้งกล้องแบบเซลฟี่แล้วพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าบางจังหวะมันจำเป็นก็อาจจะทำ เช่น อย่างในอินสตาแกรมผม ส่วนใหญ่ก็จะลงรูปหรือคลิปที่เกี่ยวกับงานเป็นส่วนใหญ่ ไลฟ์สไตล์ก็มีบ้าง ลงสิ่งที่เราชอบ แต่เด็กรุ่นใหม่หลายคนที่ผมรู้จักเขาดูไม่ฝืนกับเรื่องโซเชียลมีเดียลเลยนะ ผมก็มาคิด เออ เราทำไม่ได้ เราติดเก๊กอะ มันก็จะทำอะไรอย่างนั้นยากไง (หัวเราะ)
ความเก๊กนี่มาจากการไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรหรือเพราะเขิน
ความเขินล้วนๆ เลย แต่คิดว่าผมอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคนี้มากขึ้น อาจต้องทำอะไรในโซเชียลมีเดียมากขึ้น จากที่แต่ก่อนไม่ค่อยทำเท่าไร ทั้งๆ ที่จริงๆ เราทำได้มากกว่านี้น่ะครับ แต่ก็จะปรับให้มันอยู่ตรงกลางให้ได้
ในฐานะศิลปิน อยากให้แนะนำเพลย์ลิสต์สำหรับการฟังในฤดูร้อนกับแฟนๆ หน่อย ขอสัก 5 เพลงทั้งไทยและสากล
“ไม่ต้องทำหรอกบุญ” ของผมเอง เพลงนี้ต้องมีครับ, “The Games We Play” ของพุชา ที, “Bitch (You Don’t Know Me) ของแร็ปเปอร์ไทย PEE CLOCK, “Starboy” ของเดอะวีคเอนด์ และ “Wish You Were Gay” ของบิลลี่ ไอลิช หลังๆ มานี้ ผมฟังเพลงของศิลปินยุคใหม่มากขึ้น ทั้งเดอะวีคเอนด์, บิลลี่ ไอลิช อย่างที่บอกไป และก็มีแดเนียล ซีซาร์ นอกจากนี้ยังชอบแร็ปเปอร์ไทยรุ่นใหม่หลายคน ภาษาของแร็ป-ฮิปฮอปนั้นหวือหวา จังหวะก็ฟังแล้วรื่นหูไปหมด อีกทั้งยังแปลกใหม่และไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน ผมคิดว่าน่าสนใจดี
อยากให้แนะนำหนัง 5 เรื่องที่ให้ฟีลซัมเมอร์ หรือเหมาะกับการดูในวันพักร้อน
ต้องนี่เลยหนังจีนเรื่อง Youth สนุกมากๆ ภาพสวยแบบซัมเมอร์เลย องค์ประกอบทุกอย่างสวย ชอบมากครับ, หนังเรื่องดาวคะนองที่ผมเคยเล่นก็ควรดูนะ ภาพและอารมณ์ของหนังดูมีความเป็นซัมเมอร์, DIG! ซึ่งเป็นหนังสารคดีของวงร็อกอเมริกัน 2 วง คือ The Dandy Warhols และ The Brian Jonestown Massacre อยากให้ลองดูกัน นอกจากนี้ก็มีเรื่องโฮมสเตย์ของ GDH รวมทั้งขุนพันธ์ 2 เรื่องหลังนี้ตู้มต้ามร้อน ความเจ๋งของขุนพันธ์ 2 คือพี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) ผู้กำกับเขาไม่ได้ย้อมสีแดดให้เป็นประเทศอื่น เราจะเห็นแดดในขุนพันธ์ 2 เป็นแดดของกาญจนบุรี สถานที่ถ่ายทำจริงๆ คือร้อนจ้าในแบบฉบับของเมืองไทยเลย หนังไทยก็ต้องมีแดดสีอย่างนี้ ไม่ต้องย้อมสีให้เป็นแสงแดดแบบญี่ปุ่น ยุโรป หรือบราซิลอะไรแบบนั้นเลย
สาวที่ดูฮอตและเซ็กซี่ในมุมมองของคุณเป็นแบบไหน
ผมว่าต้องเป็นคนที่ไม่โชว์ความเซ็กซี่มากเกินไป อย่างเวลาเห็นคนพรีเซนต์ตัวเองว่าเขาหุ่นดีมากๆ ในโซเชียลมีเดีย บางทีเรารู้สึกแบบเขินแทนเขาน่ะ พอเราเริ่มเขินแทน ความฮอตของเขาก็จะลดลง เพราะเห็นบ่อย มันต้องวับๆ แวมๆ หน่อย ถึงจะน่าสนใจกว่า ต้องเป็นคนที่นำเสนอตัวเองแบบกำลังดี ไม่เยอะไป
ขออัพเดตเรื่องหัวใจหน่อยว่ากับคารีสา สปริงเกตต์ สาวสวยที่เรามีข่าวอยู่ด้วย ตอนนี้สถานะคืออะไร
ก็เป็นพี่น้องกันครับ
แล้วน้องใช่สเป๊กเราไหม
ผมมีสเป๊กหลายแบบเหลือเกิน อย่าเรียกว่ามีสเป๊กเลย (หัวเราะ) และผมว่าเขาก็น่าจะเป็นสาวในสเป๊กของหลายๆ คนนะครับ เขาเป็นคนสวย ใจดี นิสัยน่ารัก แต่เราเป็นพี่น้องกัน
MUSIC, MOVIES & CELEBRITIES
ชอบใครมากกว่ากัน?
