หลังจากได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2017 และติดอันดับ Top 5 ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ชื่อชั้นของ มารีญา พูลเลิศลาภ นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-สวีเดน ผู้พกพาความสูง 183 เซนติเมตร และความสามารถรอบด้านก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมกันนี้โครงการที่เธอมีแพสชั่นอย่างแรงกล้าไม่ว่าจะเป็นรณรงค์ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การจัดการขยะในประเทศ และสร้างความตระหนักรู้เรื่องปัญหาโลกร้อน ก็ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง มารีญาได้มีโอกาสร่วมมือกับคุณหมอที่จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ที่ได้ชื่อว่ามีอัตราผู้หญิงตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรจำนวนมากเพื่อพูดคุยถึงการป้องกัน ส่วนเรื่องขยะ ปีนี้มารีญากำลังจะมีโปรเจ็คต์กับเพื่อนๆ เพื่อปลูกฝังและชี้ให้เห็นถึงปัญหารวมถึงวิธีการแก้ไข อีกทั้งยังมีเรื่องการอนุรักษ์สัตว์เข้ามาอยู่ในพื้นที่ความสนใจอีกเรื่องด้วย
นอกจากเรื่องสังคมที่เธอให้ความสนใจและทุ่มเทแบบสุดกำลัง ในเรื่องการทำงานเธอยังแบ่งปันประสบการณ์ตลอด 14 ปีการทำงานในวงการนางแบบในฐานะเมนเทอร์คนล่าสุดของรายการเรียลลิตี้สุดฮิตอย่าง The Face Thailand Season 5 เท่านี้ยังไม่พอ เพราะเร็วๆ นี้ เราจะได้เห็นผลงานการแสดงเต็มตัวเป็นเรื่องแรกของมารีญาในบทบาทของภรรยาของหนึ่งในแฝดสยามชื่อดังเรื่อง อิน-จัน เรียกได้ว่า นางแบบปกของ OK! Summer Issue 2019 นี้ แม้ไม่ร้อนแรงแบบฮอตปรอทแตก แต่ความปรารถนาดีที่มีต่อทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้และมุมมองของเธอก็เหมือนพระอาทิตย์ยามเช้าที่มอบความสดใสและอบอุ่นให้กับเราได้เช่นกัน
1 ปีที่ใช้ชีวิตในฐานะนางงามเป็นอย่างไรและ 1 ปีหลังจากนั้น ชีวิตมารีญาเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ชีวิตของมารีญาก็เปลี่ยนไปมาก คิดว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของตัวเองเลย แล้วก็เปลี่ยนแรงขับเคลื่อนของเราด้วย เพราะตอนนี้มารีญามีพลังอย่างมากที่จะพัฒนาสังคมและประเทศของเรา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่แล้ว แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ คนอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น มีคุณหมอสูตินรีเวชท่านหนึ่งได้ติดต่อพูดคุยกับมารีญาเรื่องปัญหาผู้หญิงตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เราได้คุยกันเรื่องการวางแผนครอบครัว และคุณหมอช่วยสร้างทีมจนทำให้มีโอกาสได้ทำในเรื่องนี้โดยพาไปลงพื้นที่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรีซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตราการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรค่อนข้างสูง จากการพูดคุยกับเด็กๆ มารีญาพบว่าพวกเขามีความเป็นตัวของตัวเอง มีความรู้เรื่องนี้เยอะมาก แต่กลายเป็นว่าผ้หูญิงที่เคยตั้งครรภ์แล้ว มักจะเป็นคนที่ตั้งครรภ์อีก ก็เลยมาคิดว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งคิดว่าปัญหาครอบครัว การสื่อสารของคนในครอบครัว ช่องว่างระหว่างวัย หรือเรื่องความสัมพันธ์ การพูดคุย การช่วยเหลือการไว้ใจซึ่งกันและกันระหว่างคู่ รวมถึงความใกล้ชิดระหว่างครูกับนักเรียนที่จะให้คำแนะนำและการเคารพตัวเองน่าจะเป็นประเด็นสำคัญ ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรมากคงต้องใช้เวลาอีกสักพักในการแก้ไข ปรับความคิด ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ
ส่วนเรื่องขยะ ตอนนี้กำลังทำโปรเจ็คต์อยู่กับเพื่อนสิ้นปีนี้อาจจะมีอะไรเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นกัน มารีญามีเป้าหมายอยากจะเปลี่ยนนิสัยคนไทยในเรื่องนี้และเห็นว่าคนไทยก็อยากจะเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่มีระบบที่จะเข้ามาช่วย ตอนนี้หลายคนก็เลิกใช้หลอด งดใช้ถุงพลาสติกแต่ก็ยังไม่พอ อีกทั้งยังขาดความรู้ว่าเราสามารถทำอะไรกับขยะได้บ้าง จริงๆ หลายที่ก็อยากจะรีไซเคิล หลายที่ก็อยากจะเซฟเงิน ถ้าเขารู้ว่าสามารถนำสิ่งนี้ไปใช้อะไรอีกได้ เขาก็น่าจะนำกลับมาใช้ ปีนี้เป็นปีที่อยากจะทำโปรดักต์ของตัวเองออกมาและสร้างคอมมูนิตี้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกรีน ลีฟวิ่ง และอยากจะบอกว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะถ้าไม่มีโลก เราก็ทำอะไรไม่ได้ และตอนนี้มารีญากำลังทำเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์กับเพื่อนอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย เราจะเริ่มที่ช้างก่อน เพราะคนไทยจะคุ้นเคยกับช้างอยู่แล้ว เป้าหมาย คืออยากจะเปลี่ยนความคดิ ของคนทีมี่ต่อสัตว์ค่ะ เพราะหลายคนมักมองว่าพวกเขาอยู่คนละระดับกับเรา แต่ถ้าเรามองเห็นว่าทุกชีวิตมีคุณค่าเหมือนกัน ก็จะมีความเท่าเทียมกันและการอนุรักษ์ก็จะง่ายขึ้น
ทุกๆ เรื่องที่มารีญาอยากทำไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้แรงบันดาลใจแค่ไหนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น
ต้องใช้พลังสูงมากค่ะ ซึ่งพลังของมารีญามาจากคนรอบข้างที่เขาพร้อมซัพพอร์ตเรา และการเห็นสภาพแวดล้อมที่น่าเป็นห่วงด้วย เวลาเห็นอากาศไม่ดี อย่างเรื่องฝุ่น PM 2.5ก็รู้สึกว่าเราต้องทำอะไรแล้ว หรืออย่างเรื่องขยะตอนนี้มารีญากำลังเก็บพลาสติกที่ใช้ในบ้านเพื่อจะดูว่าเราใช้พลาสติกเยอะขนาดไหน และไม่น่าเชื่อเลยว่าขนาดเราเองที่พยายามไม่ใช้พลาสติกเลย ยังใช้เยอะขนาดนี้ ซึ่งรู้สึกว่าไม่ OK! มาก ก็เลยต้องหาวิธีที่จะบริหารจัดการให้ดีกว่านี้และอีกคนที่เป็นแรงบันดาลใจอย่างดีให้มารีญาคือ เกรตา ธันเบิร์ก เธอเป็นเด็กผู้หญิงชาวสวีเดนที่อายุเพียง 16 ปีและก่อตั้งกลุ่ม Youth Strike ซึ่งปลุกให้คนยุโรปหันมาให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะรู้ว่านี่คืออนาคตของเธอเอง เห็นสิ่งที่เธอทำแล้วรู้สึกชื่นชมมากเลยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้สนใจสิ่งแวดล้อมเริ่มมาจากอะไร
มารีญาถูกปลูกฝังเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลย เพราะคุณพ่อชอบธรรมชาติมาก ท่านชอบพาไปเดินเขา ซึ่งตอนแรกเราเป็นคนที่กลัวแมลง กลัวการอยู่ข้างนอก แต่ว่ายิ่งโตก็ยิ่งเห็นความงามของธรรมชาติ แล้วที่โรงเรียนก็จะให้ความสำคัญในเรื่องของธรรมชาติและรีไซเคิล จำได้ว่าเคยได้ดูหนังเรื่อง An Inconvenient Truth ตอนเรียนอยู่ป.6 หรือม.1 แล้วประทับใจมาก พอไปเรียนที่สวีเดนก็ได้เห็นว่าที่นั่นเขาอนุรักษ์ธรรมชาติมาก เลยกลายเป็นว่าเรื่องเหล่านี้ถูกปลูกฝังอยู่ในตัวเอง ไม่ได้มีความรู้สึกว่าเราต้องมาอนุรักษ์ธรรมชาติเพราะนี่เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่พอย้ายกลับมาเมืองไทยถึงเห็นว่าธรรมชาติของบ้านเราหายไปเยอะมากเห็นความแตกต่าง อากาศแย่ วิธีการทิ้งขยะที่ไม่เหมือนกันก็เลยอยากจะลุกขึ้นมารณรงค์เรื่องนี้
เคยคิดเล่นๆ ไหมว่าถ้าย้อนเวลากลับไปตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้ายในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ได้อีกครั้งจะตอบว่าอะไร
จริงๆ การตอบเรื่องโซเชียลมูฟเมนต์ ต้องใช้เวลาในการตอบมากกว่านี้เพราะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในหลายเรื่อง เรื่องสังคมผู้สูงอายุก็เป็นความเคลื่อนไหวหนึ่ง ถ้าย้อนกลับไปพูดได้ก็อาจจะตอบเพิ่มดังนี้ค่ะว่า เรื่องแรกยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ข้อมูลต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจจะจริงหรือเท็จก็ได้ ทั้งเรื่องผู้คน การศึกษา รัฐบาล และผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ ซึ่งข้อมูลที่เราได้มันล้นมาก ดังนั้นคนในยุคนี้จึงต้องการข้อมูลที่เป็นความจริง เรื่องต่อมาคือการเคลื่อนไหวการคุกคามทางเพศของผู้หญิงโดยเฉพาะการเคลื่อนไหว #MeToo ซึ่งทั่วโลกคงรับรู้กันดี เพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่มีจุดกำเนิดจากฮอลลีวูดที่ทำให้ผู้หญิงกล้าออกมาพูดเปิดเผยความจริงว่าถูกคุกคามทางเพศอย่างไรบ้างจากผู้ชาย ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และสุดท้ายคือเรื่องการใส่ใจในเรื่องการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ คิดว่าพวกเขาควรจะช่วยดูแลทรัพยากรของโลกเพราะทรัพยากรอาจจะไม่สมดุลกับจำนวนประชากร และไหนจะมีปัญหาเรื่องโลกร้อนอีก ซึ่งตรงนี้มารีญาคิดว่าพวกเราต้องช่วยกัน และบริษัทยักษ์ใหญ่ก็สามารถเข้ามามีส่วนในการแก้ปัญหานี้ได้ด้วยวิธีการผลิตที่เป็นประโยชน์กับโลกใบนี้ได้อย่างยั่งยืน
นอกจากงานด้านสังคมแล้วเล่าให้ฟังหน่อยว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง
ตอนนี้กำลังจะมีผลงานละครที่เล่นเต็มตัวเรื่องอิน-จัน รับบทเป็น ภรรยาของอินซึ่งเป็นฝรั่ง ทำการบ้านในเรื่องนี้เยอะเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยมีอะไรที่พูดถึงพวกเธอ มีแต่คนพูดถึงเรื่องของอิน-จัน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ทำความรู้จักด้านนี้ เพราะการเป็นภรรยาของแฝดสยามมีหลายอย่างที่ไม่ธรรมดาเลย ตอนนี้ก็มีไปเรียนแอ็กติ้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับตัวเองมาก เพราะไม่ใช่เฉพาะกับการเล่นละครที่เราต้องใช้ทักษะนี้ แต่การเรียนด้านนี้ยังฝึกพูดไปในตัวด้วย มารีญามองว่าการแสดงเป็นอะไรที่น่าลองค่ะเป็นอะไรที่ท้าทายด้วยเพราะเราก็อยากจะเติบโต อีกเรื่องคือการที่เราเล่นละครก็จะทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น คิดว่าคนจะฟังเรามากขึ้นซึ่งน่าจะซัพพอร์ตกับงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ทำอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นเมนเทอร์ใน The Face Thailand ซีซั่นล่าสุดด้วย สาเหตุที่เข้ามาเป็นเมนเทอร์ เพราะอยากจะแบ่งปันทุกอย่างที่เราได้รับจากวงการนี้ในด้านของแฟชั่นให้น้องๆ รุ่นใหม่ เพราะว่าน้องๆ มีความพยายามสูงมาก เรียนรู้ได้เร็ว และพร้อมที่จะรับอะไรหลายๆ อย่างแล้วมารีญาก็พร้อมที่จะสอน เราทำงานด้านนี้มา 14 ปีแล้ว รู้สึกว่าถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนบทบาทบ้าง ตอนนี้มารีญาจะไม่ค่อยรับงานแฟชั่นโชว์หรือทำงานด้านนี้แล้วเพราะว่าเราทำมานาน อยากจะทำอะไรใหม่ๆ และอยากให้เด็กของเราชนะค่ะ
สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการเป็นเมนเทอร์คืออะไร
รายการนี้เป็นทั้งเกมและเป็นอะไรที่เกี่ยวกับอนาคตของทีมเรา เราต้องเล่นเกมสู้กับเมนเทอร์คนอื่น และยังต้องช่วยเด็กๆ ในทีมเราเพื่อให้เขาไปได้ไกลที่สุด อยากให้เด็กของเราชนะ แล้วเราต้องมีวิธีแบ่งปันความรู้ว่าจะสอนหรือบอกเขาอย่างไร เพราะแต่ละคนก็จะเรียนรู้ได้ไม่เหมือนกันประสบการณ์ของเขาก็ไม่เท่ากัน และรายการนี้ยังยากตรงที่เราต้องมาสอนเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ภายในเวลาที่สั้นมาก แล้วยังต้องมาทำแคมเปญที่ยากมากๆ ด้วย
ตั้งแต่รับหน้าที่นี้ นอนหลับบ้างไหม
ตอนแรกๆ ไม่หลับเลย หายใจเข้า หายใจออก หลับฝันก็ยังเป็น The Face ฝันถึงเด็กๆ (หัวเราะ) ต้องคิด ต้องแพลนตลอด เตรียมรับมือกับกระแสดราม่าอย่างไรบ้าง ไม่ได้เตรียมอะไรเลย รอดูอย่างเดียวค่ะ (หัวเราะ) แต่จะไม่อ่านอะไรเยอะ เราไม่ได้โฟกัสในเรื่องนั้น แต่จะให้ความสำคัญกับทีมว่าต้องทำอะไรให้เขา อย่างอื่นก็ไปเรื่อยๆ ค่ะ
คำพูดที่มักใช้ในการผลักดันลูกทีมของมารีญาคืออะไร
ลูกทีมของมารีญาทำอะไรเกินร้อยเสมอ สิ่งที่เขาให้มารีญาคือความภูมิใจ และเราก็บอกน้องๆ ว่าเราภูมิใจ และเขาก็ทำให้เราภูมิใจตลอด นี่เป็นการซัพพอร์ตซึ่งกันและกันแบบในมุมบวก และทีมของมารีญาก็เป็นทีมคิดบวกด้วย
ชอบคำพูดไหนของเมนเทอร์คนก่อนบ้าง
มารีญาชอบทุกคนเลย ทุกคนมีความคิดที่ดีและมีประสบการณ์ที่ดีมากและยังนำสิ่งนี้มาแบ่งปันตอนนี้คิดไม่ออกจริงๆ ว่ามีคำพูดอะไรค่ะ แต่ทุกๆ ตอนเมนเทอร์แต่ละคนก็จะมีเทคนิคที่จะเข้าหาลูกทีมที่แตกต่างกันและเป็นอะไรที่มารีญาชื่นชอบ โดยรวมแล้วคงไม่ใช่คำพูดอย่างเดียวที่ชื่นชอบเมนเทอร์คนก่อน แต่ยังชอบความกล้าที่จะแสดง กล้าที่จะทำและเด็กทุกคนก็ต้องกล้าและใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ในการที่จะแสดงตาม แนวคิดของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ชื่นชอบในเรื่องของการใช้โอกาสให้คุ้มค่าที่สุดของพวกเขาค่ะ
มีการบาลานซ์พาร์ตต่างๆ ของตัวเองอย่างไรบ้าง
เรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่ลงตัวยากเหมือนกันนะคะสำหรับมารีญา ตอนนี้ก็พยายามหาเวลาให้กับตัวเอง อาจจะมีเวลาให้เรานั่งคิดตอนเช้าหรือว่าตอนเย็นเพื่อที่เราจะค่อยๆ เรียบเรียง ทุกอย่างที่เราต้องทำให้เรียบร้อย ให้ความสำคัญว่าอะไรก่อน อะไรหลัง เราจะมีเวลาแบบนี้ให้กับตัวเองทุกวัน มารีญาคิดว่าโมเมนต์ที่เราใช้คิด ใช้แพลนสำคัญ เราต้องมีตรงนี้ค่ะ
มารีญามีเคล็ดลับความสวยและมีวิธีสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างไร
2 อย่างนี้ต้องมาด้วยกัน ถ้าวันไหนที่เราไม่รู้สึกสดชื่น เราก็จะมีวิธีเมกอัพหรือแต่งตัวที่สามารถช่วยเราได้ ส่วนตัวมารีญาถ้ารู้สึกไม่สดชื่นจริงๆ ก็จะใช้การยืดกล้ามเนื้อค่ะเพราะพอเราหายใจดีขึ้นก็จะช่วยเพิ่มพลังงานการขับเคลื่อนให้กับัตัวเอง ถ้าเมื่อไรทีไม่ได้ออกกำลังกาย เช่น ห่างกันมาสัก 2-3 อาทิตย์ จะรู้สึกอึดอัดมาก เลยต้องหาเวลาออกกำลังกายให้กับตัวเองด้วย แค่ 20 นาทีต่อวันเราจะดีขึ้นจริงๆ ทั้งร่างกายและจิตใจเลย หรือถ้าสมมติไม่ได้ออกกำลังกายเลย แต่เรายังต้องการพลังก็จะจัมปิ้งแจ๊ก 30 ครั้งหรือสกอตจั๊ม การออกกำลังกายแบบที่มีการใช้พลังงานจาก 0 ไปถึง 100 หรือกระโดดเยอะๆ หรือเร็วๆ จะดีมากสำหรับหัวใจด้วยค่ะ
วันสบายๆ ของมารีญาเป็นอย่างไร
ส่วนใหญ่จะนัดคุณแม่ไปว่ายน้ำ ขอพาตัวเองไปเจอแดดบ้าง เพราะเราทำงานจะใช้ชีวิตในร่มตลอด ถ้าว่างมากกว่า 1 วันหรือมีเวลามากกว่านั้นก็จะไปที่ที่มีธรรมชาติ รู้สึกว่าตัวเองขาดเรื่องนี้ อย่างเรื่องเดินเขาเมื่อก่อนไม่ชอบเลย แต่ยิ่งโตยิ่งชอบ ล่าสุดไปที่ปางช้าง จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ไปเดินกับช้าง ขึ้นภูเขา ลงภูเขา ไปน้ำตก เป็นอะไรที่รู้สึกดีมากได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับสัตว์
แล้วสถานภาพหัวใจตอนนี้ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
หัวใจเราเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน มารีญาจะบอกว่าเราก็ดูแลหัวใจของเราอยู่ ส่วนเรื่องโสดไม่โสดนั้นขอไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย (หัวเราะ) ขอให้ปล่อยไปเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าค่ะ
ถ้าอย่างนั้นถามถึงผู้ชายในสเปกหน่อยแล้วกัน
ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนที่เข้าใจชีวิตของมารีญาและครอบครัวของมารีญาค่ะ นอกจากนี้เขายังต้องเป็นคนที่เปิดใจ รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ถึงแม้บางเรื่องอาจจะคิดไม่ตรงกันแต่เก็ต้องเข้าใจกันได้ และหัวเราะด้วยกันได้ค่ะ
*เครดิต
นางแบบ: มารีญา พูลเลิศลาภ เครื่องสำอาง: Laura Mercier เสื้อผ้า: Tory Burch ชั้น M พารากอน ดีพาร์ทเม้น สโตร์ 0-2610-7734, ชั้น G เซ็นทรัล ชิดลม 0-2655-7916, ชั้น M ดิ เอ็มควอเทียร์ 0-2003-6422 เครื่องประดับ: Cherdchai Club แต่งหน้า-ทำผม: ภคณัฏฐ์ พูลสวัสดิ์ สไตลิสต์: ศุภะกิจ หุนารักษ์ ผู้ช่วยสไตลิสต์: สุธาวัฒน์ ส่องแสง ช่างภาพ: อิทธิพล พนาสุภน ผู้ช่วยช่างภาพ: ชลนิธิ สุขอนันตธรรม สถานที่: Villa Amarisa – Luxury Collection by KPNโทร. 084-680-8046 ขอขอบคุณ: สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
