
มาเยือนเมืองไทยเมื่อช่วงต้นปี และแม้การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกจะทำให้รูล นักร้องหนุ่มสุดหล่อมีสไตล์วัย 17 ปีจากออสเตรเลีย ต้องยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งแต่เดิมมีคิวขึ้นแสดงในเดือนกันยายนปีนี้ไป แต่เรื่องดีที่แฝงมากับโรคระบาดแห่งยุคสมัย เห็นจะเป็นการที่หนุ่มรูลมีเวลาได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ในช่วงเวลาหลายเดือนของการกักตัว เขามีโอกาสทำอะไรที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ บ่มเพาะทักษะการเป็นศิลปิน รวมทั้งสร้างสรรค์งานเพลงและโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่สปาร์กไอเดียมาจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ทั้งหมดนำมาสู่อีพีล่าสุด Bright Lights, Red Eyes ที่เตรียมปล่อยออกมาให้แฟนเพลงทั่วโลกได้ติดตามกันในวันที่ 23 ตุลาคม นำร่องด้วย “As Long As You Care” ซิงเกิลคูลๆ ซิงเกิลแรกที่หลายคนคงได้ฟังกันไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน ต้องบอกว่ากลับมามีผลงานในครั้งนี้ หนุ่มรูลไม่เหมือนเดิม เขามาพร้อมลุคที่ดูโตขึ้น และสไตล์ที่มีมู้ดแอนด์โทนแบบหนุ่มสายวินเทจฮิปสเตอร์ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความคูลจัดเช่นเคย ช่วงหลายเดือนของการกักตัวจาก COVID-19 ทำให้รูลเติบโต เปลี่ยนแปลง และตกผลึกมุมมองความคิดเรื่องชีวิตและดนตรีที่เขารักไปมากน้อยแค่ไหน วันนี้หนุ่มหล่อดาเมจแรงพร้อมมาเปิดใจกับ OK! แบบเอ็กซ์คลูซีฟแล้ว พร้อมรูปสุดพิเศษที่จัดมาให้แฟนๆ OK! โดยเฉพาะ!
IN THE QUARANTINE WITH RUEL
กักตัวกักใจไปกับรูล นักร้องหนุ่มสุดฮอตมีสไตล์
อัพเดตชีวิตช่วงล็อกดาวน์
และงานเพลงล่าสุดที่มาพร้อมลุควินเทจฮิปสเตอร์

ก่อนอื่นอยากให้คุณพูดถึงงานเพลงล่าสุดให้ฟังหน่อย
ซิงเกิลใหม่ “As Long As You Care” ที่เพิ่งปล่อยออกมา และอีพีล่าสุด Bright Lights, Red Eyes ที่เตรียมปล่อยในเดือนตุลาคมนี้ ถูกแต่งขึ้นที่ปารีสเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ผมแต่งเพลงร่วมกับซาร่าห์ แอรอนส์ และ M-Phazes ในแมนชั่นสุดป่วงนอกเมือง ตอนแรกตั้งใจเก็บเพลงไว้ใส่ในอัลบั้มเต็มที่ผมควรแต่งในปีนี้ แต่พอ COVID-19 ระบาด ทุกอย่างก็ดีเลย์ไปหมดเลย จะว่าไปอีกมุมหนึ่งก็เหมือนมีข้อดีแฝงตัวมา เพราะมันทำให้เพลงเหล่านี้มีโอกาสได้ฉายแสงออกมาในรูปแบบของแพ็คเกจเล็กๆ หรือที่ผมขอเรียกว่ามันเป็น ‘ปารีสแพ็คเกจ’ แล้วกัน
มีเรื่องสนุกๆ เบื้องหลังการถ่ายเอ็มวี “As Long As You Care” มาเล่าให้เราฟังไหม คุณมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน
เอ็มวีเพลงนี้กำกับโดยเกรย์ โกสต์ (เจเรมี่ โคเรน) ซึ่งเขากำกับเอ็มวีทุกตัวของผมที่ปล่อยออกมา เขามาหาผมพร้อมนำเสนอคอนเซ็ปต์เมื่อช่วง 2 เดือนก่อนถ่ายทำ และด้วยความที่การถ่ายเอ็มวีนี้เป็นงานที่ใหญ่จริงๆ เราเลยมีเวลาเตรียมการทุกอย่างน้อยมาก เกรย์ โกสต์, เนต ผู้จัดการของผม และตัวผมเอง เลยต้องช่วยกันทำเอ็มวีนี้ให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำได้ และผมคิดว่าเราทำสำเร็จเมื่อปิ๊งไอเดีย ruelvision.tv ขึ้นมาด้วยนะ มันคือฟรีทีวีที่มีรายการโทรทัศน์มากมาย ผมและทีมงานครีเอตขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ก็หวังว่าคนที่รู้สึกแย่ๆ เซ็งๆ ในช่วงล็อกดาวน์จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ดูรายการต่างๆ จากฟรีทีวีนี้ของผม
ชีวิตในช่วงกักตัวที่ผ่านมาของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
แน่นอนว่าชีวิตช่วงกักตัวมีทั้งช่วงเวลาที่รู้สึกดีและแย่เยอะมาก ช่วง 2 สัปดาห์แรกผมเศร้าสุดๆ เพราะคิดถึงการขึ้นโชว์ การเดินทาง จริงๆ คิดถึงทุกอย่างที่ชีวิตก่อนหน้าล็อกดาวน์เคยเป็นมาก่อน แต่แล้วผมก็เกิดแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา จนสร้างสตูดิโอที่บ้านและแต่งเพลงด้วยตัวเองไว้เยอะมาก ในขณะเดียวกันก็พยายามเรียนรู้ที่จะทำเพลงอย่างพอเหมาะๆ หน่อย!