รู้จักเป้ขึ้นอีกนิด ผ่าน 8 เรื่องราว ของดนตรี หนัง และคนดังฮอลลีวูด
1. Bob Dylan VS Jimi Hendrix
“บ๊อบ ดีแลน ครับ ก็ขนาดจิมี่ เฮนดริกซ์ ยังชอบดีแลนเลย (หัวเราะ) จริงๆ ดีแลนก็ชอบเฮนดริกซ์เหมือนกันนะ ที่ผมชอบดีแลน เพราะตอนเด็กๆ มีเพื่อนเอาซีดีรวมเพลงฮิตของดีแลนมาให้ผมแผ่นหนึ่ง เคยฟังครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ค่อยเก็ต ทีนี้พอเพื่อนคนนั้นไปบวชยาวแบบไม่สึก เรามีโอกาสจัดบ้านแล้วเจอซีดีแผ่นนั้นพอดี เลยหยิบมาฟังอีกรอบ ได้ฟังเพลง “The Lonesome Death of Hattie Carroll” เพลงเล่าเรื่องราวของผู้หญิงรับใช้ผิวดำที่โดนคนขาวยิงในโต๊ะอาหารโดยไม่มีสาเหตุ เรารู้สึกว่า โห ทำไมเขาเล่าได้ขนาดนี้ เป็นเรื่องราวอย่างกับข่าวในหนังสือพิมพ์เลย แล้วจบด้วยประโยคเดิม เราไม่รู้จักเพลงแนวนี้ แต่ว่ามันเพราะมาก เสียงเขาแปลกๆ ก็เลยฟังมาตลอด ดีแลนจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของผม”
2. Led Zeppelin VS The Rolling Stones
“ยากสุดๆ จริงๆ ผมชอบทั้ง 2 วง แต่ขอเลือก Led Zeppelin แล้วกัน เพราะงานเพลงของวงนี้มหัศจรรย์มาก The Rolling Stones ยังอยู่บนพื้นฐานความเป็นมนุษย์อยู่ แต่เขาก็มีสไตล์ที่เป็นของตัวเองและได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงทั่วโลก ซึ่งผมมองว่ามันเจ๋งมาก แต่ฝีมือของ Led Zeppelin ทั้งนักร้อง กีตาร์ เบส กลอง เหมือนมาจากดาวดวงอื่น ไม่ใช่มาจากโลกมนุษย์แล้ว (หัวเราะ)”
3. Arctic Monkeys VS The 1975
“Arctic Monkeys ครับ งานเพลงของ Arctic Monkeys เหมือนเป็นพลังวัยรุ่นของเรา ผมรู้จักวงมาตั้งแต่เขาเริ่มทำอัลบั้มแรก จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบงานทุกอัลบั้มของเขาอยู่ วงนี้มีเนื้อเพลงที่เฉียบขาดมากในแบบฉบับของเขา เช่น อย่างเพลง “Suck It and See” เขาบอกว่าผู้หญิงที่ใส่กระโปรงสั้นมา นั่นน่ะไม่ใช่กระโปรงหรอก แต่เหมือนเป็นปืนสั้นที่ผู้หญิงจะเล็งไปที่เขามากกว่า เนื้อเพลงคือกวนมาก (หัวเราะ) และยังมีอีกหลายประโยคในเพลงต่างๆ ของเขาที่ทำเอาผมฟังแล้วเหวอไปเลย ผมก็เลยได้อิทธิพลการเขียนเนื้อเพลงมากจากวงนี้ด้วย”
4. Game of Thrones VS The Walking Dead
“Game of Thrones ครับ เพราะเรื่องหลังไม่เคยดู (หัวเราะ) Game of Thrones เป็นซีรีส์ที่สนุกมาก ว่ากันว่าเป็นความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้ในยุคนี้เลย ผมชอบทุกอย่างของซีรีส์เรื่องนี้ ชอบถึงขนาดไปตามดูแบ็กสตอรี่ของเขา และเชื่อว่าถ้าเขาจบภาคสุดท้ายไปแล้ว เขาอาจทำภาคแยก แล้วก็คงจะน่าดูด้วย”
5. Kit Harington VS Charlie Hunnam
“เลือกชาร์ลี ฮันนัม เพราะผมดูหนังเรื่อง King Arthur ที่เขาเล่น ซึ่งมันสนุกมาก แต่ผมไม่ได้ดู Sons of Anarchy ซีรีส์แก๊งไบเกอร์ที่เขาเล่น ผมดู King Arthur แล้วแฮปปี้มาก ชอบเพราะมันสนุก กวน ส่วนคิต แฮริงตัน ในบทจอน สโนว์ ผมรู้สึกว่าเขาก็เล่นได้ดีมากเลยนะ ทำให้เราเชื่อในบทที่เขาได้รับจริงๆ แต่ถ้าถามว่าผมกรี๊ดใครมากกว่า ก็ต้องชาร์ลี ฮันนัม นี่ล่ะ”
6. Emma Stone VS Amber Heard
“เอ็มม่า สโตน ครับ เพราะถ้าเป็นแอมเบอร์ เฮิร์ด เนี่ย เห็นหน้าผมก็เห็นปัญหาแล้ว สวยขนาดนั้น! (หัวเราะ)”
7. Bohemian Rhapsody VS A Star Is Born
“A Star Is Born ครับ 70 เปอร์เซ็นต์แรกของหนัง ผมนึกว่ามันน่าจะเป็นหนังคลิเช่ป๊อปๆ รักกัน แต่พอดู 30 เปอร์เซ็นต์หลัง ผมแบบว่านี่มันอะไรกัน! ทีมงานทำหนังได้ดีมากๆ ผมชอบแบรดลีย์ คูเปอร์ ซึ่งรับบทพระเอกใน A Star Is Born ในเรื่องเขาเป็นศิลปินคันทรีร็อกที่ออกเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ แบรดลีย์เป็นคนละเอียดกับทุกองค์ประกอบ ในหนังเขาเล่นกีตาร์เองและเล่นได้จริงๆ ทุกอย่างจึงดูสมจริงมาก ส่วนเลดี้ กาก้า ซึ่งรับบทนางเอก ผมมองว่าเขาสุดยอดอยู่แล้ว หลายคนมองว่ากาก้าเล่นเก่ง ซึ่งผมก็เชื่ออยู่แล้วว่าเขาเล่นเก่งแน่นอน”
8. Dua Lipa VS Ariana Grande
“ดัว ลิปา ครับ ปีที่แล้วผมกับนั้นเพื่อนไปเทศกาลดนตรีที่สเปน วันมีหลายวงมาก ทั้ง Queens of the Stone Age, Nine Inch Nails ฯลฯ เราดูวงร็อกจนเหนื่อยมาก ก็เลยนั่งพักอยู่ไกลๆ พอดัว ลิปา ขึ้นแสดง เราไม่ได้เดินไปดูหน้าเวทีแล้ว แต่จอภาพที่ฉายออกมาคือดัวสวยฉิบหายเลย คือสวยแบบฆ่าเพื่อนน่ะ (หัวเราะ)”
[Credit]
นายแบบ: อารักษ์ อมรศุภศิริ
เสื้อผ้า: American Eagle
รองเท้า: Geox
แต่งหน้า-ทำผม: ฐปกรพัฒน์ ยุวนิช
สไตลิสต์: ศุภะกิจ หุนารักษ์
ผู้ช่วยสไตลิสต์: สุธาวัฒน์ ส่องแสง
ช่างภาพ: ทินกร วงเบญจศิลป์
ผู้ช่วยช่างภาพ: ธนพร พิกุล, ธีรภัทร รัตนกุลชัยนันท์
สถานที่: Baba Beach Club Hua Hin Luxury Pool Villa Hotel by Sri panwa โทร. 032-899-130
สัมภาษณ์: กิ่งสุรางค์ อนุภาษ
เรื่อง: ศันสนีย์ เล้าอรุณ
นักศึกษาฝึกงาน: รมย์รวินท์ ศรีแสงแก้ว
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments
