เปิดทุกมุมมองในวันที่เติบโตของ ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล

เปิดทุกมุมมองในวันที่เติบโตของ ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล

การห่างหายไปจากหน้าจอของ ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล นางเอกหน้าไทย นัยตาเซ็กซี่กินเวลากว่า 7 ปี จนทำให้เราแอบคิดว่าตั๊กคงวางมือจากงานเบื้องหน้าและหันไปทำงานเบื้องหลังพร้อมทำหน้าที่ภรรยา และเป็นคุณแม่แบบเต็มตัว แต่ในที่สุดตั๊กก็หวนคืนวงการอีกครั้ง เรียกได้ว่าในช่วงเวลานี้ชีวิตตั๊กลงตัวทุกอย่างทั้งในเรื่องครอบครัว การทำงาน รวมทั้งรูปร่างใหม่สุดเป๊ะที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่งว่าเธอทำได้อย่างไร วันนี้เราจะมาเปิดทุกมุมมองใหม่ของตั๊ก บงกช ในบทบาทแม่ ภรรยา และนักแสดงที่กำลังจะกลับมาให้ผู้ชมได้ชื่นชมอีกครั้ง

 

 

ตั๊กไม่ได้รับละครมาประมาณ 7 ปีแล้ว และเพราะอะไรถึงตอบรับบท “เจ้าจอมกินรี” ในละครเรื่องลายกินนรี

เป็นความสุขที่ได้กลับมาแสดงค่ะ อยากให้ดูเพราะไม่เคยได้รับบทแบบนี้มาก่อน และเป็นเพราะค่ายแอคอาร์ตด้วยค่ะ อยากให้ทุกคนรอติดตามนะคะ สนุกมากค่ะ

 

 

ที่ผ่านมาเคยมีที่อื่นเสนอบทอื่นๆ ให้กับตั๊กด้วยหรือเปล่า

มีค่ะ แต่ตั๊กอาจจะยังไม่เหมาะกับบทบาทนั้น อีกอย่างพอแต่งงานแล้วสามี (คุณบุญชัย เบญจรงคกุล) ก็เข้ามามีส่วนในการดูแลงานให้ด้วย อย่างเรื่องลายกินรีเป็นเรื่องที่คุณบุญชัยชอบ เพราะเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ ชอบหนังหรือละครพีเรียด รวมถึงชอบดูซีรีส์เรื่อง Game of Thrones มาก เขายังบอกเลยว่าตั๊กควรเล่นละครหรือหนังแนวพีเรียดเพราะเป็นคนหน้าไทย ส่วนข้าวหอมลูกชายตั๊กยังไม่อยากให้แม่ทำงาน แต่พยายามทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้หายไปจากเขา พี่อ๊อฟ พี่แดง (พงษ์พัฒน์ ธัญญา วชิรบรรจง) ก็ช่วยตั๊กด้วย โดยวันไหนที่มีตั๊กจะถ่ายเก็บซีนที่มีเราเยอะมาก

 

 

ก่อนหน้าที่จะมาแสดงละครเรื่องนี้ ตั๊กได้ทำงานเบื้องหลังในฐานะเขียนบทและกำกับในเรื่อง Sad Beauty เพื่อนฉัน ฝันสลาย ด้วย ได้รับประสบการณ์ดีๆ อะไรจากเรื่องนี้บ้าง

อย่างแรกคือเรื่องบริหารจัดการเวลา, ปัญหาเฉพาะหน้า, งบประมาณ ในเรื่องนี้ตั๊กเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับคุณบุญชัย ส่วนในการกำกับในพาร์ทฆาตรกรรมมีพี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) มากำกับให้ เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม เราก็ต้องคิดว่าอยากได้แบบไหน ฟลอเรนซ์ (วนิดา เฟเวอร์) มีเวลาอยู่ไทยไม่นานด้วย ตั๊กก็พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าเรื่องไหนไม่ได้ก็เข้าใจได้ นอกจากการทำงานที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ตั๊กเชื่อว่ามนุษย์เราต้องเรียนรู้ทุกวันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าชีวิตจะเหมือนกันในทุกๆ วัน แต่ไม่มีวันไหนหรอกที่อารมณ์ต่างๆ หรือคนที่เราเจอจะเหมือนเดิม เราก็ต้องฝึกที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้และคอยมองหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิตได้เรียนรู้ เพราะเราก็อยากจะเป็นคนที่อายุเยอะอย่างมีคุณภาพ และการเปลี่ยนแปลงที่เห็นง่ายที่สุดคือลูกค่ะ ข้าวหอมโตขึ้นทุกวัน เขาก็จะมีอะไรมาท้าทายให้เราปรับตัวตลอด

 

 

จากนางเอกร้อยล้าน วันหนึ่งตั๊กแต่งงานและมีลูก ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหน

ชีวิตตั๊กเปลี่ยนไปมาก ยิ่งพอมีลูก สิ่งหนึ่งที่ตั๊กหยุดไปเลยคือการดื่มแอลกอฮอล์ การไม่ดื่มทำให้เรามีสติในการดูแล ปกป้องลูกได้แบบเต็มร้อย เราตั้งใจเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ตั๊กรักและหวงลูกมากถึงขนาดที่วันที่ส่งลูกไปโรงเรียน เราอวยพรลูกว่าโชคดีมีชัยนะลูก (หัวเราะ) เราไปถึงขั้นนั้นเลย อีกอย่างการใช้ชีวิตคู่กับคุณบุญชัยก็ทำให้เราเติบโตทางความคิดหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น การเลี้ยงลูก ถ้ามีอะไรตั๊กต้องตัดสินใจเองในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ยกหูหาสามีอย่างเดียว

 

เรื่องไหนที่ตั๊กอยากปลูกฝังให้ลูกเป็นพิเศษ

เรื่องคุณธรรมค่ะ คนไหนที่เป็นคนมีคุณธรรม มีความกตัญญู รู้คุณ คนๆ นั้นจะเจริญ ไม่ว่าจะมีระดับการศึกษาใดก็ตาม เรื่องนี้สำคัญ เพราะถ้าไม่รู้จักผิด ชอบ ชั่ว ดี คุณคือคนที่น่ากลัว และสามารถทำผิดได้ง่ายมาก ตั๊กจะไม่สอนลูกแบบใช้ประโยคคำสั่ง เช่น อย่าหรือห้าม แต่จะบอกหรือพูดให้เขาคิดเองมากกว่า ข้าวหอมก็จะเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าอะไรควรหรือไม่ควร

 

 

เวลาที่ตั๊กเลี้ยงลูก มีช่วงไหนที่คิดถึงแม่บ้างไหม

มีค่ะ ช่วงไหนที่ตั๊กพูดสอนลูกเยอะๆ อธิบายเรื่องต่างๆ ให้เขาฟัง ตั๊กจะนึกถึงแม่ เพราะแม่ตั๊กเขาก็จะเป็นแนวนี้ คือจะคอยสอนเรา บอกเรา แล้วตั๊กจะบอกแม่ว่า แม่พอเถอะ เข้าใจแล้ว ซึ่งข้าวหอมก็จะพูดกับตั๊กคล้ายๆ แบบนี้ เวลาที่เราพูดเรื่องไหนบ่อยๆ

 

 

ได้นำคำสอนของคุณแม่เรื่องไหนมาสอนน้องข้าวหอมบ้าง

การเป็นตัวของตัวเองค่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขามาปรึกษาตั๊กว่าเขาทำผิดแล้วเพื่อนโกรธเขา แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เราก็เลยแนะนำว่าถ้าข้าวหอมขอโทษเพื่อนแล้วแต่เพื่อนไม่ให้อภัย ก็ไม่ต้องไปตามตื้อ เพราะเราได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว เราต้องรู้ว่าควรทำอะไร แค่ไหน หรือถ้าเราอยู่ในกลุ่มแล้วเพื่อนสั่งให้ทำอะไรโดยที่เราไม่มีความเป็นตัวของตัวเองก็อย่าทำ และข้าวหอมเองก็เหมือนยายในหลายๆ เรื่อง เช่น ชอบพบเจอกับคนในสังคม พูดคุยกับคนโน้น คนนี้ ไม่กลัวคน บุคลลิกของเขาเหล่านี้ทำให้คลายความคิดถึงแม่ลง เหมือนมีเขามาเป็นตัวแทนแม่เรา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตั๊กแอบร้องให้คิดถึงแม่ ข้าวหอมเองตอนนั้นอายุประมาณ 4 ขวบก็ถามตั๊กว่า หม่าม้าร้องไห้ทำไม เราก็บอกกลับไปว่า หม่าม้าคิดถึงยายมากเลย เขาก็บอกว่าคุณยายก็อยู่ที่สร้อยตรงคอของหม่าม้าไงครับ เพราะตั๊กจะมีลอคเก็ตรูปแม่ห้อยติดคอตลอด ครั้งนั้นเหมือนข้าวหอมบอกตั๊กเป็นนัยยะว่าคุณยายก็อยู่ในความทรงจำของเรา อาจจะเป็นการตีความของเราเองแต่ก็ทำให้ตั๊กรู้สึกดีขึ้น

 

 

เรื่องไหนที่คิดว่าลูกเหมือนตั๊ก

เขาชอบดูหนังและเป็นหนังสไตล์อินดี้ที่เป็นแบบที่ตั๊กชอบ ส่วนการ์ตูน ข้าวหอมชอบวีนอม (Venom) ก๊อตซิลล่า เอเลี่ยนและอย่างหลังนี่สะสมด้วย ตั๊กเคยคุยกับลูกว่า เอเลี่ยนไม่ใช่พระเอกนะ ข้าวหอมก็บอกว่า ไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกว่ามันเท่ดี เลยคิดว่าเขาน่าจะมีจินตนาการทางด้านศิลปะด้วย แล้วมุมที่เหมือนคุณบุญชัยคือชอบสะสมศิลปะเหมือนกันค่ะ

 

 

ตอนที่ตัดสินใจแต่งงานและมีลูก ตั๊กคิดที่จะออกจากวงการเลยหรือเปล่า

เมื่อก่อนคิดนะคะ แต่ก็บอกกับตัวเองว่าออกมาทำงานได้แล้ว อาจเป็นช่วงหนึ่งที่เธอต้องออกมาทำงานด้านการแสดง เพราะเป็นช่วงอายุที่ตั๊กน่าจะทำงานได้หลากหลาย

 

ทำไมสนใจเรียนเรื่องเขียนบทและกำกับด้วย

ตั๊กไปเรียนแอคติ้งกับหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) พอเรียนไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีเรื่องที่เราอยากจะเล่า แต่เราต้องเล่าให้รู้เรื่องด้วย ซึ่งภาษาพูดกับภาษาเขียนต่างกัน เราต้องเรียนก็เลยเริ่มเรียนเขียนบทกับหม่อมน้อย ส่วนเหตุผลที่เรียนกำกับการแสดงด้วยก็เพราะถ้าเราเข้าใจแอ็คติ้ง เราจะบอกนักแสดงได้ว่า อารมณ์นี้ต้องทำประมาณนี้

 

 

ถ้าจะมีโปรเจ็กต์ต่อไปตั๊กอยากจะเล่าเรื่องราวแนวไหน

ตั๊กชอบทำหนังที่เกี่ยวกับผู้หญิงค่ะ คงจะเล่าเรื่องนี้ แต่คิดว่าจะเขียนเป็นหนังสือก่อนที่จะมาทำภาพยนตร์ เพราะทำงานง่ายกว่าเนื่องจากหนังสือบอกไว้หมดแล้ว ซึ่งตั๊กอยากเขียนเกี่ยวกับผู้หญิงที่รู้จักในชีวิต จะมีแม่ ยายที่เลี้ยงลูก 10 คนซึ่งยายเลี้ยงลูกได้ชิลล์มาก มีเรื่องคุณทวดซึ่งเราได้ฟังเรื่องของท่านผ่านคุณยาย เรื่องของผู้หญิงในหลายๆ เชื้อชาติ

 

 

ถามเรื่องความรักบ้าง เคล็ดลับกระชับความสัมพันธ์ตลอด 7 ปีที่ใช้ชีวิตคู่กับคุณบุญชัยคืออะไร

เรามีอะไรที่ชอบเหมือนกันค่ะ เราเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน ก่อนมีลูก เรื่องความโรแมนติกนี่คุณบุญชัยชนะตั๊กเลยนะ อย่างช่วงวันวาเลนไทน์จะมีดอกไม้ให้กัน ไปดินเนอร์กัน นั่งกุมมือกัน แต่พอมีลูก เราทุ่มความรักทุกอย่างให้กับลูกทั้งหมด แต่ก็มีเราด้วย เช่น ระหว่างกินข้าว ก็ดูลูกทำโน่น ทำนี่ แต่ก็จะจับมือกัน กินข้าวกัน เล่าสารทุกข์สุขดิบให้ฟังว่าวันนี้ใครไปทำอะไรมาบ้าง มีโมเมนต์ดีๆ ให้กันทุกวัน ซึ่งยังจำได้เลยว่าตอนที่เจอคุณบุญชัยก็ไม่ได้คิดว่าต้องเป็นแฟนกัน มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเลย เหมือนรู้จักกันแบบพี่น้องมากกว่า แต่พอคุยกันไปได้สักพัก ก็เห็นว่ามีมุมมองคล้ายกัน แล้วตั๊กเองก็ถูกมองว่าเป็นนางเอกที่มีภาพอีโรติกเยอะ ดังนั้นการที่จะเลือกคู่ครองมาอยู่ด้วยกันสักคน ก็อยากคุยกับคนที่ดูหนังเป็น ดูภาพเป็น มองเห็นร่างกายเหมือนเป็นงานศิลปะ เขาชอบความสวยงามในสังขารมนุษย์ นอกจากนี้เขายังรู้จักงานของเขาทุกชิ้น แล้วยังชอบวรรณกรรมไทย เขาทำให้เห็นว่า เขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจอย่างเดียวแต่ยังมีมุมอื่นและรสนิยมของเขาก็ก้าวหน้ามาก ที่สำคัญเขาเป็นคนที่เข้าใจโลก เข้าใจคนอื่น เวลาเราคุยกันจะคุยแบบเรียลเลย พอรู้จักกันไปเรื่อยๆ ก็คุยกันมากขึ้น จนในที่สุดก็ตกลงเป็นแฟนกันประมาณ 4 เดือนถึงจะเป็นข่าว

 

 

การใช้ชีวิตคู่กับคุณบุญชัยทำให้ตั๊กเติบโตทางด้านไหนบ้าง

อยู่กับใครก็จะคล้ายกับคนนั้นนะคะ หลักๆ คงเป็นเรื่องโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น หรือการวางแผนชีวิตทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่สิ่งที่เขาบอกตั๊กตลอดคือทำวันนี้ให้ดีที่สุด อยากจะทำอะไรให้รีบทำ นอกจากนี้เขายังเป็นที่ปรึกษาที่ดี เป็นกำลังใจ บางทีเราทะเลาะกันเขาก็จะบอกว่า พอ หยุด ไม่ทะเลาะดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะทะเลาะไปทำไม เราก็จะกลับมานั่งคิดและก็เห็นเหมือนกันว่าจริงเนอะ พออารมณ์ดีแล้วค่อยคุยกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาจะมีวิธีสอนตั๊กโดยการรอให้เราพลาด ซึ่งจะรอเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ใจเย็นมาก (หัวเราะ) เรื่องเหล่านี้มักเป็นเรื่องที่เขาเคยเตือน จากนั้นเขาก็บอกว่าทุกอย่างคือการเรียนรู้ แล้วตั๊กก็ได้เรียนรู้แล้ว ซึ่งก็ใช่เพราะพอผ่านเรื่องนั้น เราก็จะบอกกับตัวเองว่า ต่อไปนี้ถ้าจะทำอะไรต้องไตร่ตรองให้ดีกว่านี้

 

มาถึงอีกเรื่องที่ตั๊กได้รับการพูดถึงกันมากคือรูปร่างฟิตและเฟิร์มที่เห็นได้ชัดมาก จุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มปฏิวัติตัวเองมาจากอะไร

ตั๊กเคยทำน้ำหนักสูงไปถึง 93 กิโลกรัม ตอนนั้นเราเริ่มเครียดเพราะแม่ป่วย เข้าโรงพยาบาล เราก็เฝ้าแม่และนั่งกินไปเรื่อยๆ ซึ่งพอเห็นว่าเราน้ำหนักสูงขนาดนี้ แล้วมีอาการบ้านหมุนด้วย เลยลดลงมาให้เหลือ 87 กิโลกรัมภายใน 1 อาทิตย์ จนพอถึงตอนที่แม่เสีย คนก็ได้เห็นตั๊กผ่านสื่อ ผ่านโซเชี่ยล ซึ่งคนที่เข้ามาคอมเมนต์ก็ไม่ได้เข้ามาพูดเรื่องแม่อย่างเดียว แต่ยังคอมเมนต์ถึงหุ่นของตั๊กที่อ้วนด้วย ประกอบกับอาการบ้านหมุนก็ยังไม่หาย คือตั๊กเดินอยู่บนลู่วิ่งในความเร็วแค่ 4 ยังต้องเกาะขอบข้างๆ เลย ทั้งหมดนี้บอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้คงเดินจูงลูกลงบันไดเลื่อนไม่ได้แน่ ต้องกลับมาตั้งหลักใหม่แล้ว ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องความสวยงามเลย คิดว่าเราต้องมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อลูก อยากดูแลเขาให้ดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เขานั่งเล่นไป แล้วเราก็นอนอย่างเดียว เรายังไปเล่นกับเขาได้ อุ้มเขาได้ พาเขาออกไปเที่ยวได้ และลูกก็ไม่อายเพื่อนด้วย ก็คิดว่าจะทำยังไง เพราะต้องไม่กลับมาโยโย่ คุณบุญชัยเลยแนะนำว่าเขามีเพื่อนเป็นเชฟที่ไปทำอาหารให้นางงามจักรวาลและเปิดสถาบันดูแลเรื่องอาหารให้กับบุคคลที่มีน้ำหนักมาก ตั๊กก็สนใจและอยากให้เขาช่วย เลยไปเจาะเลือดและส่งไปตรวจ จากนั้นเขาก็ส่งเอกสารกลับมาแจ้งว่ากระบวนการเผาผลาญของตั๊กแย่มาก คุณต้องเริ่มจากการตั้งสติและบอกกับตัวเองว่าคุณอาจจะต้องพบจิตแพทย์ในระดับหนึ่งเพื่อกำลังใจ คุณอย่าเพิ่งออกกำลังกาย จะต้องกินอาหารที่ถูกกับกรุ๊ปเลือดของตัวเอง ซึ่งปรากฏว่าตั๊กกินแป้งไม่ได้ กินข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้นิดหน่อย แต่กินคีนัวร์ได้ ส่วน แป้งข้าวโพด นม ไข่แดง ไข่ขาว ถั่วแดง ฯลฯ กินไม่ได้เลยเพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายเราติดขัด ถ้าอยากให้กระบวนการเผาผลาญอ่อนวัยต้องเว้นอาหารเหล่านี้ ก็เลยมากินอาหารที่เหมาะกับเรา ซึ่งเขาจะลิสต์มาให้เลยว่ากินอะไรได้บ้าง อย่างสมุนไพรนี่กินได้ทุกอย่าง แกงส้ม แกงเลียง น้ำพริก ปลาทู ผักต้มกินได้หมด พอใช้ชีวิตแบบนี้กระบวนการเผาผลาญดีขึ้น เพราะเราควบคุมแคลอรี่ พอน้ำหนักลดลงถึง 70 ถึงได้เริ่มออกกำลังกาย

 

 

โปรแกรมการออกกำลังเป็นอย่างไรบ้าง

ตั๊กไม่เดินลู่ แต่เริ่มเดินข้างนอกกับลูก แล้วร่างกายของเราฉลาดมากค่ะ เพราะพอน้ำหนักลงมาที่ 68 มันจะบอกเราว่าวิ่งเหยาะๆ นะ ตอนนั้นข้างในใจบอกตัวเองว่าไปได้อีก แล้วยังมาได้แรงบันดาลใจจากพี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) ให้ออกมาวิ่งอีก ทุกอย่างมันผลักดันให้ลุกขึ้นมาฟิตมากขึ้น แล้วก็เล่นพิลาทิสเพื่อกระชับหุ่นให้เข้ารูปมากขึ้น

 

 

ระหว่างนี้มีช่วงเวลาไหนที่ต้องพึ่งจิตแพทย์

มีช่วงหนึ่งที่น้ำหนักคงที่ค่ะ ตอนนั้นก็พยายามมากและคาดหวังกับตัวเลข ชั่งน้ำหนักทุกวัน พอมันคงที่ก็เริ่มเครียด เลยไปพบจิตแพทย์ เขาก็บอกว่าจะคาดหวังกับตัวเลขไม่ได้ และอย่าหมกมุ่นกับมันมากเกินไป เพราะกว่าจะอ้วนขึ้นมา ก็ใช้เวลาในการกินเยอะเหมือนกัน ดังนั้นพอจะลดน้ำหนักก็ต้องใช้เวลา ทำไปเรื่อยๆ แล้วร่างกายจะนำไขมันที่เก็บไว้มาใช้เพราะไม่มีอะไรเติมเข้าไป ดังนั้นเราจึงต้องให้ร่างกายไปดึงไขมันที่สะสมมาใช้ก่อน แล้วก็ออกกำลังกาย กินแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งพอถึงเวลาที่น้ำหนักลงจะลงฮวบเลย ตักต้องใช้เวลาในการอดทนประมาณ 6-8 เดือน แล้วก็เห็นผล เพราะจากที่เคยหนัก 87 ก็ลดลงมาถึง 70 ค่ะ คือระหว่างลดน้ำหนัก ตั๊กปรึกษาหมอตลอด

 

 

ครอบครัวแสดงความคิดเห็นอย่างไรกับรูปร่างใหม่ของเราบ้าง

ข้าวหอมชมว่าหม่าม้าสวย ส่วนคุณบุญชัยตกใจว่าตั๊กทำได้อย่างไร (หัวเราะ) ซึ่งในการลดน้ำหนักนี่ก็ต้องอาศัยความเข้าใจของคนในครอบครัวหมือนกันนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นวันครบรอบแต่งงานปีที่ 5 ของเรา คุณบุญชัยก็ชวนตั๊กไปกินข้าว ในขณะที่ตั๊กอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คือถ้าตั๊กไม่กินดินเนอร์วันนี้ซึ่งเป็นวันสำคัญ พรุ่งนี้น้ำหนักเราจะลงไปอีกเลขหนึ่งแล้ว จาก 67 อาจจะไปอยู่ที่ 65 แต่คุณบุญชัยก็ย้ำว่า ต้องมานะเพราะจองร้านอาหารอิตาเลียนไว้ เชฟจะทำเมนูพิเศษให้เลยนะ เราก็บอกว่าถ้าอยากให้เราลดน้ำหนักสำเร็จ คุณบุญชัยก็ต้องช่วยตั๊กด้วย แล้วก็ถามว่าเชฟมีแป้ง Spelt ไหม (หัวเราะ) เท่านั้นแหละคุณบุญชัยก็โกรธขึ้นมาทันทีแล้วบอกว่า อะไรที่มันตึงไปก็ไม่ดีนะ ตั๊กต้องรู้จักการใช้ชีวิตที่พอดี พอเราฟังก็โมโหขึ้นไปอีก แต่ไปๆ มาๆ ก็ไปกับเขานะคะ ซึ่งพอไปถึงตั๊กก็ยืนบัตรที่เขียนรายละเอียดว่าเราแพ้อะไรบ้างให้เชฟดู เขาก็ปรุงอาหารที่เราไม่แพ้ให้กิน แต่ละเมนูอร่อยมาก และสามารถกินได้อย่างสบายใจ มื้อนั้นก็เลยผ่านไปได้ด้วยดี คุณบุญชัยก็แฮปปี้ค่ะที่เราแก้สถานการณ์ได้

 

 

พอหุ่นเราดีขึ้น เสื้อผ้าก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย ตอนนั้นตั๊กเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับตัวเองอย่างไร

ตั๊กเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่ค่อนข้างหลากหลายค่ะ เป็นการเลือกชุดแบบสปอร์ตที่ไปดินเนอร์ได้ด้วย อย่างลุคที่ถ่ายกับ OK! วันนี้ก็เป็นอีกสไตล์ที่ชอบทุกลุคเหมือนกัน ชุดที่ชอบที่สุดและคิดว่าใส่ได้จริงคือชุดสีเขียว เพราะใส่ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะไปรับลูก ไปดินเนอร์ แฟชั่นวันนี้เป็นแฟชั่นที่ใส่ได้จริงค่ะ

 

มีรูปร่างในฝันที่อยากได้ไหม

ตั๊กอยากมีหุ่นแบบแอนเจลีนา โจลี แต่เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเผ่าพันธุ์เราไม่เหมือนเขา เราบรรพบุรุษที่มีกรดูกใหญ่ ไม่บอบบาง ตั๊กเป็นคนที่แกนกลางลำตัวกว้าง มีกล้ามเนื้อ เลยได้บทบางระจันไงคะ พอจับดาบปุ๊ปใช่เลย (หัวเราะ)

 

 

ไอดอลในการออกกำลังกายของตั๊กเป็นใคร

เจนนิเฟอร์ โลเปซค่ะ เขาเป็นผู้หญิงที่หุ่นกระชับมาก คิดว่าคงออกกำลังกายเยอะมาก ตอนที่เขาโชว์ในงาน Super Bowl 2020 มันโชว์ความแข็งแรงและหุ่นที่เป๊ะของเขามากเลย

 

 

แล้วเรื่องโลกโซเชียลล่ะ มีมุมมองอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง เพราะครั้งหนึ่งตั๊กก็เคยหยุดเล่นไปเลยเหมือนกัน

ไม่ว่าเราจะเป็นดาราหรือไม่ก็ตาม ถ้าจะเล่นโซเชียลต้องใจนิ่ง ถึงจะไม่ได้เปิดกว้าง มีแค่คนไม่กี่คนในกลุ่ม แต่เราก็ต้องมีโลกทัศน์ที่กว้าง อะไรที่ไม่ดีกับความรู้สึกเราก็แค่ลบ ปล่อยมันไป ให้ตัวเองรู้ว่าเรากำลังเจอคนที่หลากหลายความคิดอยู่ เราคอนโทรลไม่ได้ นอกจากลบเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาเห็นแล้วเข้ามาถกเถียงกันแทนเรา ส่วนเรื่องปิดโซเชียลตอนนั้นปิดแค่อินสตาแกรมนะคะ ไม่ได้ปิดเฟซบุ๊ค ซึ่งก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังมีน้ำหนักเยอะด้วย เพราะฉะนั้นคงไม่ดีแน่ ถ้าเราต้องหมกหมุ่นกับตัวเองแล้วเล่นโซเชียลไปด้วย อารมณ์เราคงไม่ OK! เท่าไร แต่ที่กลับมาเล่นอีกครั้ง เพื่อแชร์ประสบการณ์และสุขภาพ

 

 

ชีวิตที่ผ่านมาของตั๊กได้เจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย คุณสมบัติสำคัญที่ทำให้เราผ่านเรื่องนี้มาได้คืออะไร

จริงๆ เป็นเรื่องของบารมีแม่ตั๊กนะคะ เขาเคยบอกว่า แม่ไม่ต้องการอะไรในชีวิตเลย ขออย่างเดียวคืออยากให้ตั๊กดูแลตัวเองได้ ทันคน ทันโลก วันที่ตั๊กแต่งงาน แม่ให้พรว่าขอให้ตั๊กมีสติ แต่พูดกับคุณบุญชัยว่า แม่ฝากด้วยนะ ตั๊กไม่ค่อยทันใครหรอก ซึ่งเป็นจริงเพราะเราเป็นคนที่ไม่ซับซ้อนเลย

 

 

ถ้าวันนี้ตั๊กมีโอกาสบอกตั๊กในวันที่เพิ่งเข้าวงการ จะบอกว่าอย่างไร

ตั๊กจะบอกว่า บงกชเธอกำลังจะเจอคนหลากหลายแบบ ทั้งคนรัก คนไม่ชอบ คนโกง เธอต้องฟังแม่เธอให้มากนะ (หัวเราะ)

 

 

นอกจากแม่ มีผู้หญิงแบบไหนที่ตั๊กชื่นชอบ และตั๊กมีไอดอลไหม

ตั๊กชอบสการ์เลตต์ โจแฮนสัน เขาชอบรอยสักเหมือนตั๊ก เพิ่งเห็นว่าเขาเพิ่งไปสักรูปนกอินทรีย์ตรงหน้าท้องช่วงบน และสักเป็นรูปสร้อยข้อมือที่ข้อมือตัวเอง สักรูปมาริลิน มอนโร ตรงท้องแขน ซึ่งเขาเลือกรอยสักและจุดที่เหมาะกับเขาดี ตั๊กเองก็มีรอยสักเหมือนกัน และสการ์เลตต์ก็เป็นไอดอลของตั๊กด้วย ชอบเมาท์ลูกเหมือนกัน และมีหนังที่มีฉากเซ็กซี่ด้วย เขาเป็นได้ทั้งผู้หญิงที่เซ็กซี่ และผู้หญิงที่เข้มแข็ง อย่างตอนที่เป็นแบล็ก วิโดว์ ก็เท่มาก หรือตอนที่เล่นเรื่อง Lucy ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่บู๊ได้แบบลงตัว ไม่ดูเก้งก้างเลย

 

 

มีมุมมองอย่างไรในเรื่องสิทธิสตรี

ตั๊กมองว่าการล่วงละเมิดทางเพศ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ต้องคุ้มครอง จริงๆ ผู้หญิงเราเข้มแข็งอยู่แล้วเพียงแต่อย่าไปทำร้ายจิตใจและร่างกาย ของพวกเธอ ในมุมมองของตั๊ก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันผู้หญิงเป็นเหมือนกองหนุนในทุกๆ เรื่อง สมัยก่อนตอนที่มีสงคราม ผู้หญิงมีหน้าที่หาเสบียงไว้ดูแล เป็นเหมือนคนที่ปิดทองหลังพระ ใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ มาถึงยุคนี้ผู้หญิงก็มีหน้าที่หลากหลายมากขึ้น เลี้ยงลูก ดูแลสามี ทำงาน ตั๊กรู้สึกว่าผู้หญิงมีจิตใจที่เข้มแข็ง แต่ในเรื่องกำลังกายก็ต้องพึ่งผู้ชาย เราต่างต้องพึ่งพากันและกัน ถึงจะขับเคลื่อนชีวิตไปด้วยกันได้

ในขณะที่หลายคนมองว่าตั๊กลงตัวในทุกๆ ด้านของชีวิต แต่สำหรับตั๊กมองตัวเองอย่างไร

ตั๊กยังต้องเรียนรู้ทุกอย่างให้มากขึ้น คนที่มีพร้อมทุกอย่างไม่มีหรอกค่ะ เพียงแต่เขาไม่ได้บอกเท่านั้นเอง เรามีสามี มีลูก เราโชคดีที่มีครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่ในสิ่งที่ตั๊กยังไม่รู้คือ ลูกของเราจะเติบโตขึ้นไปอย่างไร สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด สอนให้ลูกมีศีล 5 เพราะนี่คือสิ่งดีที่คนๆ หนึ่งต้องมี ลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา ก่อนหน้าที่จะมีลูก เรายังคิดไม่ออกหรอกว่าจะเป็นแม่แบบไหน ตอนนั้นคิดประมาณว่า เราคงแค่ให้ชีวิตเขา และยังนั่งเถียงกับแม่เลยว่า แม่แค่ให้กำเนิดตั๊ก แต่แม่จะมาบอกให้ตั๊กทำโน่น ทำนี่ไม่ได้นะ ต้องให้อิสระตั๊กสิ แม่ก็บอกว่า แต่แม่ทนไม่ได้ที่เห็นหลุมอยู่ตรงหน้าแล้วจะปล่อยให้ลูกเดินตกลงไป เพราะฉะนั้นปล่อยให้แม่พูด ห้าม บอกเถอะ เพราะแม่เองก็ไม่รู้ว่าจะฉุดลูกขึ้นมาได้ไหม และพอในวันที่ตั๊กเป็นแม่ ตั๊กเข้าใจแม่ทุกอย่าง และอยากบอกแม่ว่า ตั๊กจะเป็นทั้งแม่และเพื่อนกับหลานของแม่ จะอยู่กับเขาเมื่อเขาต้องการเสมอ ส่วนการเลี้ยงดู ในช่วงที่แม่เลี้ยงตั๊กกับช่วงที่ตั๊กเลี้ยงลูกมันจะต่างกัน เพราะตั๊กเติบโตมาจากครอบครัวที่มีแต่แม่ เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน แต่ไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อยของตัวเอง และแม่ก็ไม่ได้อยากพึ่งใคร เลยไม่ได้เรียกร้องการเลี้ยงดูจากพ่อ เราเลยลุยกันมา 2 คน ในขณะที่ลูกชายตั๊กเขามีพร้อมทุกอย่าง เราเลยจะเลี้ยงแบบแม่ไม่ได้ เพราะข้าวหอมไม่ต้องสู้อะไร นอกจากตัวเอง เพราะสังคมข้าวหอมจะแตกต่างจากตั๊ก เขาต้องผิดหวังบ้าง ถ้าเขาไม่รู้จักอารมณ์นี้เลย วันที่เขาเจอเขาจะรู้สึกแย่มาก ในขณะที่เราผิดหวังจนกลายเป็นเรื่องชิลล์ไปแล้ว (หัวเราะ)

 

เครดิตรูปและเรื่องจาก: OK! ISSUE 323

 

 

✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦

ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่

Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : twitter.com/okthailand

Comments

comments

okadmin

นิตยสาร OK! เป็นนิตยสารรายแรกและเพียงรายเดียวที่อัพเดตข่าวคราวของเหล่าดาราทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเจาะลึกทุกซอกทุกมุม รวมทั้งเรื่องส่วนตัวของเหล่าศิลปินและดาราสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

RELATED ARTICLES

ทำความรู้จักพร้อม-ราชภัทร วรสาร และเบ้นซ์-ณัฐพงศ์ ผาทอง 2 หนุ่มน่ารักจากซีรีส์วายน่าเลิฟ En of Love รักวุ่นๆ ของหนุ่มวิศวะ จากตอน เหนือพระราม แล้วจะตกหลุมรักพวกเขากันมากขึ้น!
ข้อคิดในนิทานสายดาร์กจากซีรีส์ It’s Okay to not be Okay