คุณทำกิจกรรมอะไรเพื่อสร้างความบันเทิง การมองโลกในแง่ดี แรงบันดาลใจ และความสร้างสรรค์ให้ตัวเอง
ผมเล่นบาสเกตบอลบ่อยมาก ฟังเพลงมากขึ้นเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทางดนตรี รวมทั้งพยายามฝึกเล่นเปียโนให้เก่งขึ้นด้วย
มีอะไรที่คุณไม่เคยทำและมีโอกาสได้ทำในช่วงล็อกดาวน์บ้างไหม
ผมคิดว่า COVID-19 สอนให้ทุกคนอดทนมากขึ้น ใช้เวลาและความคิดก่อนตัดสินใจมากขึ้น และซาบซึ้งกับสิ่งเล็กๆ ในชีวิตมากขึ้นอีกหน่อยด้วย
COVID-19 เปลี่ยนมุมมองความคิดเรื่องชีวิตและการทำงานของคุณอย่างไร
COVID-19 เปลี่ยนวิธีการสร้างสรรค์ดนตรีด้วยการบังคับให้ผมต้องอยู่คนเดียว ปกติผมมักแต่งเพลงร่วมกับโปรดิวเซอร์หรือไม่ก็นักแต่งเพลงคนอื่นในห้องด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมต้องอยู่คนเดียว ซึ่งการต้องทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียวก็ดีเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าเพลงที่แต่งเป็นส่วนตัวขึ้นเยอะ และยังมีแนวโน้มเชื่อมโยงกับเพลงมากขึ้นเยอะด้วย
ช่วงกักตัวคุณชอบฟังเพลงแนวไหน
ผมเริ่มฟังเพลงโฟล์กรวมทั้งเพลงที่ศิลปินทั้งแต่งทั้งร้องเองมากขึ้น และกลับไปฟังหนึ่งในอัลบั้มโปรดตลอดกาลของผมซึ่งเป็นอัลบั้มที่ไม่แมสส์ของศิลปินชื่อเจมส์ มอร์ริสัน ผมหลงรักอัลบั้มใหม่ Punisher ของฟีบี้ บริดเจอร์ส นอกจากนี้ยังเริ่มฟังดนตรีแนวแอมเบียนต์มากขึ้นหน่อยด้วย

อุตสาหกรรมการแสดงดนตรีสดเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างหนักมาพักใหญ่ คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
บอกตามตรงว่าผมคิดถึงการแสดงสดและการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตมากๆ เลย และผมมั่นใจว่าศิลปินนับพันคงรู้สึกเหมือนผมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผมว่ามันก็ดีที่ผมถูกบังคับให้ถอยหลังมาสักก้าว และขัดเกลาทักษะในงานของตัวเองให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นรวมถึงการแต่งเพลงด้วย
ถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ คุณอยากไปร่วมชมการแสดงดนตรีสดหรือเทศกาลดนตรีอะไร
ที่จริงปีนี้ผมกำลังจะมีโอกาสขึ้นแสดงที่เทศกาลดนตรี Lollapalooza ในชิคาโก ซึ่งตอนนั้นผมตื่นเต้นมากๆ ก็หวังว่าผมจะได้รับโอกาสนั้นอีกครั้งในอนาคต เพราะผมเสียใจมากที่ไม่ได้ขึ้นแสดงที่นั่น
ที่ผ่านมาอีเวนต์ใหญ่ในชีวิตการทำงานของคุณคืออะไร
นี่เป็นคำถามที่ตอบยากเสมอ เพราะผมรู้สึกว่าเรื่องดีๆ เกิดขึ้นได้ทุกวันในชีวิต มันยากที่จะเข้าใจว่าผมโชคดีขนาดไหนที่ที่ผ่านมาผมได้รับโอกาสต่างๆ มากมาย แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกวันนี้ตัวเองจะมีอาชีพเป็นศิลปินได้
คุณรับมือกับชื่อเสียงและการที่ผู้คนจดจำคุณได้อย่างไร
บอกตามตรงว่าหลังการระบาดของ COVID-19 ผมไม่ต้องรับมือกับเรื่องนี้เลย หรือแม้แต่ช่วงก่อนหน้านั้น การรับมือกับชื่อเสียงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากหรือวุ่นวายเกินไปจนรับมือไม่ได้ เรื่องแปลกเรื่องเดียวสำหรับผมที่ยังไม่ชินอยู่ดี คือการที่ผู้คนมากมายให้ความสนใจผมทางอินเทอร์เน็ต แต่อีกแง่หนึ่งมันก็น่าทึ่งทีเดียวที่เห็นแฟนเพลงของผมทั่วโลกมารวมตัวกันอยู่ในที่ที่เดียว
คุณหาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตท่ามกลางสายตาของผู้คนในฐานะศิลปินอย่างไร
ผมพยายามหาสมดุลของทั้ง 2 เรื่องนี้มาพักใหญ่จนแบ่งตัวเองเป็น 2 เวอร์ชั่น ผมมี ‘รูล’ ในฐานะศิลปิน (ที่ยืนอยู่บนเวที สัมภาษณ์ การพบปะ ฯลฯ) กับ ‘รูล แวนไดค์’ (ในเวอร์ชั่นที่อยู่กับครอบครัว เพื่อนๆ และอยู่บ้าน) ที่จริงผมไม่ได้เปลี่ยนตัวเองในเรื่องไหนเลยกับการสวม 2 บทบาทนี้ แต่ดูเหมือนการคิดแบบนี้จะช่วยให้ผมจัดการทุกอย่างได้ เพราะมันช่วยให้ผมไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ

ครั้งแรกที่คุณใช้เงินจากรายได้ก้อนโตคือตอนไหน จ่ายเงินซื้ออะไร
ผมยังไม่มีโอกาสใช้เงินก้อนโตเลย บางทีถ้าโตกว่านี้หน่อยและย้ายออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ผมคงได้ใช้เงินดูบ้างล่ะ
ครั้งแรกที่คุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีแฟนคลับบ้างแล้วคือตอนไหน
ครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าเริ่มมีแฟนคลับคือตอนที่เดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรก ตอนไปถึงสนามบินมีแฟนคลับราว 15 คนมารอต้อนรับผมที่เกต ซึ่งตอนนั้นผมแทบไม่มีงานเพลงออกมาเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าคิดว่าจะมีแฟนๆ มาสนใจผมมากขนาดนั้น
ยังมีที่ไหนในโลกที่คุณอยากเดินทางไปเยือนบ้างไหม
ผมยังรู้สึกอยากเดินทางไปเยือนทวีปอเมริกาใต้อยู่ ไม่อยากเชื่อว่าผมยังไม่เคยไปที่นั่นเลย แต่มั่นใจว่าถ้ามีการคลายข้อบังคับเรื่องการเดินทางเมื่อไร ผมจะเดินทางไปเที่ยวที่นั่นทันที
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย
ผมอยากขอบคุณแฟนเพลงชาวไทยทุกๆ คน ผมคิดถึงทุกคนมากๆ ผมชอบที่ได้เดินทางมาเมืองไทย คุณแสดงให้ผมเห็นว่าคุณรักผมมากจริงๆ ขอบคุณครับ และผมหวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้
Ruel’s Music at Every Moment
เพลงเพราะสุดคูลในทุกโมเมนต์ของหนุ่มรูล
เพลงโปรดของตัวเองเวลาแสดงสด >> “Free Time”
เพลงโปรดตลอดกาล >> “Pink Matter” ของแฟรงค์ โอเชียน (ft. Andre 3000)
เพลงที่อธิบายชีวิตของคุณในตอนนี้ได้ดีที่สุด >> “Middle of Somewhere” ของ The Neighbourhood
เพลงล่าสุดที่คุณคิดว่าเจ๋งมาก >> “AUATC” ของ Bon Iver
เพลงที่ฟังบ่อยสุดในช่วงล็อกดาวน์ >> “The Birthday Party” ของ The 1975
เพลงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข >> “Kyoto” ของฟีบี้ บริดเจอร์ส
เพลงที่ชอบฟังตอนออกกำลังกาย >> “Dead Leaves” ของ slowthai
เพลงที่ชอบฟังตอนรู้สึกแย่ >> “Seigfried” ของแฟรงค์ โอเชียน
เพลงที่ฟังแล้วอยากเต้น >> “Friend Zone” ของ Thundercat
เพลงที่นึกถึงเวลาปิ๊งใครสักคน >> “Ariel Love” ของแดเนียล จอห์นส์
เพลงที่คิดว่าเซ็กซี่มาก >> “New House” ของ Toro y Moi
เพลงที่เราอาจเซอร์ไพรส์ที่รู้ว่าคุณชอบ >> “Sweden” ของ C418
เพลงของป๊อปสตาร์ที่คุณชอบ >> “Flatline” ของจัสติน บีเบอร์
เพลงร็อกที่คุณชอบ >> “Momentary Bliss” ของ Gorillaz (ft. slowthai และ Slaves)
เพลงภาษาต่างประเทศที่คุณชอบ >> “Dolerme” ของโรซาเลีย
เพลงที่คุณอยากคัฟเวอร์ >> “Let Love Rule” ของเลนนี่ คราวิตซ์
เพลงที่คุณอยากส่งให้แฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ >> “Saint” ของ Cub Sport
[Credit]
Sony Music Thailand/ BEC-Tero Music
Michelle Grace Hunder
Instagram: @oneruel
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments