ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นความท้าทายมากแค่ไหนสำหรับการก้าวเข้ามาปั้นธุรกิจใหม่ในยุคที่การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ธุรกิจทางด้านความงาม” เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน คลินิกความสวยความงามก็มีให้เห็นแทบจะทุกซอกซอย แต่ในเมื่อวันนี้ทุกคนยังต้องการดูดี และนวัตกรรมก็ไม่เคยหยุดพัฒนา คลินิกความงามก็ยังมีที่ยืนและเป็นที่ต้องการของคนที่ต้องการ ครั้งนี้ OK! มีโอกาสได้มาทำความรู้จักและคุยกับแพม-รภัสสา พันธ์สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการและทายาทธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ชั้นนำที่วันนี้เปลี่ยนบทบาทมาเป็น Co-Founder ผู้ก่อตั้ง The Sign Clinic คลินิกความงามใหม่ใจกลางทองหล่อที่เกิดขึ้นมาจากมุมมองที่ชัดเจนและมุ่งมั่นว่า “เราจะคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อจุดประกายความงามที่สุดในแบบที่คุณเป็น” ซึ่งในอีกมุมหนึ่งที่มากกว่าการเป็นนักธุรกิจที่ OK! อยากให้ทุกคนได้รู้จักกับผู้หญิงเก่งคนนี้ก็คือ Passion และความตั้งใจจริงของแพมในการพาตัวเองเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายชีวิต และ The Sign Clinic ก็คือหนึ่งในเป้าหมายชีวิตที่แพมอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงความสำเร็จ
จุดเริ่มต้นของ The Sign Clinic
“เกิดจากการที่แพมเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งคนรอบข้างจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วแพมไม่ค่อยแต่งหน้าเลย เพราะไม่อยากให้ผิวโดนสารเคมีเยอะ แต่ก็มีวินัยกับตัวเองเรื่องของการบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน และมีตารางการดูแลผิวให้กับตัวเอง รู้เลยว่าภายใน 1 เดือน ต้องทำอะไรบ้าง และอีก 6 เดือนข้างหน้าเราต้องทำอะไร คือแพมต้องทำทรีตเมนต์ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และยกกระชับผิว 1 ครั้ง ใน 6 เดือน ทำให้แพมมีโอกาสได้ใช้บริการคลินิกความงามต่างๆ มาค่อนข้างเยอะ ได้ศึกษานวัตกรรมต่างๆ เพื่อหาว่าสิ่งไหนที่ดีที่สุดสำหรับเรา พอเราศึกษาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่ว่า เราเองก็ชอบดูแลตัวเอง เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง จึงอยากจะแนะนำแต่สิ่งดีๆ จากประสบการณ์ตรงของเราให้กับคนที่ชอบดูแลตัวเองเฉกเช่นเรา เลยเป็นแรงผลักดันให้เราตัดสินใจวางเป้าหมายว่าจะทำธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจัง”
การพลิกบทบาทจากธุรกิจด้านยานยนต์สู่ธุรกิจด้านความงาม
แพมเองเริ่มทำงานตั้งแต่วัยเรียนโดยช่วยดูแลธุรกิจของที่บ้านก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อย พอถึงจุดหนึ่ง จริงๆ ก็ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เกิดความรู้สึกว่าอยากลุกขนึ้ มาทำอะไรของตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุดในตอนที่อายุยังไม่เยอะมาก ส่วนหนึ่งคืออยากพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวได้เห็นถึงศักยภาพของเราด้วยว่าแพมเองมีความมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง ไม่ใช่เพียงแค่สานต่อธุรกิจของครอบครัวเพียงอย่างเดียว อีกปัจจัยหนึ่งคืออยากทำธุรกิจบนความชอบส่วนตัวในเรื่องความงาม เลยตัดสินใจริเริ่ม The Sign Clinic ถามว่ากดดันมั้ย? กดดันค่ะ เพราะเราต้องพิสูจน์ตัวเองประกอบกับคุณพ่อก็ไม่ได้สนับสนุนแนวคิดนี้ในช่วงเริ่มต้น ก็เลยยิ่งกดดัน แต่พ อลงมือทำ คุณพ่อและคนในครอบครัวก็คอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนเรามาตลอด เช่นเดียวกับสามีของแพม โชคดีที่เขาจบด้านอินทีเรียร์มา เลยช่วยแพมได้ค่อนข้างเยอะ แพมเองก็แค่ให้โจทย์ไป โดยบอกว่าคอนเซ็ปต์ของที่นี่คือประสบการณ์ของลูกค้าที่เข้ารับบริการตั้งแต่ก้าวเข้ามาจนเดินจากไป จะต้องรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน ไม่รู้สึกอึดอัด จึงต้องลงรายละเอียดในทุกๆ Touch point ทำให้เขาต้องลงมาศึกษาธุรกิจด้านความงามเยอะมาก จนตอนนี้สามารถอธิบายเป็นเซลส์ขายแทนได้เลย (หัวเราะ)”
ความท้าทายกับการแข่งขันทางตลาดของธุรกิจความงาม
“ตอนแรกแพมก็คิดนะว่าตอนนี้คลินิกความงามย่านใจกลางเมืองมีเยอะมาก มองไปทางไหนก็เจอ แต่แพมมองเห็นช่องว่างในตลาดและโอกาสสำหรับธุรกิจความงามของแพมที่ The Sign Clinic ก็คือ แพมคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ปัจจุบันมีและเราสามารถหามาให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือนวัตกรรมต่างๆ บุคลากร และทุกๆ Touch point เราคัดสรรทุกอย่าง เพื่อนำมามอบให้ลูกค้าที่ไว้วางใจเราอย่างดีที่สุด อีกด้านหนึ่ง เมื่อเรามีเครื่องมือที่พร้อมแล้ว คุณหมอที่มีฝีมือมีความสามารถก็อยากที่จะเข้ามาสัมผัสกับเครื่องมือที่เรานำเข้ามาใช้ เพราะทุกท่านรู้ว่าเครื่องมือที่เรามี หลายๆ แห่งไม่มี ในขณะที่มันให้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้คุณหมอเก่งๆ ก็อยากเข้ามาใช้เครื่องมือของเรา ซึ่งตอนนี้เรามีนวัตกรรมที่โดดเด่นมากคือ PicoWay Laser เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวงการเลเซอร์ผิวพรรณที่ได้รับการรับรองจาก USFDA ในเรื่องของการรักษาสิว ฝ้า กระ ริ้วรอย และรอยสัก โดยใช้ความร้อนที่น้อยมากๆใช้ระยะเวลาและจำนวนครั้งในการรักษาน้อยลง แต่เห็นผลชัดเจนมาก โดยเฉพาะเรื่องของหลุมสิวที่ได้รับ feedback ที่ดีจากลูกค้ามาตลอด”
เป้าหมายที่ชัดเจนของ The Sign Clinic
“ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน แพมเป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยการวางแผนล่วงหน้า รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ตอนเรียนก็รู้ว่าอยากเรียนที่ไหน อยากเข้ามหาวิทยาลัยอะไร มาถึงวันนี้ที่ทำธุรกิจของตัวเอง ก็รู้ว่าแต่ละสเต็ปจะไปอย่างไร ตอนนี้มี 1 สาขา ก็รู้ว่าปีหน้าจะมีอีกกี่สาขา ทำอะไรบ้าง ไปได้ไกลแค่ไหน เพราะถ้าเราไม่วางเป้าหมาย มันจะไม่มีทางที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ แพมเลยตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 1 ปี จะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 สาขา และอีก 5 ปีข้างหน้า ก็ตั้งใจจะมีให้ครบถึง 10 สาขา นอกจากจำนวนสาขาแล้ว ก็ยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ของสาขาแรกที่ทองหล่อตรงนี้ให้เป็นในลักษณะของ Beauty and Wellness Center โดยคาดว่าน่าจะได้เห็นกันจริงๆ ในช่วง 2 ปีข้างหน้า หลักๆ คือจะเพิ่มในส่วนของ Hair Transplant (ศูนย์ดูแลสุขภาพเส้นผมและศัลยกรรมปลูกถ่ายเซลล์ผม) , Body & Weight Loss (ศูนย์กระชับรูปร่างและสัดส่วน) รวมไปถึง Cosmetic Surgery (การทำศัลยกรรมความงาม) แบบเต็มรูปแบบด้วย พร้อมกับเล็งหาพื้นที่เพื่อพัฒนาต่อยอด ให้เป็นในลักษณะกึ่งโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลที่ค่อนข้างครบวงจรมากขึ้น ส่วนการขยายสาขาไปต่างจังหวัดก็อยู่ในแผนงานด้วยเหมือนกัน เพราะธุรกิจของที่บ้านมีสาขาตามต่างจังหวัดมากกว่าที่กรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ เราก็จะค่อนข้างคุ้นเคยกับพื้นที่และกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัดพอสมควร ได้ทราบถึงปัญหาและรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร การจะไปตรงนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจและความท้าทายเช่นกัน”
หัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำธุรกิจ
“สิ่งแรกที่แพมให้ความสำคัญมาตลอดคือเรื่องการบริการ ลูกค้าต้องได้รับความพึงพอใจที่ดี และบุคลากรของเราก็ต้องมีความสุขภายใต้บรรยากาศการทำงานที่ดีด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อของแพมสอนมาตลอด ที่นี่เราอยู่กันเป็นครอบครัว อยู่กันแบบพี่-น้อง แพมทำบรรยากาศของการทำงานให้เหมือนกับอยู่บ้าน แพมเชื่อว่าเงินที่ได้ไม่ดีเท่ากับเงินที่เหลือ สิ่งที่บริษัทสามารถซัพพอร์ตพนักงานได้ แพมไม่เคยลังเลที่จะมอบให้ อาจจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่แพมดีใจที่ได้มอบให้กับพวกเขา ในส่วนของการทำงาน บุคลากรทุกคน สามารถคุยปัญหาต่างๆ กับแพมได้โดยตรง ซึ่งทุกคนก็แฮปปี้ และแพมเองก็เปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเราจะได้รับรู้ถึงปัญหาในหลายมิติเพื่อปรับแก้และพัฒนา สร้างรากฐานขององค์กรให้แข็งแรง อีกอย่างคือแพมเป็นคนที่ “เรียบ เร็ว ชัดเจน” คือถ้ามันไม่ใช่แบบนี้ เราก็ไม่เอา แต่ถ้าตัดสินใจที่จะไปทางนี้แล้ว ก็ต้องพยายามไปให้ถึงจุดหมายนี่คือสิ่งที่แพมเป็น และถ่ายทอดมาถึงแนวทางในการทำงานด้วย ตามสโลแกนของคลินิก เดอะไซน์คลินิก “ที่สุด.. ในแบบ
ที่เป็นคุณ”
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments
