คนเอเชียมีสภาพผิวแตกต่างจากคนทางฝั่งยุโรปและอเมริกา ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความงามจึงต้องตอบโจทย์ในทุกปัญหาผิวของสาวเอเชีย อย่าง Sulwhasoo แบรนด์ความงามระดับพรีเมียมจากเกาหลี ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นในเรื่องการดูแลผิว ด้วยพลังจากธรรมชาติส่วนผสมจากเอเชียเพื่อสาวเอเชียอย่างแท้จริง
ซึ่งครั้งนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับคุณจี๋-หฤดี วรพงศ์พิสุทธิ์ Brand General Manager ผู้ใช้ประสบการณ์กว่า 20 ปี ในแวดวงบิวตี้ขับเคลื่อนโซลวาซูให้น่าตื่นเต้นอยู่ ตลอดเวลา ที่สำคัญในปีนี้ โซลวาซู ยังมีแผนออกโปรดักส์ใหม่ๆ ให้แฟนๆ ใช้กันหลายผลิตภัณฑ์เชียวค่ะ
ทำไมถึงต้องมาเป็น Sulwhasoo
จากการทำางานในแวดวงความงามมามากกว่า 20 ปี ผ่านการทำางามาแล้วหลากหลายแบรนด์ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงานคือความตั้งใจและความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด โดยแบรนด์โซลวาซู นั้นเป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ของเกาหลี ซึ่งในประเทศไทย เราถือว่ายังเป็นเด็กที่เพิ่งหัดเดิน ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากเราอายุแค่ 6 ขวบเท่านั้น แต่แบรนด์อื่นเข้ามาในไทยมากกว่า 30 หรือ 40 ปี ซึ่งความตระหนักรู้เกี่ยวกับแบรนด์โซลวาซูยังถือว่าน้อย เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือต้องสร้างความตระหนัก ไม่ใช่แค่ให้คนรู้จักอย่างเดียว แต่ต้องให้ลูกค้ารู้สึกว่าดีและอยากใช้อยู่เสมอ
Sulwhasoo แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่ำงไร
ความแตกต่างคือโซลวาซู เป็น Holistic Brand โดยการนำเอาตำรับยาสมุนไพรที่อยู่ในแถบเอเชียมาใช้ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงแค่ในเกาหลี ซึ่งการใช้คำว่าเกาหลีเหมือนเป็นการจำกัดตัวเองอยู่ในวงแคบโดยโซลวาซู มีสโลแกนว่า Holistic Beauty from Asian Wisdom เราต้องการเป็นตัวแทนแห่งความงามด้วยศาสตร์แห่งเอเชีย โดยเลือกใช้สมุนไพรที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในแถบนี้นำมาวิจัยค้นคว้าและสกัดเพื่อให้ได้ส่วนผสมที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้เป้าหมายของเราคือต้องการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ซึ่งในตอนนี้ทางโซลวาซู ได้ขยายตลาดมาในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 หรือ 4 ของโลก ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่เราคิดค้นออกมามีความเหมาะสมกับผิวของคนเอเชียแน่นอนโดยเฉพาะคนไทย ซึ่งเขามีสถาบันวิจัยที่คอยพัฒนาและปรับปรุงสูตรอยู่เสมอ
Sulwhasoo ในความคิดของคุณเป็นอย่างไร
โซลวาซู จะเป็นผู้หญิงที่มีความอนุรักษ์นิยมแต่ในขณะเดียวกันก็ดูทันสมัย แม้เหมือนจะหลงใหลในวัฒนธรรมดั้งเดิมแต่ก็รู้จักการประยุกต์นำสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมาปรับใช้ได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของเรา เพราะเราเลือกใช้สมุนไพรตำรับยาโบราณ นำมาผสมผสานเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าย้อนกลับไป หากเราไม่รักษาอดีตอันเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามเอาไว้ สิ่งเหล่านั้นก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา ซึ่งเปรียบได้กับงานศิลปะอันทรงคุณค่าที่ทุกประเทศไม่ว่าจะเป็นชาวตะวันตกหรือเอเชียต่างก็พยายามอนุรักษ์สิ่งที่เป็นรากเหง้าของตัวเองเอาไว้ อาทิเช่น ผ้าไทยที่มีดีไซเนอร์หลายท่านนำมาออกแบบประยุกต์ใช้ให้ดูทันสมัย สามารถใส่ได้ในปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์ของ Sulwhasoo มีกี่กลุ่ม เป็นอย่างไรบ้าง
