
หลังจุดประกายรักแรกพบผ่านเพลง “หน้าหนาวที่แล้ว” ชื่อของ The Toys หรือ ‘ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน’ ก็ติดอันดับน่าค้นหาทันที ด้วยสไตล์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับตัวตนนิ่งๆ ที่กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้คนพุ่งเป้าความสนใจมาที่เขา ไม่ใช่แค่ในฐานะลูกของอดีตนักร้องสาวนิตยา บุญสูงเนิน หรือหลานของเจินเจิน บุญสูงเนิน แต่ในฐานะศิลปินดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงไทย ทั้งเคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในเพลงฮิตของศิลปินมากหน้าหลายตา ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตของทอยได้เจอกับเซอร์ไพรส์หลายอย่าง รวมถึงการได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในสาขา Male Rising Star ของ OK! Awards ในปีนี้ “ถือเป็นเซอร์ไพรส์มากครับ ตอนนี้ก็ยังงงๆ เพราะคนที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขานี้ล้วนมีคุณสมบัติพร้อมทั้งนั้น ด้วยความที่ไม่คาดหวังว่าตัวเองจะได้ ผมจึงรู้สึกตกใจในความน่ารักของแฟนคลับ” และล่าสุดยังโกอินเตอร์ไปคว้ารางวัลจากเวทีงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ของเกาหลี 2018 MAMA (Mnet Asian Music Awards) ในสาขา Best New Asian Artist (Thailand) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา
ขอเป็นตัวเองแบบนี้ล่ะ
แม้จะโดดเด่นเพียงใด แต่ทอยที่ผันตัวเองจากคนเบื้องหลังกลายมาเป็นคนเบื้องหน้าก็ยังต้องรับมือกับกระแสความสนใจที่ถาโถมมาพร้อมสารพัดข่าว โดยเฉพาะการตั้งแง่กับบุคลิกสุดนิ่งที่พาลให้หลายคนคิดว่าหยิ่ง ทั้งที่ไม่ทันได้เปิดใจทำความรู้จักกับตัวตนจริงๆ ของหนุ่มฮอตในกระแสคนนี้ด้วยซ้ำ “ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่ผมเป็นคนที่ไม่มีสคริปต์ ลองคิดดูว่าจะน่าอึดอัดแค่ไหน ถ้าต้องพยายามเป็นคนอื่นในทุกๆ วัน นั่นก็เหมือนเรากำลังเปิดร้านกะเพราหมูสับ แต่มีคนมาบอกว่าอยากกินไข่พะโล้ ผมก็ต้องบอกไปว่าไม่มีจริงๆ เพราะทำเป็นอย่างเดียว เรามีความสุขกับการขายกะเพราหมูสับ แม้มีคนกินน้อยก็ยินดี เพราะเราชอบ คือต่อให้คนจะชอบหรือไม่ชอบแค่ไหน แต่ผมก็ขอเป็นตัวเองแบบนี้แล้วกัน”
ชีวิตเกินฝันบนสปอตไลต์
จะว่าไปชีวิตท่ามกลางสปอตไลต์ของทอยก็เหมือนเงาสะท้อนสังคม “ผมเจอกับอะไรที่ไม่คาดฝันเยอะมากในช่วงปีแรกที่เข้าวงการ จากคนเบื้องหลังที่ไม่มีสปอตไลต์ส่อง ผมไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีคนเลื่อนสปอตไลต์มาส่อง นั่นทำให้ผมไม่ทันได้ตั้งตัว พูดตรงๆ ว่าตัวตนของผมไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคนดัง เพราะชอบอยู่กับตัวเอง แล้วก็คุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง…ส่วนใหญ่คนในสังคมจะคุยกันแค่ผ่านๆ ถ้าคุยแค่นั้นก็ไม่รู้เรื่องหรอก คือเขาไม่ได้มาถามผมอย่างที่เรากำลังคุยกันอยู่ตอนนี้ แค่เห็นหน้าและคุยด้วย 3-4 คำ ก็ตัดสินว่าผมเป็นคนคุยไม่รู้เรื่อง ไม่ยิ้ม หรืออะไรทำนองนั้น นี่คือเรื่องจริงที่สังคมเป็น”
จากเป้าหมายเล็กๆ สู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ฟังดูเหมือนเรื่องดราม่า แต่ทุกวันนี้ความฮอตของทอยก็เบียดเวลาจนแน่น เรียกว่าแทบไม่มีเวลากินข้าวกันเลยทีเดียว ถึงจะเป็นอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังมีความสุขกับการได้คลุกคลีอยู่กับสิ่งที่เขารัก แถมทำเพลงอะไรออกมาก็ฮิต จนพาลให้คิดว่าความฝันของผู้ชายที่มีสายเลือดศิลปินเต็มตัวคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ แต่ตรงกันข้าม! “จริงๆ ตอนนี้เลยเป้าหมายของผมมานานแล้วครับ ด้วยความที่ตอนนั้นยังเด็กเป้าหมายของผมจึงเล็กมาก แค่อยากทำเพลงให้มีคนฟังสักหมื่นคนก็มีความสุขแล้ว พอเลยจากจุดนั้นมาก็ยังไม่คิดถึงเป้าหมายต่อไป เพราะอยากปล่อยให้มันพัดไปเองตามกาลเวลา ผมอยากเดินดูสวนดอกไม้ข้างทางและค่อยๆ ซึมซับกับบรรยากาศรอบข้าง คือยังไม่อยากรีบไปถึงข้างหน้า เพราะรู้สึกว่าแบบนี้มันทำให้เราสนุกและสดชื่นกว่า”
ดนตรี แฟนคลับ และเส้นทางที่เลือก
มองเผินๆ อาจดูเหมือนเป็นคนไม่แคร์อะไร แต่กลุ่มคนสำคัญที่เหนี่ยวรั้งให้ผู้ชายที่บอกว่าตัวเองไม่เหมาะจะเป็นคนเบื้องหน้า ยังคงเดินหน้าต่อไปก็คือแฟนคลับ “ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดที่เลือกคนฟัง ซึ่งยังรอผลงานใหม่ๆ ของผมอยู่ ผมเลือกเขามาก่อน ส่วนตัวผมเมื่อถึงวันหนึ่งที่อายุมากแล้วขี้เกียจเดินทาง ค่อยกลับไปทำงานเบื้องหลัง ทุกวันนี้ผมยังไม่หยุดที่จะฝึกหรือพัฒนาตัวเองเรื่องการโปรดิวซ์เพลง เพราะมันก็เหมือนภาษา ถ้าเราอยากใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งได้ก็ต้องอยู่กับมันทุกวัน ผมอยู่กับดนตรีทุกวันจนชิน วันไหนไม่ได้อยู่กับดนตรีจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนชีวิตขาดอะไรไป” ทอยสรุปถึงเส้นทางที่ตัวเขาเลือกเดิน และแน่นอนว่าสปอตไลต์ที่ส่องอยู่บนตัวเขาก็ยังคงสาดแสงต่อไป พร้อมๆ กับการทยอยผลิตผลงานเพลงใหม่ออกมาสร้างสีสันให้กับวงการเพลงไทยภายใต้ชื่อ The Toys
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : www.okmagazine-thai.com
♥ Instagram : www.instagram.com/okmagazinethailand
♥ Facebook : www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : twitter.com/okthailand
Comments
comments