
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับของชาเขียว ใครที่ได้ลิ้มลองชาเขียวแท้ๆ ของที่นั่นบอกเลยว่าฟินลืมโลก แต่ครั้งนี้ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น เมื่อชาเขียวแท้ TSUJIRI จากเกียวโตได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว
และอย่างที่รู้กันว่าสิ่งต่างๆ จากแดนปลาดิบล้วนต้องมีสตอรี่ TSUJIRI ก็เช่นกัน TSUJIRI ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองอูจิ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1860 ซึ่งตรงกับช่วงหลังสิ้นสุดยุคเอโดะโบราณ ด้วยความมุ่งมั่นของริเอมอน ซึจิ ที่อยากจะพัฒนาอุตสาหกรรมใบชา โดยพยายามคิดค้นวิธีปรับปรุงคุณภาพของใบชาเขียว จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการผลิตใบชากิวกุโร (Gyokuro) ที่ถือเป็นเกรดชาเขียวที่คุณภาพดีที่สุดและมีราคาแพงที่สุด แถมยังประดิษฐ์กล่องเก็บใบชาเพื่อเก็บรักษาความสดใหม่ของใบชาให้นานขึ้นอีกด้วย
แบรนด์นี้ไม่ธรรมดานะ เพราะ 156 ปีที่ผ่านมาได้เปิดสาขาไปแล้ว 8 ประเทศทั่วโลก (อาจจะมองดูน้อย แต่คนญี่ปุ่นเค้าเน้นรักษาคุณภาพมากกว่าปริมาณนะ) ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับดีมากๆ จนได้มาเปิดตัวที่เมืองไทยนี่ล่ะ และนี่ก็คือ 4 เมนูซิกเนเจอร์ที่สาวกชาเขียวห้ามพลาด!
1.O-Matcha Cappuccino
มีจุดเด่นที่วิธีการทำใช้น้ำที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส และนมที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ไม่ร้อนเกินไป เพื่อที่จะดึงรสมัทฉะออกมาได้ดีที่สุด และยังมีวิธีการคนแบบเฉพาะตัว ผู้ชงจะต้องผ่านการเทรนนิ่งมาเป็นอย่างดี โดยจะต้องเริ่มจากคนขึ้นลงแบบซิกแซก แล้วโยกไปทางซ้ายและขวาช้าๆ ก่อน (อุต่ะ! นี่สินะเคล็ดลับความอร่อย) เมื่อผงมัทฉะละลายเข้ากับน้ำดีแล้วจึงเริ่มเร่งความเร็ว เพื่อให้เกิดฟองที่ละเอียดบนผิวของ O-Matcha จากนั้นจึงสตีมนมสดและค่อยๆ บรรจงเทลงไปตรงกลางให้กระทบกับผิวด้านบนน้อยที่สุด แล้วจบด้วยการโรยผงมัทฉะลงไปตรงกลางเพื่อความสวยงาม
2.Houjicha Milk Float
Houjicha คือหนึ่งในชายอดนิยมที่นำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม เนื่องจากให้ความหอมและมีคาเฟอีนต่ำกว่าชาเขียว เมนูนี้เกิดจากการผสมผงชา Houjicha และนมสดปั่นเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รสชาติหอมหวาน จากนั้นจึง On Top ด้วยซอฟต์ครีมมัทฉะ ซึ่งซอฟต์ครีมถือเป็นไฮไลต์ของร้าน TSUJIRI โดยมีจุดเด่นคือผงชามัทฉะคุณภาพสูงจากไร่ชาของ TSUJIRI ที่ใส่ลงไปอย่างเข้มข้น
3.Shiratama Kinako Kuromitsu
เมนูนี้เป็นขนมโบราณของญี่ปุ่น ประกอบด้วยชิราตามะที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวเมล็ดสั้น ต่างจากโมจิและดังโงะที่พบเห็นทั่วไปคือเกรดของแป้งที่นำมาทำและกรรมวิธีการโม่แป้ง ซึ่งชิราตามะจะให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มเนียนกว่า รับประทานคู่กับผงถั่วเหลืองอบ และราดด้วยคุโรมิสึ น้ำเชื่อมญี่ปุ่นที่ทำมาจากน้ำตาลทรายแดง ซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับเฉพาะของทางญี่ปุ่น
4.Tsujiri Sundae
เป็นเมนูซิกเนเจอร์ในซีรีส์ซันเดย์ของทางร้าน โดยเป็นซันเดย์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของส่วนประกอบเฉพาะของทางร้าน เริ่มจากเกนไม คือข้าวพองที่ได้จากการนำข้าวไปคั่วจนได้ที่, ซอสถั่วแดงกวน, ซอฟต์ครีมมัทฉะ เสริมด้วยท็อปปิ้งซิกเนเจอร์คือชิราตามะและเกาลัดเชื่อมญี่ปุ่น และจบด้วยโฮมเมดเวเฟอร์ที่ทำสดใหม่ด้วยมือแบบชิ้นต่อชิ้น
นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษครั้งแรกในโลก กับมาการองที่เติมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นด้วยผงมัทฉะจากเกียวโตและกรรมวิธีการตีแบบเฟรนช์ (การตีไข่ขาวกับน้ำตาลจนถึงจุดที่เหมาะสม แล้วตะล่อมผงอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งลงไปอย่างเบามือ แต่ให้เข้ากันเร็วที่สุด จึงให้เนื้อสัมผัสเบาที่สุด) ที่ถือว่าเป็นวิธีที่ใช้ทักษะในการทำมากที่สุด
และ Tsujiri ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกเพียบเลยล่ะ รีบพุ่งตัวไปที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 7 Helix Quartier ติดตามภาพสุดน่ากินได้ที่ Facebook: TSUJIRI Thailand และ Instagram: tsujiri_th
✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦✦
ติดตามนิตยสาร OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.okmagazine-thai.com/
♥ Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
♥ Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
♥ Twitter : https://twitter.com/okthailand
Comments
comments