กลุ่มหลักๆ ของ โซลวาซู จะมีอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกคือ Essential เป็นเบสิคสกินแคร์สำหรับผู้ที่เริ่มต้นในการดูแลผิว ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะมีสมุนไพรที่เรียกว่า “ชาอึมดัน” เป็นส่วนผสมหลัก ที่ประกอบไปด้วยสมุนไพร 5 ชนิดที่ขึ้นเป็นมรดกโลกเกี่ยวกับตำรับยาโบราณ มีรากโกฐขี้แมว รากดอก โบตั๋นจีน เมล็ดบัวหลวงอินเดีย ดอกลิลลี่ขาว และโซโลมอนส์ ซีล ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น เปล่งประกาย
ต่อไปเป็นกลุ่มของ Snowise สโลแกนของกลุ่มนี้ คือ Volume Brightening ที่ช่วยให้หน้าดูสวยเปล่งประกาย กระจ่างแสงแบบมีวอลุ่ม คือไม่ใช่ผิวที่ขาวขึ้นอย่างเดียว โดย เราไม่ใช้คำาว่า Whitening เพราะว่าไม่มีการไปทำให้เม็ดสีผิวจางลง แต่เป็นความกระจ่างใสที่ออกมาจากสีผิวของเราจริงๆ ส่วนผสมสำคัญคือโสมขาวซึ่งเป็นโสมสด และไม่มีส่วนผสมของกรดวิตามินซีใดๆ ดังนั้นคนที่แพ้วิตามินซีสามารถใช้ได้
ถ้าหากเป็นโสมแดงจะเป็นส่วนผสมหลักในกลุ่มของ Ginseng ซึ่ง เป็น โสมที่ผ่านกรรมวิธีสตีม ด้วยการสกัดส่วนที่ดีที่สุดของโสมออกมาโดยใช้ทุกส่วนของโสม ตั้งแต่ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล ไปจนถึงเมล็ดโสม เพื่อดึงเอาสรรพคุณที่ดีที่สุดของแต่ละส่วนออกมารวมกัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้มีบางคนที่อาจจะแพ้กลุ่มนี้อยู่บ้าง เพราะโสมมีฤทธิ์ร้อน มีความเป็นหยาง ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยเราเป็นเมืองร้อนจะมีความเป็นหยางสูง ทางแบรนด์จึงพยายามปรับเพื่อให้ได้ความบาลานซ์เหมาะกับสภาพผิวของคนไทยและยังคงประสิทธิภาพ ช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย
ส่วนคนที่กังวลในเรื่องของความหย่อนคล้อย ก็จะเป็นกลุ่มของ Timetreasure เป็นกลุ่มที่มีส่วนผสมหลักจากสนแดง ถือเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดของประเทศเกาหลี เพราะค่อนข้างหายากมีอยู่แค่ทางฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้เท่านั้น สนแดงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวยาวนาน สี่ฤดูแต่ก็ยังคงสีเขียวชอุ่มไม่เปลี่ยนแปลง ต่างกับสนในแถบยุโรปที่ช่วงหิมะจะเหลือแต่กิ่งก้าน ด้วยเหตุนี้ทางแบรนด์จึงนำความลับของสนแดงมาวิจัยและพัฒนาจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งที่ถือว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นหน้าตา ของประเทศก็ว่าได้ เพราะล่าสุดประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ได้นำเซ็ต Timetreasure เป็นของขวัญมอบให้กับสตรีหมายเลขหนึ่ง ภริยาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ครั้งเมื่อเดินทางไปสานสัมพันธไมตรี ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นเซ็ตของขวัญระดับประเทศ
ตัวที่ท็อปที่สุดของแบรนด์โซลวาซู ตัวที่ท็อปที่สุดคือ Harmonizen Regenerating Cream เป็นการรวมสุดยอดสมุนไพร 9 ชนิดไว้ในกระปุกเดียว เรียกว่ารวมทุกสรรพคุณและตอบทุกโจทย์ปัญหาผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องลึก รวมไปถึงต้องการปรับสมดุลผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ยังอุดมไปด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นอีกด้วย
แล้วในส่วนของเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง
โซลวาซู เป็นผู้นำเทรนด์ “Makeup No Makeup” ซึ่งในปัจจุบันนี้จะเน้นการแต่งหน้าให้ดูใส บางเบา แลดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี ไม่เน้นสีสันที่ฉูดฉาดเหมือนแต่ก่อน โดยในกลุ่มเมกอัพเรามีทั้งคุชชั่น แป้ง บลัชออน ลิปสติกที่เน้นความสดใส บางเบา แต่ในปี 2019 เราจะเพิ่มในส่วนของเมกอัพพาเลตต์ อายแชโดว์ และลิปสติก ที่มีสีหลากหลายและมีความชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ยังคงคุณสมบัติของการบำรุงอยู่ก็จะมีอายไลน์เนอร์มาเสริมทัพด้วยในปีนี้ เรียกว่าตอบโจทย์สาวสวย สุขภาพดี ให้ยิ่งดูเพอร์เฟกต์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด และแนะนำว่าต้องมี
ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีจริงๆ ของโซลวาซู คือ First Care Activating Serum พรีเซรั่มที่ใช้เพื่อบำรุงเป็นขั้นตอนแรกและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปให้ดียิ่งขึ้นอีก 3 เท่า แต่ถ้าคุณไม่อยากนอกใจแบรนด์ที่คุณใช้อยู่ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้เสริมเป็นขั้นตอนแรกได้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าใช้คู่กับสกินแคร์ของเราแล้วละก็ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะทวีคูณขึ้น ส่วนอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีและอยากแนะนำก็คือ คุชชั่นสูตรต่างๆ ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่า อมอร์แปซิฟิค ผู้ผลิตแบรนด์โซลวาซูเป็นบริษัทที่คิดค้นคุชชั่นขึ้นมาเป็นรายแรกและยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ฉะนั้นรับประกันได้เลยว่าคุชชั่นของเราดีที่สุด ซึ่งส่วนผสมของคุชชั่นแต่ละสูตรก็จะมีสารบำรุงที่ช่วยในการดูแลและป้องกันผิว เพราะฉะนั้นบางคนอาจจะไม่อยากทาครีมบำรุงหลายๆ ชั้น หรือขี้เกียจทากันแดดในระหว่างวัน ใช้แค่คุชชั่นของเราก็เอาอยู่แล้วค่ะ
เคล็ดลับความงามในแบบฉบับของคุณ
ต้องยอมรับว่าดิฉันได้เปรียบกว่าคนอื่นอยู่นิดหนึ่ง เพราะอยู่ในวงการความงาม (หัวเราะ) เลยเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสและยอมเสียเวลากับการดูแลผิว สำคัญตั้งแต่สเต็ปแรกเลย คือการล้างหน้า อย่างน้อยถ้าขี้เกียจจริงๆ ก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด มีการเตรียมผิวก่อนการบำรุง และอย่างน้อยต้องมีการลงสกินแคร์สัก 1 ชั้น เพราะไม่อย่างนั้นผิวจะอ่อนล้า และเมื่อเซลล์ผิวไม่ได้รับการบำรุง ก็จะร่วงโรย โดยส่วนตัวแล้ว พออยู่ในวงการนี้ ก็จะรู้วิธีการทาครีมให้ถูกวิธี คือไม่ใช่แค่แปะๆ ทาถูๆ เพียงอย่างเดียว เราจะรู้แนวของกล้ามเนื้อ จึงมีการนวดหน้าไปด้วย เพื่อกระตุ้นและให้ครีมซึมซับเข้าไปได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์เองก็เปรียบเสมือนการนวดหน้าไปในตัวทุกวัน ดังนั้นการใส่ใจและให้เวลากับผิวคือคีย์เวิร์ดสำคัญในการบำรุงหน้าของดิฉันค่ะ
ผลิตภัณฑ์ใหม่และเทรนด์ใหม่ในปี 2019
บอกเลยว่าปีใหม่นี้มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์เยอะแยะเลยค่ะ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนมกราคมนี้ จะมีคุชชั่นใหม่ Sheer Lasting Gel Cushion ด้วยเนื้อสัมผัสแบบซอฟต์แมตต์ที่ตอบโจทย์สาวไทยมากๆ และยังมีสกินแคร์ไลน์ใหม่ Bloomstay Vitalizing ซึ่งเป็นไลน์สีชมพู โดยมีวางขายที่เกาหลีแล้ว ด้วยส่วนผสมหลักที่มาจากพลัมบลอสซั่ม ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์โซลวาซูด้วยคุณสมบัติที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านอากาศที่หนาวเย็นจนกระทั่งหิมะละลาย ดอกพลัม ก็ยังคงผลิบานอวดสีชมพูสดใส และมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูงมากโดยดอกตูมสีเขียว ซึ่งกล่มุ นี้จะเหมาะกับสาวๆ ที่เริ่มกังวัลเรื่องริ้วรอยแรกเริ่ม หรือคนที่ใช้ไลน์อื่นๆ ของเราอยู่แล้วก็สามารถใช้กลุ่มนี้ไปเสริมได้ นอกจากนี้เทรนด์ที่เกาหลีช่วงนี้สกินแคร์จะเน้นแบบรวดเร็วใช้ตัวเดียวจบ ไม่ชอบความยุ่งยาก หลายขั้นตอน เราก็จะมีครีมออกมาใหม่เป็นครีมที่ทาสเต็ปเดียวแล้วจบเลย ผิวดูโกลว์ สวยฉ่ำ ดูสุขภาพดี รับรองว่าถ้าได้ลองทาครีมใหม่นี้หรือเปิดใจให้กับ โซลวาซู สัก 1-2 สเต็ป รับรองว่าคุณจะมีผิวสวยสุขภาพดี และจะหลงรัก “Sulwhasoo” แบบไม่รู้ตัวเลยละค่ะ
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
