
ชีวิตคนเราทุกวันนี้มีแต่ความเร่งรีบ เร่งร้อน และเร่งรัด โลกยิ่งแคบลงเท่าไร ความห่างไกลระหว่างคนใกล้ตัวยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น เราเอาแต่สื่อสารกับคนไกล แทนที่จะใส่ใจคนที่อยู่ข้างๆ เรารีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ถึงเส้นชัย ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี และหากใครมาถามคุณว่า “เห็นดงดอกกุหลาบบาน ได้กลิ่นหอมหวานที่ลอยตามลมมาระหว่างทางบ้างไหม?” หลายคนคงได้แต่ส่ายหน้า เพราะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาพุ่งตัวไปยังจุดหมาย จนพลาดเก็บแต้มตักตวงความสุขระหว่างทาง มาอิ่มเอมไปกับความรื่นรมย์ง่ายๆ แค่ลองใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในเมืองใหญ่อย่างแอลเอหรือลอสแองเจลิสดูสักวัน
เมืองแห่งนางฟ้าหรือ City of Angels มหานครลอสแองเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ ไม่ได้มีดีแค่ดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซล หรือโกดักเธียเตอร์ ที่นักท่องเที่ยวตัวจริงเสียงจริงมักเห็นว่า แอลเอเป็นเมืองฉาบฉวย ฉูดฉาด ดูสวยดูรวยแต่ไร้เสน่ห์ ขาดความเป็นธรรมชาติ เหมือนดอกไม้พลาสติก ซึ่งฉันเองก็ไม่ปฏิเสธและเห็นจริงตามนั้น ทว่า… ในความหวือหวาของเมืองที่วุ่นวายแห่งนี้ ก็มีความสวยงาม เงียบสงบ น่าหลงใหลของธรรมชาติซุกตัวอยู่เงียบๆ รอผู้มาเยือนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตัว
ซานต้าโมนิกา เมืองริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกของแอลเอ ที่ฉันเชื่อว่าใครไปใครมาก็หลงรักเมืองนี้ อาจจะเป็นเพราะความพอดีที่เมืองนี้เป็น ฉันหมายถึงความทันสมัยที่เดินคู่มากับความเรียบง่าย เป็นกันเอง การอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างนักธุรกิจ ศิลปินและสังคมโบฮีเมียน ตลาดนัดยามเช้าที่เกษตรกรนำผักผลไม้ปลอดสารพิษจากไร่ของตนมาวางขาย หรือที่เรียกว่า Farmer Market แข่งกับผู้ค้ารายใหญ่ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้กับผู้บริโภค ความเร่งรีบบนท้องถนนที่เคียงคู่มากับชีวิตเดินช้า เห็นได้ว่าถนนเกือบทุกสายในเมืองนี้ จะมีการขีดเส้นแบ่งให้เป็นถนนสำหรับ คนขี่จักรยานหรือที่เรียกว่า Bike Lane ที่เรากำลังจะชมทะเล ชมนก ชมฟ้า ชมเมืองไปบนถนนคนขี่จักรยานกันค่ะ
เราจอดจักรยานและไปเดินเล่นที่ท่าสะพานซานตาโมนิกา (Santa Monica Pier) ที่อายุอานามกว่าหนึ่งร้อยปี มีสวนสนุกแปซิฟิกพาร์คอยู่บนสะพานแห่งนี้ด้วย ฉันชอบชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ริมสะพาน เพราะมันช่างสวยทั้งเวลาที่ฉันมองขึ้นไปจากฝั่ง หรือนั่งอยู่บนนั้นแล้วมองลงไปยังเมืองและพื้นน้ำ เดินไปให้สุดสะพานคุณจะเห็นคนท้องถิ่นมากมายมานั่งตกปลา กินลม ชมวิว ที่ตั้งใจมาชิวมากกว่าจะเอาปลากลับบ้าน แอบกระซิบว่าหนังโรแมนติกอย่างไททานิคก็มาถ่ายทำที่นี่ด้วย เดินเรื่อยมาถึงท่าสะพาน ลงบันไดมาริมหาดแล้วจับจักรยานปั่นไปตามทางที่ชื่อมาร์วินบารูด (Marvin Braude Bike Trail) หรือสแตรน (Strand) ที่ทอดยาว 22 ไมล์ ขนานไปกับทะเล ปั่นไปเพียงชั่วอึดใจ แวะจอดจักรยานไว้หน้าโรงแรมสีขาวสวย ชัตเตอร์ออนเดอะบีช (Shutters On The Beach) ที่ตั้งอยู่ริมชายหาด เพื่อทานบรั๊นซ์เบาๆ หรือนั่งทานอาหารเช้าสวยๆ จิบกาแฟไปพลางๆ ระหว่างมองทะเลแสนงามเบื้องหน้า เมื่ออิ่มมีกำลังวังชาแล้วก็ปั่นเจ้าสองล้อต่อไปตามเส้นทางเดิม บนชายหาดขาว คุณจะเห็นคนท้องถิ่นหนุ่มสาวหล่อๆ สวยๆ ใส่ชุดว่ายน้ำแบบทูพีชมาเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกันเต็มไปหมด มันคือสีสันบนชายหาดสวยและขอบอกว่าเมืองนี้เขาจัดสนามขึงตาข่ายไว้ให้เสร็จสรรพ ช่างน่ารักอะไรปานนี้ ปั่นต่อไปอีกนิดคุณก็จะเข้าสู่ชายหาดเมืองเวนิส ดินแดนแห่งชาวโบฮีเมียน ความเงียบจะเปลี่ยนเป็นความอึกทึกจากเสียงดนตรี
ริมทางเท้าที่มีให้เห็นอยู่ทุกระยะ เสียงเรียกให้ซื้อของทำมือจากแม่ค้าข้างทาง หรือการแต่งกายแปลกๆ แนวๆ ที่คุณจะสะดุดตาสะดุดใจ ลายเพ้นท์กำแพงสีสันฉูดฉาดคือเอกลักษณ์หนึ่งของชายหาดแห่งนี้ ถัดไปไม่ไกลคุณจะเห็นยิมของนักเพาะกล้ามขนามย่อมบนชายหาดริมทะเลชื่อดัง Muscle Beach รูปหล่อกล้ามปูเพียบ หรือคุณจะพักจิบเบียร์ดับกระหาย ก็มีร้านให้เลือกมากมายสองข้างทาง… ก่อนจะปั่นกันต่อไปเรื่อยๆ ถึงท่าสะพานเวนิสบนถนนวอชิงตัน แนะนำให้จอดจักรยานไว้แล้วไปเดินเล่นที่คลองเวนิสหรือ Venice Canals ดูบ้านสวยๆ หลากสีสันริมคลองเล็กๆ ที่คดเคี้ยวไปมาเหมือนว่าคุณกำลังอยู่ที่เวนิส ในอิตาลี จากนั้นก็ปั่นผ่านเมืองมารีน่าเดลเรย์ (Marina Del Ray) ความสวยของเส้นทางนี้อยู่ที่มารีน่าหรือท่าจอดเรือยอร์ชสวยเก๋ ปั่นออกไปสักห้านาทีคุณจะเห็นหมู่บ้านชาวประมงหรือ Fisherman’s Village อ๊ะอ่า… ให้ลืมภาพบ้านหลังคามุงจากอย่างหมู่บ้านชาวประมงในบ้านเรา เพราะของเขาเป็นหมู่บ้านชาวประมงไฮโซ ที่อาคารสไตล์เคปคอดสีลูกกวาดหลายหลังตั้งอยู่เรียงกันเป็นแนว เต็มไปด้วยร้านอาหาร กิ๊ฟช็อปเก๋ๆ ถ้าคุณอยากดินเนอร์ชมพระอาทิตย์ตกดินบนเรือยอร์ช ก็มาขึ้นเรือที่นี่กันได้เลยค่ะ
จากนั้นก็เตรียมตัวปั่นต่อไปบนเส้นทางเดิม ที่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งสีฟ้าน้ำทะเลอยู่ตรงเบื้องหน้าและริมสองข้างทาง หมู่นกนางนวลเป็นสิบๆ ตัวโผผินบินเล่น อยู่ไม่ไกล สวรรค์บนดินชัดๆ เลยค่ะ จากนั้นเราก็จะข้ามสะพานเพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังแมนฮัทตันบีช เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติลอสแองเจลิสมากๆ ถ้าคุณจะแอบไปจอดพักจักรยาน แล้วล้มตัวลงนอนบนผืนทรายขาว คุณจะเห็นเครื่องบินเทคออฟโฉบผ่านข้ามศีรษะคุณออกทะเลไปอยู่เป็นระยะๆ ฉันว่ามันคือความละมุนละไมของชีวิตเดินช้าอีกแบบหนึ่งนะคะ
ค่อยๆ ปั่น ค่อยๆ ไป ชื่นชมกับความงามและท่วงทำนองของชีวิตระหว่างทาง ที่บ้างก็สเก็ตผ่านคุณไป บ้างก็จูงมือกันเดิน พ่อลูกขี่จักรยานอยู่คู่กัน แม่อยู่ข้างหลังลิบๆ โน่น นักเซิร์ฟทั้งหลายก็ถือกระดานโต้คลื่นอยู่ริมหาด พร้อมจะกระโจนเข้าใส่ทะเลกว้างรอเวลาที่คลื่นลูกโตๆ จะพัดเข้าหาฝั่ง บ้างก็นั่งเหม่อมองไปไกลๆ บนโขดหินใหญ่ เด็กตัวน้อยวิ่งหยอกล้อ ก่อกองทรายกันไป คุณจะพลาดความงามที่เรีบบง่ายของหลายชีวิต รอบตัวคุณเหล่านี้ หากว่าคุณไม่หยุดที่จะดู ชื่นชม กับปัจจุบันขณะ
สักระยะคุณจะถึงหาดแมนฮัตตันบีช สิ่งแรกที่คุณเห็นคือสะพานที่ทอดยาวออกไป ในทะเลสีฟ้าคราม สุดปลายสะพานมีพิพิธภัณฑ์โลกใต้น้ำหรือ Round House Aquarium ให้คุณเข้าไปชมพืชและสัตว์ทะเลที่อาศัยเติบโตอยู่ในบริเวณนี้ จากนั้นก็เดินขึ้นไปยังถนนแมนฮัตตันแอฟเวนิวที่มีร้านอาหารมากมายให้คุณเลือกชิมลิ้มลอง ฉันขอแนะนำร้านฟิชชิ่งวิธไดนาไมท์ (Fishing With Dynamite) ร้านเล็กๆ ที่มีเพียงสิบห้าที่นั่งกับส่วนของบาร์ ตกแต่งร้านสไตล์บ้านริมทะเล ทุกครั้งที่ฉันไปก็จะสั่งซีฟู้ดแพล็ตเตอร์ หรือรวมอาหารทะเลนานาชนิดมาทาน ซึ่งมีทั้งกุ้งมังกรสีส้มตัวโต หอยนางรมนานาพันธุ์ กุ้งตัวใหญ่ๆ หอยตลับ ปูตัวเบิ้มที่ทั้งสด หวานอร่อย เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มกว่าห้าชนิด อิ่ม อร่อยถูกใจ สำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แนะนำให้สั่ง อาร์โนล์พาร์มเมอร์ หรือชามะนาวดีๆ บ้านเรานี่เองมาดื่มนะคะ เพราะนอกจากเวลาสั่งจะดูเป็นอเมริกันชนดีแล้ว ความเข้มข้นของชาและความเปรี้ยวของมะนาวยังตัดรสอาหารทะเลได้เหมาะเจาะลงตัวดีทีเดียวค่ะ อีกร้านที่ขอยกนิ้วให้กับความอร่อยนั่นคือร้านแมนฮัตตันบีชโพสต์ หรือเรียกสั้นๆ ว่าเอ็มบีโพสต์ ขื่อบ่งบอกถึงที่มาของขื่อร้าน นั่นก็คืออาคารนี้เคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อน เมนูเด็ดคือไก่ทอดและเนื้อย่าง ที่รสชาติมีกลิ่นอายความเป็นไทยๆ อยู่พอตัว
ทุกอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคม แมนฮัตตันบีิชจะเป็นสถานที่ทำการแข่งขันแมนฮัตตันบีชโอเพ่นวอลเลย์บอลทัวร์นาเม้นต์และเทศกาลโต้คลื่นนานาชาติ ที่หาดทั้งหาดเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของผู้เดินทางมาเยือน
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments