
ห้องอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นชื่อดังระดับ 1 ดาวมิชลิน “สระบัว บาย กิน กิน” ( Sra Bua by Kiin Kiin ) ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เอาใจนักชิม ด้วยเซ็ตเมนูอาหารค่ำประจำฤดูร้อนเซ็ตใหม่อย่าง ‘The Summer Journey Set Menu’ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างมิชลินสตาร์เชฟ เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน และหัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ชยวีร์ สุจริตจันทร์ นำเสนอศิลปะการปรุงอาหารไทยแนวใหม่ที่ใช้เทคนิคการปรุงอาหารจากทั่วทุกมุมโลก ผสมผสานเข้ากับวัตถุดิบไทย รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว ซึ่งทาง OK! ก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดทเมนูใหม่ๆ น่าลอง และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเอง เราก็ได้มีโอกาสไปร่วมทานอาหารเซ็ตนี้มา ต้องขอบอกว่ามันอร่อยมากๆ!! จะมีเมนูไหนน่าทานบ้างไปดูกันเลย
Sra Bua by Kiin Kiin
ก่อนจะไปดูเมนูอาหาร เราก็ต้องรู้จักที่นี่กันก่อน ซึ่ง ห้องอาหาร “สระบัว บาย กิน กิน” อยู่ภายในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ ข้างพารากอน ใจกลางสยามนั่นเอง ซึ่งเจ้าของร้านอาหารไทยแห่งนี้ คือ “คุณเลิศชัย ตรีธวัชชัยวงศ์” หนุ่มรูปหล่อ เจ้าของร้านอาหารไทยประยุกต์ระดับมิชลินสตาร์ “กิน กิน” (Kiin Kiin) ที่ได้เริ่มไปบุกเบิกร้านอาหารนี้ถึงประเทศเดนมาร์ก และเป็นร้านอาหารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รางวัล มิชลิน สตาร์ ซึ่งร่วมกับมิชลินสตาร์เชฟ “เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน” อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งร้านอาหารไทย “กิน กิน” (Kiin Kiin) ที่ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเชฟ แห่งห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน กรุงเทพ อีกด้วย
แน่นอนว่าเซ็ตเมนูอาหารค่ำประจำฤดูร้อนนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างมิชลินสตาร์เชฟ “เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน” และหัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน “ชยวีร์ สุจริตจันทร์” ที่นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นประจำฤดูกาลมาสร้างสรรค์เป็นอาหารไทยแนวใหม่สุดครีเอทีฟเสิร์ฟให้ทุกท่านได้รับประทานในเซ็ตเมนูอาหารค่ำจำนวน 8 คอร์ส

“จุดประสงค์ของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน คือการอยากให้ลูกค้าทุกท่านได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับรูปแบบการนำเสนอของแต่ละเมนู และได้ร่วมเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยแนวใหม่ที่ควรค่าแก่ความทรงจำ” กล่าวโดย เชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ หัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน “ขอเรียนเชิญลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมอิ่มอร่อยและเพลิดเพลินไปกับศิลปะการปรุงอาหารไทยแนวใหม่ที่นำเทคนิคการปรุงอาหารจากทั่วทุกมุมโลกมาผสมผสานเข้ากับวัตถุดิบอาหารไทย รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นควรค่าแก่การได้มาลิ้มลอง”
The Summer Journey Set Menu
ขณะที่รออาหาร OK! ก็สังเกตบนโต๊ะก่อน ทั้งผ้าเย็นที่ช่วยให้สดชื่น พวงมาลัยต้อนรับสวยงามมาก และแน่นอนว่าแอบส่องเมนูก่อนเลยว่าจะมีอะไรบ้าง ทั้งหมดนับได้ 8 เมนู ไม่รวม เมนูต้อนรับ กับของหวานที่ทางร้านเตรียมเซอร์ไพรส์สำหรับการทานเซ็ตนี้ด้วยนะ
ทูน่าทาร์ทาร์เสิร์ฟในดอกบัว น่ารักมาก แต่ต้องจับดอกบัวก่อนแล้วค่อยทานอาหารที่วางอยู่ข้างใน เรียกน้ำย่อยเบาๆ

เมนูแรก เรียกน้ำย่อนก่อน ก็คือ เมนูน่ารักๆ ที่มีกิมมิคให้เล่น เค้าบอกว่าเมนูนี้คล้ายๆ มาม่าต้มน้ำกุ้ง ซึ่งเค้าจะให้เราฉีด แป้งที่อยู่หลอดลงในน้ำซุปต้มยำกุ้งในถ้วย แล้วทาน ซึ่งเอาตามตรงแล้ว ก็ตามที่เค้าบอก คือรสชาติคล้ายมาม่าต้มยำกุ้งแต่ละมุนกว่า ส่วนสีขาวนั้น เหมือนเป็นแป้งนุ่มๆ ไปทางครีมเลยก็ว่าได้ เมื่อสัมผัสกับน้ำ ทานคู่กับข้าวเกรียบกุ้ง 100% กับชิ้นเล็กๆ ข้างกัน เหมือนเป็นทอดมันกุ้ง แต่ก็คือเนื้อกุ้งเหมือนกัน ทานแล้วเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว

มาถึงอาหารเรียกน้ำย่อยแสนอร่อยอย่างสลัดแตงกวาปลากะพงแดง ราดด้วยน้ำยำตำมือสดใหม่ จะเห็นว่าตอนแรกปลากระพงถูกหุ้มไว้ด้วยสายไหม จากนั้นก็นำน้ำยำมาราด ซึ่งนำย้ำนั้นมีความหอมเปรี้ยวเผ็ด ของพริก ใบมะกรูด และมะนาวได้อย่าลงตัว เมื่อสายไหมละลายหมด ทำให้ความหวานจากสายไหม กลืนเข้ากลับน้ำยำ ทานคู่กับกระพงได้อย่างอร่อยเลยล่ะ (ชิ้นเล็กไปหน่อย อยากทานชิ้นใหญ่ๆ)

เมนูถัดมา เล็กกระทัดรัดมากก เมนุๆ คล้ายๆ ห่อหมกปู แต่ความดีงามคือ คำเล็กๆ นั้น อร่อยมาก ซึ่งทานคู่กับซอสแกงที่อยู่ข้าง หวานเผ็ดกำลังดี และแอสปารากัส ที่ทางเชฟบอกว่า เป็นผักที่เค้าชอบมาก เค้าจึงเลือกใช้วัตถุดิบชนิดนี้ ในอาหารเซ็ตใหม่ของเค้านั่นเอง

ต่อไปเป็น ทูน่าทาร์ทาร์ หรือเมนูปลาทูน่าดิบหมักกับเมล็ดงาในซอสถั่วเหลืองน้ำแข็งใส คือชอบไอเดียมาก เพราะต้องเคาะน้ำเข็งด้านบนก่อนกิน ซึ่งเค้าบอกว่าแรงบันดาลใจเมนูได้มาจากเมื่อตอน ที่เชฟเฮนริกได้ไปประเทศญี่ปุ่น และได้ไปตลาดปลา เค้าก็เลยบอกว่า ปลาดิบ ต้องเสิร์ฟแบบเย็นๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่ และทำให้อร่อยขึ้น ดังนั้นเมนูนี้ จึงเป็นปลาดทูน่าดิบเย็นๆ เหมือนทานน้ำแข็งใส มีความเปรี้ยว+เค็มของซอส โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าเค็มไปนิดนึง แต่ก็ชูรสชาติได้ดีทีเดียว

ทานเบาๆ ไปก็เยอะละ ขอเมนูหนักๆ หน่อยละกัน สำหรับเมนูนี้ ก็คือ เนื้อลูกวัวเสิร์ฟพร้อมสัปปะรดดองและซอสเปรี้ยวหวานตะไคร้ที่ให้รสชาติอร่อยเข้มข้น ไม่ต้องอธิบายหรอก คืออร่อย ทานหมดภายในไม่กี่วิทันที เนื้อลูกวัวนุ่มกำลังดี ทานคู่กับซอส พร้อมสัปปะรดดอง คือฟินค่ะ

จากที่ได้กินอาหารฝีมือเชฟมิชลิน มาหลายที่ หลายประเทษ ขอบอกว่า เมนูนี้ อร่อยยยยมากกกกก โดนใจข้ายิ่งนักเจ้าค่ะ กับเมนูเนื้อนกกระทานุ่มๆ ในต้มข่าที่หอมอร่อยกลมกล่อมสุดๆ ทานคู่กับข้าวสวยแล้ว นี่แหละ สวรรค์อาหารชาวไทย เป็นต้มข่านกกระทาที่อร่อยมาก เชฟบอกว่าส่วนใหญ่เรากินแต่ไข่นกกระทา เมนูนี้จึงอยากใช้วัตุดิบอย่างนกกระทา ที่หลายๆ คนคุ้นเคย

เอาล่ะ อาหารคาวหมดไปแล้ว มาต่อกันที่ของหวานเลยดีกว่าาา!! ของหวานเมนูแรก คือไอศกรีมที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้ มีการใช้ผักและดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เมื่อเปิดฝา ก็จะได้กลิ่นทันที ไอศกรีมเสิร์ฟพร้อมครีม นุ่มละมุ่นหวานตราตรึงมาก

ต่อด้วยเมนูขนมหวาน อย่างซูเฟล่พิสตาชิโอ ให้รสชาติหวานอร่อย เเสิร์ฟมาบนขอนไม้ ดูเก๋ไก๋มาก ไอศกรีมใบเตยที่หวานกำลังดี ทานคู่กับถั่วพิสตาชิโอ และขนมหวานประดับ พูดได้คำเดียวว่า อร่อยมากค่ะ
ตบท้ายด้วยเซอร์ไพรส์ของคอร์สนี้ กับ Petit Fours สุดสร้างสรรค์ ขนมชิ้นเล็กๆ ที่ถูกดัดแปรงให้คล้ายกับวัตถุดิบของไทย ไม่ว่าจะเป็นหิน พริก ซินนาม่อน รวมไปถึงเลโก้ ของเล่นชื่อดังจาก ประเทศเดนมาร์ก จะหยิบจับเจอขนมที่ถูกเลียนแบบ หรือเจอวัตถุดิบของจริงก็ต้องลองเสี่ยงหยิบดู ทำให้เซ็ตอาหารค่ำนี้มีความอร่อย สนุกสนาน และประทับใจในทุกเมนูอย่างแน่นอน
เซ็ตเมนูอาหารค่ำประจำฤดูร้อน (The Summer Journey Set Menu) นี้ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2561 โดยจะมีราคาอยู่ที่ 3,200 บาท++ สำหรับอาหาร 8 คอร์ส เวลา 18:00 น. ถึง 24:00 น. (สั่งเซ็ตเมนูได้ถึงเวลา 21:00 น.) *ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อท่าน ยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10% ด้วยะจ๊ะ
ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน เปิดให้บริการมื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 12:00 น. ถึง 15:00 น. และมื้อค่ำเวลา 18:00 น. ถึง 24:00 น. โดยมีให้เลือกทั้งในแบบเซ็ตเมนูและอาหารจานเดี่ยว (a la carte)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรืออีเมล์ srabua.siambangkok@kempinski.com เลยนะคะ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments